ชั่วโมงนี้ต้องบอกว่ากระแสชานมไข่มุกมาแรงเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านเครื่องดื่มอะไร ก็ต้องมีเมนูชาชานมไข่มุกให้เป็นทางเลือกของลูกค้าเสมอ แม้ดื่มเยอะๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่คอชานมไข่มุกก็ไม่หวั่นไหว ยิ่งได้ยินว่ามีร้านเปิดใหม่ด้วยแล้ว ก็ยิ่งดิ้นรนหาพิกัดเพื่อจะไปลิ้มลองรสชาติให้ถึงหน้าร้าน ถึงคนเยอะต่อคิวยาวเหยียด รอนานเป็นชั่วโมง ก็ต้องยอม! 

 

เช่นเดียวกับกรณีร้านชานมไข่มุก Bear House ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปได้ไม่นาน ก็ได้รับความสนใจ ได้รับความนิยมจากคอชานมไข่มุกอย่างล้นหลาม เพียงแค่วันแรกที่เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ ก็สามารถทำยอดขายได้เกือบถึงพันแก้ว

 

อยากรู้หรือไม่ว่า Bear House มีความเป็นมาอย่างไร วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ขอนำเสนอ 10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับร้านชานมไข่มุก Bear House ที่มีผู้คนพูดถึง และกระแสแรงอย่างมากในขณะนี้ 

 

ภาพจาก facebook.com/sunbearychannel

 

ร้านชานมไข่มุก Bear House เริ่ม Soft Opening ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2562 ปัจจุบันมียอดขาย 700 - 800 แก้วต่อวัน ที่ผ่านมาพบมีการต่อคิวอย่างน้อย 2 ชั่วโมง กระทั่งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2562 ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลังจากนี้ตั้งเป้ายอดขายวันละ 1,000 แก้ว คาดว่าปี 2019 มียอดขายรวม 15 ล้านบาท 

 

เชื่อว่าหลายคนอาจไม่รู้ว่า ร้านชานมไข่มุก Bear House ใครเป็นเจ้าของ ซึ่งร้านแห่งนี้มีหุ้นส่วนอยู่ 2 คน คือ “ซารต์ - ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” และ “กานต์ - อรรถกร รัตนารมย์” ทั้งคู่เป็นยูทูปเบอร์แถวหน้าของเมืองไทย มีช่องของตัวเองอยู่แล้วคนติดตามนับล้าน แต่มาร่วมกันเปิดช่องยูทูปใหม่ชื่อ “Bearhug” ผู้ติดตาม 2.8 ล้านคน จึงร่วมหุ้นกันเปิดร้านชาไข่มุก BEARHOUSE

 

ภาพจาก bit.ly/2KpT1jz
 

ใครจะไปรู้ว่ายูทูปเบอร์ชื่อดัง มียอดติดตามนับล้าน มีรายได้แต่ละเดือนเกือบล้าน จะผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านชานมไข่มุก Bear House ซึ่งจริงๆ แล้ว Bear House เกิดขึ้นจากความชื่นชอบส่วนตัวของ “ซารต์–ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” ในการดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำ โดยได้ตระเวนกินเกือบทุกร้านทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศไต้หวัน 

 

โดยหลังจากเธอได้กินแล้ว จึงมีความคิดว่า “ทำไมต้องทำชาไข่มุกไต้หวันในไทย ให้คนไทยมาต่อคิว ทำไมไม่ทำของไทยให้คนต่างชาติมาต่อคิวบ้าง” เธอจึงได้ปรึกษากับ “กานต์-อรรถกร รัตนารมย์” และด้วยนิสัยที่เธออยากทำอะไรต้องทำเลย ไม่อยากรออีก จึงลุกขึ้นมาทำ ณ ตอนนั้นเลย โดยเริ่มต้นเมื่อราว 1 ปีก่อน

 

ภาพจาก bit.ly/2KpT1jz

 

“ซารต์–ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” และ “กานต์-อรรถกร รัตนารมย์” หุ้นส่วนร้านชานมไข่มุก Bear House ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ภายใน 2 ปี ตั้งเป้าขยายสาขาในรูปแบบ Full Scale ทั้งหมด 5 สาขา ทั้งสาขาศูนย์การค้าและสแตนอโลน

 

ภาพจาก bit.ly/31LaCrN

 

หลายคนอาจเคยเห็นภาพคนยืนต่อแถวยาวเหยียด แต่ไม่รู้ว่าร้านชานมไข่มุก Bear House อยู่ที่ไหน ซึ่งสาขาแรกเปิดให้บริการตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ ริมถนนอังรีตูนังต์ ใช้งบลงทุน 8 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ส่วน ครัวกลาง การวิจัย และ ร้าน

 

ภาพจาก facebook.com/sunbearychannel

 

“ซารต์–ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” เปิดเผยกับสื่อมวนชลด้วยว่า ตอนแรกคิดจะนำแฟรนไชส์จากต่างประเทศเข้ามาก่อน ทั้งคู่จึงเดินทางไปทั้งไปตามที่ต่างๆ ทั้งไต้หวัน ซึ่งเป็นดินแดนต้นตำหรับของชาไข่มุก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ พร้อมกับ “ภีรภัทร แจ้งยอดสุข” ที่ปรึกษาการตลาด มีประสบการณ์ทั้งยูนิลีเวอร์ ธนาคารกสิกรไทย และปัจจุบันทำงานอยู่ที่เถ้าแก่น้อย เดินทางไปพร้อมกัน

 

สิ่งที่พบคือนอกจากจะต้องจ่ายเงินค่าแฟรนไชส์หลัก 10 ล้านบาทหากจะนำเข้ามา การเป็นแฟรนไชส์ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้เลย ด้วยตามลักษณะของคนไทย การทำต้นฉบับมา 100% อาจจะไม่ถูกปากจึงต้องปรับกันบ้าง อีกทั้งหากต้องการทำเมนูใหม่ๆ ต้องขอบริษัทแม่ก่อนซึ่งบ้างครั้งอาจจะไม่ทันรายอื่นๆ ทั้งคู่จึงคิดทำร้านเองเมื่อ 6 เดือนก่อน

 

ภาพจาก bit.ly/2KpT1jz
 

“ซารต์–ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” และ “กานต์-อรรถกร รัตนารมย์” หลังจากคิดจะทำร้านเอง ทั้งคู่จึงตัดสินใจลุกขึ้นมาทำเองเมื่อ 6 เดือนก่อนได้บินไปเรียนการทำไข่มุกที่เชียงใหม่ กับชาวไต้หวันที่มีสูตรการทำไข่มุกของตัวเอง หลังจากนั้นจึงนำมาปรับสูตรด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกมาพักใหญ่ จึงออกมาเป็น “ไข่มุกโมจิ” ที่ได้รับความนิยมในร้าน 

 

ภาพจาก bit.ly/2RoXmUO

 

ชานมไข่มุก Bear House ส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบในเมืองไทยเป็นส่วนประกอบ โดยไข่มุกสูตรเฉพาะที่คิดค้นและทำเอง จะมีแป้งข้าวไทยเป็นส่วนประกอบ มีความหนึบหนับ มีกลิ่นโมจิ มีความไม่กลมและมีขนาดพิเศษ 7mm (เล็กกว่าปกติ) ส่วนสูตรชาก็คิดขึ้นเองทั้งหมด ยกเว้นบางอย่าง เช่น ชาเขียว เจ้าของร้านนำเข้ามาจากต่างประเทศ

 

ภาพจาก bit.ly/2IZChwv

 

Bear House ไม่ใช่แค่จะเป็นร้านขายชานมไข่มุกเท่านั้น เจ้าของร้านยังวางแผนต่อยอดไปยังเมนูอื่นๆ ที่อยู่ในเซ็นเมนต์ของหวานเหมือนกัน โดยเตรียมขายไอศกรีม 4 รสชาติ ราคา 79 บาท แม้จะมีเมนูมาก แต่ทุกร้านจะใช้ชื่อ “Bearhouse” เหมือนกัน

 

โดยกลุ่มลูกค้าของ Bear House เป็นกลุ่มเดียวกันกับ KOI Thé แต่ Bear House มีจุดเด่นเรื่องไข่มุกโมจิทำเอง มีครัวกลางที่เขตประเวศ กำลังการผลิต 70 - 80 กิโลกรัมต่อวัน โดยขายราคาชานมไข่มุกเริ่มต้น 75 บาท ไปจนถึงหลักร้อยต้นๆ

 

ภาพจาก bit.ly/2IXxVpr

หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ร้านชานมไข่มุก Bear House ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ก็มีผู้สนใจติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ แต่ “ซารต์–ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” และ “กานต์-อรรถกร รัตนารมย์” ยังไม่คิดจะขายแฟรนไชส์ เพราะยังไม่พร้อมฟลายๆ อย่าง เพราะการทำชานมไข่มุกยังช้าอยู่ ต้องทำให้เร็วกว่านี้ 

 

ปัจจุบัน Bear House อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทชื่อบริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ถือหุ้น 50:50 โดยซารต์อยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และ กานต์เป็นผู้จัดการทั่วไป ใช้งบลงทุนกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าครึ่งถูกไปกับเครื่องจักรสำหรับทำไข่มุก โดยสร้างครัวกลางที่เขตประเวศมีกำลังผลิต 70 - 80 กิโลกรัมต่อวัน

 

ทั้งหมดเป็น 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ร้านชานมไข่มุก Bear House ที่กำลังได้รับความนิยมของบรรดาวัยรุ่นย่านสยามสแควร์เป็นอย่างมาก ถือเป็นชานมไข่มุกแบรนด์ไทย ที่ลูกค้ายืนและนั่งต่อแถวยาวเหยียด ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงถึงจะได้ลิ้มลองรสชาติ

 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)