บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    เรื่องราวความสำเร็จ
11K
2 นาที
22 มิถุนายน 2555
การเปิดร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า

ภาพจาก  facebook.com/coffeetodaythailand

ในการเปิดร้านกาแฟซักร้าน หลาย ๆ คนคงมีคำถามว่าเปิดที่ไหนดี จะเช่าติกแถวแล้วเปิดป็นห้องดีไหม หรือหาที่โล่ง ๆ ซักที่แล้วเป็นร้านกาแฟ แบบ Standalone ดี หรือ เปิดในปั๊มน้ำมันดี แต่มีทำเลประเภทนึงที่มักจะได้รับความนิยมค่อนข้างสูง และค่อนข้างมีในเรื่อง traffic(ปริมาณคนผ่านร้านเรา) ที่ดีมาก แต่หลายคนคงได้ผงะกับค่าเช่าที่ค่อนข้างสูงตามเหมือนกัน จนบางที่เหมือนเรากำลังโดนห้างหลอกให้ทำงานให้เค้า แต่ถึงยังไงก็ตามหากรายเก่าอยู่ไม่ได้ ก็ยังคงมีรายใหม่ที่พร้อมเข้ามาเล่นในตลาดนี้เช่นกัน

วันนี้ ผมเลยขอเอาประเด็นนี้มาเล่าสู่กันฟัง สำหรับคนที่กำลังคิดหรือวางแผนในการเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า สำหรับห้างสรรพสินค้าในไทย
 
โดยมากอาจแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ใหญ่ ๆ คือ
  • ห้างสรรพสินค้าโดยตรง อธิเช่น ห้างเซ็นทรัล ห้างThe Mall
  • อันที่ 2 จำพวก Discount store หรือ พวก Supermarket ขนาดใหญ่ เช่น Lotus BigC หรือ Carreful
  • อันดับที่ 3 กลุ่มนี้ปัจจุบันค่อนข้างได้รับความนิยมในการลงทุนของนายทุนทั้งหลาย อาจด้วยการลงทุนที่ไม่สูงเท่า 2 รายการแรก คือพวก Community Mall ต่าง ๆ เช่น Avenue ต่าง ๆ
ในรูปแบบห้างสรรพสินทั้ง 3 รูปแบบนั้น ค่อนข้างมีความแตกต่างกันมากในส่วนของฐานลูกค้าและพฤษติกรรมของผู้บริโภค หากเราพูดถึง ห้าง Central หรือ The Mall อันดับแรกคงปฎิเสธไม่ได้ว่า แอร์เย็น ครับ และด้วยพื้นที่มีของให้ลูกค้าเลือกค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นลูกค้าสามารถใช้เวลาได้ทั้งวันภายในห้าง และทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย บางคนมา Shopping บางคนมาดูหนัง บางคนมาเสริมสวย ด้วยเหตุนี้ โดยมากลูกค้าจะเป็นประเภทที่พร้อมใช้เวลาไปกับสถานที่นั้น ๆ เพราะฉะนั้นร้านกาแฟในห้างคุณจะทั้งร้านกาแฟขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ขึ้นอยุ่กับการจัดสรรพื้นที่ของทางเจ้าของห้างและงบประมาณของตัวลูกค้าเป็นหลัก

แต่ทั้ง 2 แบบนี้สามารถประสบความสำเร็จได้ทั้งนั้น สำหรับในห้างรูปแบบร้านกาแฟจะมีอยู่ 3 รูปแบบ คือแบบร้านกาแฟเป็นห้องคือมีพื้นที่ ตั้งแต่ 30 ตารางเมตร –100 ตารางเมตร โดยมาก เราควรเน้นในส่วนของเก้าอี้เป็นหลัง ไม่ว่าจะเป้นโซฟา หรือเก้าอี้ไม้ทั่วไป ถามว่าแล้วเราจะแบ่งสัดส่วนยังไง ผมอยากให้อ้างอิงเรื่องของพื้นที่เป็นหลัก หากร้านขนาด 30-50 ตารางเมตร โซฟาอาจมี แค่ ชุด หรือ สองชุดที่เหลือเป็นพวกเก้าอี้โต๊ะทั่วไป

แต่หากพื้นที่มีขนาดใหญ่ เราอาจแบ่งสัดส่วนการจัดให้เป็น 50/50 หรือ โซฟา 70 เก้าอี้ 30 ก็ได้ ในการจัดเก้าอี้จะมีผลตรงกับเรื่องยอดขายนะครับ รูปแบบที่ 2 คือ Kios หรือ เรียกอีกอย่างว่า Island พวกนี้มักจะได้ทำเลกลางห้าง โดยมาเป็นที่ค่อนข้างเด่น พื้นที่ไม่ค่อยมักจะเริ่มตั้งแต่ 15 ตารางเมตร จนถึง 70 ตารางเมตร ขึ้นอยู่กับความน่าสนใจของ แบรนด์นั้น และการทำยอดของร้านนั้น ๆ เพราะโดยมากทำเลลักษณะนี้ ทางห้างมักสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าเช่าแบบ ตัด เปอร์เซนต์ยอดขาย แต่จะต้องมี การันตี ขั้นต่ำ ให้ห้างก่อนเช่นกัน

ในการทำตลาดของร้านกาแฟพวกนี้มักไม่เน้นที่ราคาถูกนัก แต่จะต้องออกแบบร้านให้ดูโดดเด่น ในส่วนรูปแบบสุดท้ายเป้นพวกเค้าเตอร์กาแฟ พื้นที่ตั้งแต่ 2 ตารางเมตร จนถึง 4 ตารางเมตร พวกนี้ค่าเช่าจะไม่สูงมากนัก โดยมากมักจะอยู่ตามทางออกที่จอดรถ หรือตามพื้นที่อาจไม่สวยมากนัก หรือตาม Food center ทั้งหลาย ในการทำตลาดในกลุ่มนี้มักต้องเน้นเรื่องของราคาที่ถูกเป็นหลัก

ภาพจาก  facebook.com/coffeeworldthailand

ในส่วนของ Discount store ขนาดใหญ่ พฤติกรรมของลูกค้าในกลุ่นนี้มักจะเน้นในการเข้ามาเพื่อ เข้า ไปใช้ บริการ Super market ของทางห้างเป็นหลัก หรืออาจมีการแวะทางข้าวบ้างเล็กน้อย พฤษติกรรมของลูกค้าอาจดูค่อนข้างเร่งรีบนิดนึง หากหลายคนคิดที่จะเปิดผมแนะนำให้เลือกที่ไม่ต้องใหญ่มากนัก ทำร้านกาแฟ Style counter หรือ Kios ก็พอครับ และที่สำคัญเน้นเรื่องราคาไม่ต้องสูงมากนัก แต่ไม่ต่ำจนเกินไปเดี๋ยวจะไม่คุ้มกับค่าที่เอา เก้าอี้ไม่ต้องเยอะครับ ซักตัวสองตัวก็พอ เพราะลูกค้าโดยมากมักจะไม่ได้เข้ามานั่งในร้านมากนัก ส่วนมากจะเน้นการซื้อกลับบ้านเป้นหลัก

 ภาพจาก facebook.com/khaothaluchumporn.coffee

และในส่วนสุดท้ายคือในส่วนของ Community Mall ทั้งหลาย ในส่วนนี้ มีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ เราอาจจะเห้น community Mall ต่าง ๆ ผุดเป็นดอกเห็ด โดยมากในกลุ่มนี้กลุ่มลูกค้ามักจะเป้นวัยรุ่น หรือวัยกลางคน อายุประมาณ 20-40 ปี ในรูปแบบนี้ค่อนข้างมี Lifestyle ที่ชัดเจน เป็นที่ แฮงค์เอ้า ของคนหลาย ๆ คน เวลาที่ขายดีมักจะเป็นเวลาเย็น ๆ ลูกค้าเน้นที่นั่งเป็นหลัก

ในการจะลงทุนผมเลยอยากแนะนำการลงทุนแบบร้านกาแฟเต็มรูปแบบมากกว่า Kios และต้องเน้นการออกแบบที่โดดเด่น อาจมีพวกอาหารแทรมบ้าง ด้วยความที่เป็นร้านตอนเย็น และลูกค้าที่มาใช้บริการจะค่อนข้างนั่งนาน เราก็ห้ามไล่ลูกค้าเด็ดขาด มีวิธีเดียวคือให้เราหาอะไรมาขายให้เค้าเพิ่มขึ้นแทน แต่ก็อยากให้ระวังเรื่องกลิ่นด้วยนะครับ กับเรื่องของไอน้ำมันอาหาร จะทำให้บรรยากาศในร้านเสียซะเปล่า ๆ

ในรูปแบบนี้สิ่งที่น่ากลัวนิดนึงคงจะเป็นด้วยเรื่องของรูปแบบที่เป็น  Indoor กึ่ง Outdoor ของตัวห้าง จึงทำให้มีปัญหาเรื่องของฤดูฝน ที่จะทำให้คนลดลง หรือ เวลากลางวัน โดยมากที่จอดรถก็มักเป็นที่จอดรถกลางแจ้ง อาจทำให้ลูกค้าหลาย ๆ คนขี้เกียจเดินตากแดดมาใช้บริการในร้านเราได้ครับ

อ้างอิงจาก kokoro

บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
905
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
633
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
572
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
522
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
506
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
488
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด