ปัจจุบันนี้ประเทศไทยเริ่มมีผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจากสถิติของกรมกิจการผู้สูงอายุที่รวบรวมไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เผยว่าผู้สูงอายุในประเทศไทยมีมากถึง 11,030,287 คน แถมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วย และปี 2564 อาจเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนประชากร ซึ่งในไทยผู้สูงอายุแทบจะกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ระดับเอเชียนั้นไทยเป็นประเทศอันดับที่ 3 ที่มีผู้สูงอายุมากที่สุด

 

นั่นหมายความว่าคนเหล่านี้มีอำนาจการซื้อในทางธุรกิจมากขึ้น และอาจมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วแน่นอนว่าธุรกิจที่จะเจาะตลาดผู้สูงอายุได้ก็คงจะหนีไม่พ้นธุรกิจที่เป็นมิตร หรือสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุได้  

 

1. สถานที่เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ (Nursing home care)

ภาพจาก bit.ly/2mzeqw2

ผู้สูงอายุในสมัยนี้มีการดูแลตัวเอง ไม่พึ่งพาลูกหลานมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนวัยชราก็คือการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ หรือแม้แต่บางคนที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์วัยชราก็วางแผนพาตัวเองเข้าไปอยู่สถานดูแลคนชราในยามแก่เฒ่าก็มี ดังนั้นแล้วสถานที่ดูแลผู้สูงอายุก็เลยเป็นหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตและน่าสนใจ เช่น บ้านพักคนชรา (residential Home) สถานบริการช่วยเหลือในการดำรงชีวิต (Assisted Living) สถานบริบาล (Nursing Home) สถานดูแลระยะยาวในโรงพยาบาล (Long-term Care Hospital) สถานดูแลระยะสุดท้าย (Hospice Care) เป็นต้น

 

ภาพจาก bit.ly/2mJ3tbs

ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสนใจในการดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษ อาจด้วยสุขภาพร่างกายที่เริ่มเสื่อมถอยลง หรืออะไรก็ตามแต่ แต่คนในวัยชราก็มักเลือกซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น ซุปไก่สกัด รังนก อาหารเสริม หรือแม้กระทั่งครีมบำรุงผิว ปัจจุบันธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูง แถมสินค้าบางประเภทก็มีคู่แข่งน้อย

 

ภาพจาก bit.ly/2mxLQv8

คนสูงวัยบางคนก็มี Lifestyle ที่ชอบเลี้ยง “สัตว์เลี้ยง” อย่างหมา หรือแมว ดังนั้นแล้วธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เช่น ร้านขายของสัตว์เลี้ยง ร้านกรูมมิ่งอาบน้ำตัดขน หรือคลินิกรักษาสัตว์ฯลฯ ก็มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นด้วย

 

ภาพจาก bit.ly/2mEzFwk

ไม่ว่าจะเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถอำนวยความสะดวกแก่คนชราในบ้าน , วัสดุก่อสร้างที่ออกแบบให้เข้ากับสรีระของผู้สูงวัย หรือแม้กระทั่งร้านค้าต่างๆ ที่มีการจัดร้านอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงวัย ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในญี่ปุ่นที่ร้านรวงต่างๆ เริ่มมีการตกแต่งที่กว้างมากพอที่วีลแชร์หรือเครื่องช่วยเดินจะผ่านได้ หรือร้านอาหารที่มีเสิร์ฟอาหารที่เหมาะกับผู้สูงอายุ และมีผู้บริการถึงที่โต๊ะ เป็นต้น 

 

เหล่าผู้สูงวัยนั้นมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่จะคำนึงถึงก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ หลักๆ แล้วปัจจัยในการเลือกซื้อก็จะเกี่ยวข้องกับการที่สินค้าหรือบริการนั้นๆ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับพวกเขาได้ , มีข้อมูลสินค้าบอกอย่างชัดเจน มองเห็น อ่านออก , ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ รวมไปถึงความแปลกใหม่ของสินค้า ทั้งนี้ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจเลือกซื้อหาของคนสูงวัยก็ได้อิทธิมาจากการเลือกรับสื่อซึ่งมีมากมายหลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเลือกรับสื่อแบบใด และพิจารณาสินค้าและบริการจากสื่ออย่างไรอีกด้วย