บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    Startups    การพัฒนาและการออกแบบ
1.7K
2 นาที
11 มกราคม 2562
ชีวิตดิจิทัล ง่าย และสบายกว่ามาก
 
ภาพจาก goo.gl/gZbRjp

ที่ผ่านมาผมได้ทดลองเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองเป็นแบบ cashless คือไม่ใช้เงินสดเลยสักบาท เพราะตอนนี้การใช้เงินที่ไม่ใช่เงินสดเป็นเงินประเภทดิจิทัลหรือบัตรเครดิตต่าง ๆ มีเยอะมากเลยอยากจะลองปฏิเสธการใช้เงินสดโดยสิ้นเชิงดูบ้าง 
 
อย่างตอนเช้าผมนั่ง Grab มาทำงานถึงเวลาจ่ายเงินก็ตัดบัตรเครดิต พอถึงออฟฟิศอยากจะซื้อนมหรือของกินใน 7-eleven ก็จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet แค่หยิบมือถือมาสแกนบาร์โค้ดเท่านั้น เมื่อถึงเวลาเที่ยงที่ต้องลงไปกินข้าวโชคดีมากที่ศูนย์อาหารที่ตึก CW Tower ที่รัชดาที่ออฟฟิศของผมตั้งอยู่นั้นใช้ระบบของแรบบิท ผมก็ใช้โทรศัพท์มือถือไปแตะที่เครื่องอ่าน

ซึ่งตอนนี้ผมใช้โทรศัพท์มือถือของซัมซุงอยู่ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้ระบบ NFC (Near-field communication) ใช้คู่กับซิมแรบบิทซึ่งซิมนี้จะเหมือนกับมีบัตรแรบบิทอยู่ในตัวเองและสามารถคุยกับแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ในมือถือของเราได้ สามารถเติมเงินโดยทำผ่านธนาคาร วิธีการคือลงแอป mPay ของทาง ais แล้วผูกแอปกับธนาคารที่เราใช้ และทำการโอนเงินเข้าบัญชีแรบบิทที่เป็นวอลเล็ทของเรา เมื่อมีเงินในวอลเล็ทก็เป็นเรื่องง่ายแค่เอาโทรศัพท์มือถือของเราไปแตะ ซึ่งมือถือของเราจะมีการส่งสัญญาณที่เป็น NFC คล้าย ๆ กับเราใช้บัตรของรถไฟฟ้าเพียงแต่เป็นบัตรที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ 

ภาพจาก goo.gl/26huaP
 
หากในวันนั้นมีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า mrt ก็ใช้บัตรที่เราก็มีอยู่หรือจะขึ้น bts ก็แค่โทรศัพท์ไปแตะ ฉะนั้นชีวิตก็จะง่ายมากขึ้น หรือพอถึงเวลากลางคืนจะไปกินข้าวกับเพื่อนกินเสร็จพอจะจ่ายเงินก็ใช้โทรศัพท์มือถืออีกนั่นแหละเพราะเรามี Samsung Pay ที่เราได้ผูกบัตรเครดิตไว้แล้ว เวลาจ่ายเงินก็คือไปที่เครื่องรูดบัตร เปิดแอปซัมซุงเพย์และเลือกว่าจะใช้บัตรเครดิตใบไหน จากนั้นเอาโทรศัพท์ไปแตะใกล้ ๆ กับเครื่องรูดบัตรหรือเครื่อง EDC ตัวมือถือจะส่งสัญญาณไปเหมือนกับเรารูดบัตร ถือเป็นการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตโดยที่ไม่ต้องหยิบบัตรเครดิตออกมา 
 
ผมใช้ชีวิตแบบนี้ประมาณหนึ่งอาทิตย์แทบไม่ได้ใช้เงินสดเลยสักบาทเดียว ชีวิตวนเวียนอยู่กับการใช้ cashless คือใช้เงินสดน้อยมาก เป็นการทดลองที่ไม่ได้ฝืนตัวเองมากนัก คิดว่าวิถีชีวิตแบบนี้มันมาแล้วล่ะ ซึ่งสำหรับบางท่านอาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จะบอกว่าเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เกิดได้จริงในชีวิตประจำวันของเรา และเป็นเรื่องที่ไม่ได้ลำบากอะไรเลยจริง ๆ เป็นเรื่องที่สบายขึ้นด้วยซ้ำ

เราไม่ต้องมากังวลเรื่องของจำนวนเหรียญหรือเงินปลีก และโดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของผู้ชายที่มักมีอยู่สองแบบคือ พวกหนึ่งที่กระเป๋าสตางค์จะตุงเหมือนซาลาเปา พกทุกอย่างทั้งบัตรเครดิต บิลต่าง ๆ เหรียญต่าง ๆ เอาไว้ในกระเป๋า กับอีกพวกคือไม่ชอบพกกระเป๋าสตางค์หรือชอบกระเป๋าแบบบาง ๆ ผมเป็นประเภทหลังที่ทุกวันนี้ไม่พกกระเป๋าสตางค์กับตัวแล้วคือจะไม่พกเงินสดติดตัวเลย ในกระเป๋าสตางค์ที่เก็บไว้จะมีแค่บัตรเครดิตไม่กี่ใบ บัตรรถไฟฟ้า บัตรเอทีเอ็มเผื่อเอาไว้ มีเงินอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้คือชอบที่จะเดินตัวเบา ๆ มีแค่มือถือติดตัวเท่านั้น 

ภาพจาก goo.gl/sBk8Du
 
หลายคนอาจกังวลว่าหากเกิดเหตุการณ์มือถือหายหรือโดนขโมยจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างคงจบ อยากจะบอกว่าไม่จบครับเพราะผมเองก็เคยมือถือหายเหมือนกัน แต่การที่คนอื่นจะเข้าไปใช้วอลเล็ทของเราได้ต้องมีพาสเวิร์ดซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่กันไว้ หรือบางแอปก็ต้องใช้ลายนิ้วมือของเราในการสแกนอีกทีหนึ่ง ฉะนั้นในแง่ความปลอดภัยถือว่ามีอยู่สูง

สำหรับผู้ชายวิถีแบบนี้จะช่วยตัดปัญหากระเป๋าสตางค์หายไปได้เลย และสำหรับผู้ชายบางท่านที่บางทีต้องพกบัตรประชาชน พกนั่นพกนี่ต่าง ๆ ผมแนะนำว่าเอกสารบางอย่าง เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน พาสปอร์ต บุ๊กแบงก์ วิธีของผมคือจะสแกนแล้วเก็บไว้บนคลาวด์ และหากมีใครต้องการที่จะขอเอกสารสำคัญเหล่านี้ เพียงไม่กี่นาทีเราก็สามารถส่งให้เขาได้

เราสามารถส่งทางอีเมลให้เขาไปพริ้นต์ออกมาแล้วลงลายเซ็นได้เลย เรียกว่าผมมีเอกสารสำคัญรวมถึงของทั้งครอบครัวในมือและสามารถส่งได้ในทันที เพราะเอกสารทั้งหมดถูกเก็บไว้ในคลาวด์ทั้งหมดแล้ว เมื่อต้องการที่จะใช้งานก็เพียงแค่เปิดโทรศัพท์มือถือแล้วเข้าไปในคลาวด์เซฟไฟล์ลงมาก็สามารถใช้ได้เลย เมื่อเราจัดการกับสิ่งเหล่านี้แล้วก็จะทำให้เอกสารทุกอย่างอยู่ในมือเรา รวมถึงการเงิน หุ้น การลงทุน ทุกอย่างถูกเก็บออนไลน์ได้หมด

หลายคนอาจจะยังกลัวอยู่แต่ผมทำแบบนี้มาประมาณ 5-6 ปีแล้ว และผมไม่ได้รู้สึกกลัวตรงนี้เพราะว่าเทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งน่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือการไม่ใช่เทคโนโลยีมากกว่า เพราะมันทำให้ชีวิตเรายุ่งยากเหมือนที่ผ่านมา

ภาพจาก goo.gl/ez31f5
 
Cashless นั้นจะมาพร้อมกับ  Paperless คือการไม่ใช้กระดาษ โดยส่วนตัวทุกวันนี้ผมไม่ใช้กระดาษ ไม่ว่าจะไปประชุมที่ไหนก็ตามไม่เคยพกสมุดไปเลยสักเล่ม ไม่เคยหยิบปากกาหรือขอกระดาษมาจด เพราะว่าเมื่อต้องการจะจดอะไรสักอย่างก็จะจดใส่โทรศัพท์มือถือไว้ โปรแกรมที่ใช้ประจำก็คือ Evernote เป็นโปรแกรมโน้ตที่จะซิงค์กับมือถือตลอด เมื่อเราบังคับตัวเองให้อยู่ในชีวิตที่เป็นดิจิทัลมาก ๆ

แล้วผลก็คือเราจะเริ่มบริหารข้อมูลทุกอย่างได้ง่ายและราบรื่นมากขึ้น ความสะดวกสบายหรือความสามารถในการจัดการต่าง ๆ จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น อยากให้ทุกท่านลองหัดใช้ดูเพราะว่ามันไม่ได้ยาก ค่อนข้างง่ายมากด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าแรก ๆ อาจต้องฝืน ๆ ตัวเองอยู่สักหน่อย 
 
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่เหลือเชื่อแต่เป็นเรื่องปกติมาก ๆ เด็กรุ่นใหม่หรือหลาย ๆ คนก็เริ่มใช้กันแล้ว หากอยากจะลองใช้ชีวิตดิจิทัลดูบ้างต้องทำเลยครับ เริ่มจากไปดาวน์โหลดพวกแอปพลิเคชันโมบายล์แบงค์กิ้งแล้วลองใช้ดู หรือแอบพลิเคชัน mPay สำหรับท่านที่ใช้เครือข่ายของ ais อยู่แล้วลองไปขอเปลี่ยนเป็นแรบบิทซิมและยิ่งโทรศัพท์ที่ใช้ก็เป็นระบบแอนดรอยด์ด้วยแล้วละก็โทรศัพท์ของคุณจะกลายเป็นกระเป๋าเงินได้ทันที ไม่ว่าจะไปที่ไหนทั้งร้านฟาสต์ฟู้ด ศูนย์อาหาร ฯลฯ

ทุกอย่างง่ายและรวดเร็วเพียงแค่เอาโทรศัพท์ไปแตะเท่านั้น ไม่ต้องต่อคิวแลกบัตรเพราะมือถือจะเป็นวอลเล็ทหรือกระเป๋าสตางค์ได้เลย บอกได้ว่าสบายกว่าจริง ๆ หรือหากใช้ซัมซุงรุ่นใหม่ ๆ ก็จะมี Samsung Pay ที่สามารถเอาบัตรเครดิตเข้าไปผูกกับแอปได้ ลองใช้กันดูครับเพราะคุณไม่ต้องพกบัตรเครดิตอีกต่อไป Samsung Pay สามารถใช้กับเครื่องรูดบัตรที่เป็นรุ่นเก่าได้ คุณจะมีอิสระมากขึ้น ถือมือถือเครื่องเดียวก็สามารถลุยออกไปในโลกกว้างได้ทันทีเลย
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
499
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด