คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “อาหารริมทาง” หรือ “สตรีทฟู้ดส์” นั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒธรรมในแต่ละประเทศ แต่ละท้องถิ่นไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยอาหารที่ขายในแต่ละท้องถิ่นนั้นบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ทางการปรุงอาหาร วัตถุดิบ และรสชาติของอาหารในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งก็จะแตกต่างกันไป

ภาพจาก bit.ly/2IHhPB1

 

โดยอาหารริมทาง หรือ “สตรีทฟู้ดส์” คืออาหารหรือเครื่องดื่มที่จำหน่ายอยู่ริมถนน หรือในที่สาธารณะโดยอาจจะอยู่ในรูปแบบของซุ้มอาหาร, รถเข็น หรือรถบรรทุกขายอาหาร (Food truck) ส่วนใหญ่ขายในราคาที่ค่อนข้างถูก และอาหารริมทางที่ขายส่วนมากก็จะเป็นอาหารที่คนท้องถิ่นนิยมทานกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่อาหารริมทางนั้นสามารถสะท้อนถึงวัฒนธรรมการกินของผู้คนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

ภาพจาก bit.ly/2ML9ZYk

 

และในปี 2562 หรือปี 2019 นี้ ทางนิตยสาร CEO World ได้จัดอันดับ “50 เมืองที่มีสตรีทฟู้ดดีที่สุด” ซึ่งในการสำรวจนี้ ผู้ที่คว้าแชมป์อันดับ 1 ไปครองนั้นก็คือ “สิงคโปร์” ในขณะที่กรุงเทพฯ นั้นได้ลำดับสอง และฮ่องกง ตามมาเป็นลำดับสาม ลำดับถัดไปก็คือโฮจิมินท์(เวียดนาม) ที่มาเป็นอันดับสี่ ในขณะที่มุมไบ(อินเดีย) ได้ลำดับที่ห้า โรม(อิตาลี่) อยู่ในลำดับที่หก และเมืองเทลอาวีฟ(อิสราเอล) อยู่ในลำดับที่เจ็ด

ภาพจาก bit.ly/2Bf1waK

 

ข้อมูลดังกล่าวนี้มาจากการสำรวจความคิดเห็นของนักธุรกิจที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำกว่า 92,000 คน และบริษัททัวร์อีกกว่า 1,400 บริษัท จาก 86 ประเทศ ใช้เวลาสำรวจประมาณ 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2562 โดยรายชื่อทั้ง 50 เมืองที่ถูกโหวตนี้ถูกเลือกจากการที่รีวิวมากมายว่าเป็นเมืองที่มีสตรีทฟูดส์ดีที่สุด และ CEO World ก็ได้ทำการวิเคราะห์จาก Google map เพื่อประมาณจำนวนผู้ขายสตรีทฟูดส์ที่มีอยู่ในแต่ละเมือง

ภาพจาก bit.ly/2BbAXDl

 

และนี่ก็คือรายชื่อ 50 เมืองที่มีอาหารสตรีทฟู้ดส์ดีที่สุดจากการสำรวจของนิตยสาร CEO World ดังต่อไปนี้

1. สิงคโปร์

2. กรุงเทพ, ประเทศไทย

3. ฮ่องกง

4, โฮจิมินห์, เวียดนาม

5. มุมไบ , ประเทศอินเดีย

6. โรม, อิตาลี

7. เทลอาวีฟ, อิสราเอล

8. ซิดนีย์, ออสเตรเลีย

9. เม็กซิโกซิตี้, เม็กซิโก

10. พอร์ตแลนด์, สหรัฐอเมริกา

11. ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

12. รัฐชิคาโก, สหรัฐอเมริกา

13. โซล, เกาหลีใต้

14. เบอร์ลิน, เยอรมนี

15. ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส

16. อิสตันบูล, ตุรกี

17. ลอสแองเจลิส, สหรัฐอเมริกา

18. ปาแลร์โม, อิตาลี

19. โตเกียว, ญี่ปุ่น

20. นิวออร์ลีนส์, สหรัฐอเมริกา

21. คาร์ตาจีนา, โคลอมเบีย

22. พอร์ตหลุยส์, มอริเชียส

23. โฮโนลูลู, รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา

24. ซานฟรานซิสโก, สหรัฐอเมริกา

25. ไทเป, ไต้หวัน

26. มาร์ราเกช, โมร็อกโก

27. ริโอเดอจาเนโร, ประเทศบราซิล

28. นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา

29. ออสติน, สหรัฐอเมริกา

30. เดอร์บัน, แอฟริกาใต้

31. คิงสตัน, จาไมก้า

32. ซานฮวน, เปอร์โตริโก

33. โรม, อิตาลี

34. ฮาวานา, คิวบา

35. ฟุกุโอกะ, ญี่ปุ่น

36. อัมมาน, จอร์แดน

37. โบโกตา, โคลัมเบีย

38. โอซาก้า, ญี่ปุ่น

39. บูดาเปสต์, ฮังการี

40. เอเธนส์, กรีซ

41. ไมอามี่, สหรัฐอเมริกา

42. นิวเดลี, อินเดีย

43. ลอนดอน, สหราชอาณาจักร

44. ปักกิ่ง, จีน

45. บาหลี, อินโดนีเซีย

46. ไคโร, อียิปต์

47. ดาการ์, เซเนกัล

48. เซาเปาโล, ประเทศบราซิล

49. บาร์เซโลนา, สเปน

50. โกลกาตา, อินเดีย

ภาพจาก bit.ly/2IHhPB1

 

ในส่วนของสตรีทฟู้ดส์ในกรุงเทพเอง ก็ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนว่า อร่อยเด็ดไม่แพ้สตรีทฟู้ดส์ของประเทศใดๆ เลย และเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาลองเลยด้วยซ้ำ ซึ่งหลายๆคนก็ได้พูดต่อๆกันมาว่าสตรีทฟู้ดส์ไทยนั้นอร่อย ราคาไม่แพง และความสะอาดยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้อีกด้วย

ภาพจาก bit.ly/2IHhPB1
 

ซึ่งจะเห็นได้ว่าการจัดอันดับสตรีทฟู้ดส์ในแต่ละโพลล์นั้นก็มักจะมีกรุงเทพฯติดมาด้วยอยู่เสมอ และนี่ก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่มีฝีมือในการทำอาหารที่อาจจะมาขายอาหารในรูปแบบของสตรีทฟู้ดส์ก็เป็นได้ เพราะกลุ่มเป้าหมายก็ไม่ได้มีแค่คนไทยเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย ดังนั้นแล้ว การขายสตรีทฟู้ดส์ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน