บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การขาย
1.5K
2 นาที
30 เมษายน 2562
ยุคนี้แค่สร้างแบรนด์ไม่พอแต่ต้องปิดการขายได้เลย


 
สำหรับผมหลักในการทำการตลาดนั้นจะมีหลายวิธีการ แต่ต้องถามว่าทำไมเราต้องทำการตลาด ก็เพราะคนจะซื้อสินค้าสักชิ้นต้องรู้จักสินค้านั้นก่อนว่าคุณสมบัติเป็นอย่างไร หรือรู้สึกคุ้นเคยกับสินค้ายี่ห้อนี้จึงจะหยิบขึ้นมาดูและซื้อ แต่กับสินค้าที่คนไม่รู้จักเลยโอกาสที่คนจะหยิบขึ้นมาซื้อนั้นน่าจะมีโอกาสน้อยกว่ามากเพราะขาดความเชื่อมั่น 
 
สมมติมีสินค้าอยู่ 5 ชิ้นวางอยู่บนชั้นวาง ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 มุมคือเราจะหยิบสินค้าที่เราคุ้นเคยยี่ห้อกับหยิบสินค้าที่ราคาถูกที่สุด แล้วหากว่าเป็นสินค้าที่อยู่กลาง ๆ และลูกค้าคุ้นเคยยี่ห้อด้วย ผมว่านนี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่จะทำให้เราขายของได้มากขึ้น
 
นั่นคือสาเหตุว่าทำไมต้องทำการตลาด ทำไมถึงต้องทำให้คนรู้จักโลโก้ รู้จักแบรนด์ รู้จักสินค้า ก็เพราะเมื่อเขาคุ้นเคยกับโลโก้ คุ้นเคยกับชื่อสินค้า คุ้นเคยว่าสินค้านี้ทำอะไรได้บ้าง โอกาสที่จะซื้อสินค้านั้นก็มีสูง 

 
เห็นได้ว่าสมัยก่อนคนจะพยายามทำการตลาดโดยทำให้คนเห็น อย่างการติดบิลบอร์ด ติดป้ายข้างทาง ติดโลโก้ เมื่อก่อนผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมบริษัทนี้ต้องมาซื้อป้ายโลโก้หรือบิลบอร์ดใหญ่มากแล้วแปะแค่โลโก้ของตัวเองตัวใหญ่มาก ตอนหลังเมื่อเริ่มได้มาเรียนการตลาดจึงเริ่มเข้าใจว่าทำไม เพราะเป็นการทำให้คนคุ้นเคยกับโลโก้หรือแบรนด์มาร์ก 
 
การที่ทำให้เห็นบ่อย ๆ จะทำให้เกิดความคุ้นเคย เมื่อคนไปที่จุดขายสินค้าและรู้สึกว่าคุ้นเคยโอกาสที่จะซื้อสินค้าตัวนั้นก็มีมากขึ้น การที่ทำให้เกิดความคุ้นเคย การจดจำได้ เกิด awareness คือหลักการตลาดสมัยก่อน
 
แต่ในสมัยนี้เริ่มต้องทำให้มีในอีกระดับหนึ่งนั่นคือเกิด engagement คือการมีปฏิสัมพันธ์ การทำให้เกิดความรู้สึกดี การมีกิจกรรมต่าง ๆ ก็จะทำให้คุ้นเคยกับแบรนด์มากขึ้น ต่อมานักการตลาดจึงเริ่มมองว่าการทำให้เกิดความคุ้นเคยหรือ engage อย่างเดียวนั้นไม่พอแล้วแต่ต้องขายของได้เลย 
 
ดังนั้นจึงกลายเป็นว่าในยุคนี้เอเจนซี่หรือคนที่ทำด้านมาร์เก็ตติ้งหรือแบรนด์ต่าง ๆ ไม่ได้มองเฉพาะด้านการสร้างแบรนด์หรือทำให้คนรู้จักเท่านั้น แต่ต้องขยับไปถึงขั้นที่ทำให้คนซื้อได้เลยทีเดียว นี่แหละครับเรียกว่าเข้าสู่ยุคที่บรรดาเอเจนซี่หรือคนที่ทำการตลาดต่าง ๆ คิดจะสร้างแบรนด์เท่านั้นไม่พอแล้วต้องขยับมาทำให้ขายของได้เลยโดยเฉพาะการขายของผ่านทางออนไลน์

 
ยกตัวอย่างสมัยก่อนจะมีการแบ่งเป็นทีม ๆ มาร์เก็ตติ้งไม่ได้รับผิดชอบเรื่องยอดขายแต่เป็นหน้าที่ของทีมเซลส์ แต่ยุคนี้ไม่ใช่แล้ว เมื่อทำการตลาดจะแค่คิดสร้างแบรนด์เท่านั้นไม่ได้ต้องทำให้คนกดปุ๊บแล้วซื้อปั๊บเลย เพราะเดี๋ยวนี้การสร้างแบรนด์หรือการเข้าไปเจอคนและทำความรู้จักทำได้เท่า ๆ กันแล้วในทางออนไลน์ ออนไลน์ไม่ได้ทำได้แค่รู้จักอย่างเดียวด้วย แต่กดไม่กี่ทีก็ขายได้แล้ว 
 
ฉะนั้นนักการตลาดในยุคนี้จะคิดแค่สร้างแบรนด์หรือแค่ให้คนรู้จักไม่พอ ต้องคิดต่อยอดไปถึงให้ขายของได้ และที่สำคัญต้องต่อยอดไปถึงการทำให้เกิดการซื้อซ้ำได้ด้วย “ซื้อปุ๊บ ชอบ รัก หลง เกิดการซื้อซ้ำ” 
 
ในยุคนี้ในแง่ของการทำการตลาดมันมีทั้งหมดทุกอย่างที่ผมพูดถึงและยังสัมพันธ์กันทั้งหมด ทีมมาร์เก็ตติ้งในยุคนี้บางทีต้องรับเป้ายอดขายด้วย ทีมเซลส์และมาร์เก็ตติ้งต้องทำงานใกล้ชิดกันมากเลยทีเดียว ตอนนี้วงการเอเจนซี่หรือบริษัทที่ทำเรื่องการตลาดตอนนี้เริ่มหันมาทำเรื่องอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ๆ
 
สุดท้ายสื่อโฆษณาดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซทั้งสองอย่างนี้ต้องมาบรรจบเข้าด้วยกัน ถ้าหากว่าคุณจะทำด้านการตลาดออนไลน์จงอย่าคิดแค่การทำให้คนรู้จัก ต้องเริ่มกลับเข้ามาดูว่าเมื่อทำการตลาดออนไลน์แล้วเราปิดการขายเลยได้ไหม ลูกค้ามาที่เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของเราแล้วปิดการขายได้เลยหรือไม่ เพราะเดี๋ยวนี้การจ่ายเงิน การส่งสินค้าสามารถทำบนออนไลน์ได้ไม่ยากแล้ว 
 
เมื่อลูกค้ารู้จัก คุ้นเคย จดจำได้ เราทำต่ออีกนิดเดียวก็สามารถเก็บเงินเขาได้เลย อยากจะฝากทุกท่านที่เป็นเจ้าของกิจการเมื่อทำการตลาดหรือทำสื่ออะไรก็ตาม ควรเพิ่มช่องทางการขายเข้าไปด้วยซึ่งก็คือช่องทางออนไลน์นั่นเองครับ
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
510
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
430
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
414
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
408
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด