เครื่องดื่มแห่งยุคต้องยกให้ “กาแฟ” ไม่ใช่แค่คนไทยที่ฮิต แต่คนทั่วโลกก็นิยมเช่นกันโดยเชื่อว่าคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า แก้ง่วงในเวลาทำงาน บางคนถึงขนาด “ติดกาแฟ” ต้องกินวันละ 2-3 แก้วกันเลยทีเดียว 

 

สถานการณ์ธุรกิจกาแฟจึงเติบโตราวกับดอกเห็ด ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นพบว่าร้านกาแฟในเมืองไทยสำรวจเมื่อประมาณต้นปี 2561 นั้นมีร้านกาแฟอยู่ทั่วประเทศกว่า 24,784 ร้าน และดูเหมือนว่าการเติบโตของร้านกาแฟเมืองไทยจะยังไม่หยุดง่ายๆ ใครที่อยากมีธุรกิจของตัวเองก็มักจะหันไปเปิดร้านกาแฟ

ภาพจาก goo.gl/szcjQ9

 

ทั้งนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com เห็นว่าในกระแสฮอตฮิตที่เหมือนจะดี บางทีอาจเป็นเหมือนการล่อแมงเม่าให้บินเข้ากองไฟ เรามีตัวอย่างน่าสนใจจากสถานการณ์ธุรกิจร้านกาแฟในเกาหลีใต้เอามาฝากกัน สำหรับใครที่คิดจะเปิดร้านกาแฟควรศึกษาข้อมูลเหล่านี้เอาไว้เพื่อใช้วางแผนในการเริ่มต้นธุรกิจให้สวยงามตามที่ตั้งใจ

ในเกาหลีใต้ได้ชื่อว่าเป็น “คอกาแฟแห่งทวีเอเชีย” ด้วยความที่คนวัยทำงานในเกาหลีใต้ชอบดื่มกาแฟมาก ร้านกาแฟรวมถึงคาเฟ่น้อยใหญ่จึงมีเปิดอยู่ทั่วทุกซอกทุกมุม มีการสำรวจพบว่าในปี 1999 ร้านกาแฟในกรุงโซลมีอยู่ 300 ร้าน แต่เมื่อปี 2016 กลับพบว่ามีร้านกาแฟมากถึง 18,316 ร้าน(ทั้งแฟรนไชส์และไม่ใช่แฟรนไชส์) ซึ่งมากกว่าร้านสะดวกซื้อและร้านไก่ทอดทั่วทั้งกรุงโซลรวมกัน

 

ความนิยมในการดื่มกาแฟของคนเกาหลีใต้ยังตอกย้ำด้วยตัวเลขน่าสนใจว่าร้านกาแฟในโซลจะรองรับลูกค้าประมาณ 10 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 17 ร้านต่อ 10,000 คน เทียบกันแล้วโซลมีร้านกาแฟมากกว่าบ้านเกิดสตาร์บัคส์ในเมืองซีแอตเทิลที่มี 15 ร้านต่อ 10,000 คน

ภาพจาก goo.gl/szcjQ9
 

เมื่อกระแสบูมถึงขีดสุดเช่นนี้ ทำให้ธุรกิจกาแฟเริ่มขยายเข้าไปในธุรกิจอื่นด้วยทั้งร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ โดยในเซเว่นจะขายกาแฟแก้วละประมาณ 1,000 วอน ( 29.24 บาท) รวมถึงมีอัตราการเติบโตของร้านกาแฟในร้านสะดวกซื้อเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในปี 2015 ที่รายงานกล่าวว่มีการเติบโตมากกว่า 88 %  

 

อย่างไรก็ตามล่าสุดนี้ดูเหมือนว่าแฟรนไชส์กาแฟในเกาหลีใต้จะมาถึงจุดอิ่มตัวจริงๆ ตามรายงานของ Korea Herald ระบุว่า มีแฟรนไชส์ร้านกาแฟทยอยปิดกิจการไปไม่ต่ำกว่า 1,000 แห่ง จากธุรกิจกาแฟในรูปแบบแฟรนไชส์ที่มีทั่วเกาหลีใต้ประมาณ 11,198 แห่ง เหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็คือการขยายตัวของธุรกิจกาแฟที่ไปเติบโตในร้านสะดวกซื้อ ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้นซึ่งทำให้ร้านกาแฟแบบท้องถิ่นดำเนินธุรกิจต่อไปได้ยาก

ภาพจาก goo.gl/images/tiGXte

ตัวอย่างของร้านกาแฟในเกาหลีใต้ที่ได้รับผลกระทบชัดเจนคือ Cafe Droptop ที่ก่อตั้งมานานกว่า 7 ปี มีสาขาทั่วประเทศกว่า 240 แห่ง แต่รอบปีที่ผ่านมา Cafe Droptop ได้ประกาศลดต้นทุนของบริษัทเพื่อให้สามารถแข่งขันต่อไปในตลาดได้  หรือแม้แต่ Caffe Bene ที่ออกอาการสาหัสไม่แพ้กัน ถึงกับต้องยื่นต่อศาลเพื่อขอคุ้มครองการล้มละลายเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ภาพจาก goo.gl/images/gipKVk

 

ในประเทศไทยภาพรวมการเติบโตของร้านกาแฟดูจะใกล้เคียงกับเกาหลีใต้มาก ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เกิดร้านกาแฟในรูปแบบต่างๆ ทั้งร้านริมทาง คาเฟ่แบบต่างๆ ซึ่งคาดว่าการเติบโตที่บูมสุดขีดแบบนี้จะทำให้ร้านกาแฟส่วนหนึ่งต้องได้รับผลกระทบ จากการที่ร้านสะดวกซื้อก็มีการจำหน่ายกาแฟ

 

และแบรนด์ใหญ่ๆ ก็อัดงบทางการตลาดสร้างความน่าสนใจให้กับร้านค้า ทำให้โอกาสเติบโตของร้านค้ารายเล็กๆ ดูจะมีปัญหาในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การพิจารณาข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อให้กลัว แต่ให้รู้ไว้เพื่อหาทางแก้ไขล่วงหน้า 

ภาพจาก goo.gl/images/tG6JFi

ดังตัวอย่างของร้านกาแฟในเกาหลีใต้บางส่วนที่ไม่ยอมแพ้กับการแข่งขันอันดุเดือดที่เกิดขึ้นพัฒนาธุรกิจตัวเองให้เป็นยิ่งกว่าร้านกาแฟซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลในระดับหนึ่ง เช่น ร้าน Dodo Café ในย่าน ซัมชองดง ได้นำเอาเมนูทาโก้และแฮมเบอร์เกอร์มาเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน หรืออย่างร้าน Glamorous Penguin ในย่านอิแทวอน มีการเสิร์ฟอาหารนานาชาติจากทั่วโลกให้คอกาแฟมีเมนูทางเลือกในการรับประทานมากขึ้น

 

มองกลับมาที่ประเทศไทยอีกทีคนที่อยากมีร้านกาแฟของตัวเองจะฝ่าวิกฤตินี้ได้อย่างไร สิ่งสำคัญคือ ร้านกาแฟยุคใหม่ต้องขายมากกว่ากาแฟ หากคิดจะทำเป็นธุรกิจจริงจังจำเป็นต้องลงทุนในเรื่องภาพลักษณ์ บรรยากาศ สร้างอัตลักษณ์ของตัวเองให้ชัดเจน รวมถึงร้านกาแฟยุคใหม่ก็ไม่ใช่จะมีแต่กาแฟแต่ควรมีเมนูที่หลากหลายทั้งอาหารจานหลัก ของว่าง เพราะร้านกาแฟยุคใหม่คือศูนย์รวมให้ลูกค้าได้เข้ามาแล้วรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ บางครั้งควรมีเพลงเปิดเบาๆ ให้ลูกค้ารู้สึกสุนทรีย์ ซึ่งอารมณ์แห่งความสุขแบบนี้จะหาไม่ได้จากการซื้อกาแฟในร้านสะดวกซื้อทั้งหลาย

ภาพจาก goo.gl/BCT4Q3

 

ดังนั้นก่อนจะมีร้านกาแฟของตัวเองไม่เพียงแค่คิดว่าจะปรุงกาแฟให้อร่อยได้อย่างไร แต่ต้องคิดว่าจะสร้างจุดเด่นของร้านให้เกิดขึ้นได้อย่างไร ในยุคนี้เรามีอินเทอร์เนตเป็นตัวช่วยในการทำตลาดที่ดี แน่นอนว่าคู่แข่งต้องเยอะเช่นกันแต่ไอเดียที่ดีจะทำให้เราชนะคู่แข่งได้ไม่ยาก สำคัญคือต้องหาความแปลกและแตกต่างให้เจอ เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญสู่คำว่ากำไรในธุรกิจร้านกาแฟ

ภาพจาก goo.gl/BCT4Q3

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

 

ขอบคุณข้อมูล goo.gl/BCT4Q3 , goo.gl/szcjQ9

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)