การใช้พรีเซ็นเตอร์ นับว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่ในหลายๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมักจะเลือกใช้ เพื่อกระตุ้นการส่งเสริมการขาย และเพื่อภาพลักษณ์ของสินค้านั้นๆ และบางทีก็รวมไปถึงภาพลักษณ์ของตัวองค์กรด้วย แต่ว่าอันที่จริงการใช้พรีเซ็นเตอร์นั้น มันก็มีรายละเอียดที่ซับซ้อนและมากมายอยู่พอสมควรเลยทีเดียว....
 

ในอดีต อาจจะไม่มีการใช้พรีเซ็นเตอร์ในกลยุทธการตลาดอย่างเป็นจริงเป็นจังเท่าไหร่นัก ส่วนมากก็จะมีแต่เพียงดารา นักแสดงที่ถูกจ้างให้นำเสนอสินค้าผ่านทางโฆษณาโทรทัศน์หรือช่องทางต่างๆ เท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้การใช้พรีเซ็นเตอร์มีความจริงจังและผูกขาดมากกว่าแต่ก่อน เพราะในการทำการตลาดเริ่มมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น โดยพรีเซ็นเตอร์จะมีความผูกติดกับสินค้ามากขึ้น และมีกิจกรรมมากยิ่งขึ้น ทั้งออกโฆษณา ออกอีเว้นท์ตามพื้นที่ต่างๆในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ช่วยโปรโมทสินค้าและธุรกิจนั้นๆ และนั่นมันก็ทำให้เม็ดเงินในการลงทุนในกลยุทธ์ดังกล่าวนี้สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย นอกจากนี้ เหล่าผู้ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ยังมีบุคลิกที่หลากหลาย มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น 

ภาพจาก bit.ly/36pS56o

 

และจากที่ก่อนหน้านี้เหล่าธุรกิจต่างๆ จะนิยมใช้ดาราหรือนักแสดงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ในตอนนี้มันก็ขยายตัวกว้างขึ้น และบุคคลที่ไม่ใช่ดารา หรือนักแสดงก็เข้ามามีบทบาทในการเป็นพรีเซ็นเตอร์มากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากความเป็นไปของยุคสมัยที่ในยุคนี้อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผู้คนมากขึ้น  ทำให้ผู้คนมีชื่อเสียงได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนเพียงแค่แสดงตัวตนให้โดเด่นผ่านทาง Social Media และกลุ่มคนกลุ่มนี้เองก็มีโอกาสที่จะถูกบรรดาธุรกิจต่างๆ ดึงตัวไปนำเสนอหรือเป็นหน้าเป็นตาให้กับสินค้านั้นๆ แข่งกับเหล่าดารา หรือนักแสดงได้อย่างง่ายดาย

ภาพจาก bit.ly/36nkxGk

การใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ในการตลาดนั้นอันที่จริงมันก็มีข้อดีอยู่หลายด้าน เช่น แบรนด์สามารถดึงความสนใจจากกลุ่มคนที่เป็นแฟนคลับของพรีเซ็นเตอร์ , สามารถขยายกลยุทธ์ไปยังกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น การออกอีเว้นท์ หรือกิจกรรมพิเศษที่ให้กลุ่มเป้าหมายได้มีส่วนรวม อีกทั้งแบรนด์ยังสามารถขยายช่องทางการสื่อสารของแบรนด์ไปยังชื่อสังคมออนไลน์หรือช่องทางการติดต่อของพรีเซ็นเตอร์ได้อีกด้วย  แต่มันก็ยังมีข้อควรจะระวังอยู่บ้างคือถ้าหากเกิดข่าวในด้านลบกับพรีเซ็นเตอร์ ภาพลักษณ์ของสินค้าก็จะเป็นไปในทางลบตามกันไปด้วย รวมถึงหากพรีเซ็นเตอร์คนนั้นรับงานให้กับหลายแบรนด์มากเกินไปผู้รับสารก็อาจจะเกิดความสับสนและไม่จดจำในตัวสินค้าอีกด้วย

ภาพจาก bit.ly/335vBWt

 

และถึงแม้ว่าการใช้พรีเซ็นเตอร์โปรโมทสินค้าจะเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีและธุรกิจส่วนใหญ่เลือกใช้ แต่การสื่อสารภาพลักษณ์ของสินค้าและธุรกิจผ่านดารา นักแสดง หรือคนดัง ก็ทำได้ดีแค่เพียงการกระตุ้นภาพลักษณ์และเพิ่มความรู้จักในตัวแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น ยังไม่มีผลกระตุ้นให้ผู้บริโภคเลือกหันมาใช้สินค้านั้นๆ เท่าไหร่นัก

โดยในทางตรงกันข้ามกลับพบว่า ผู้บริโภคส่วนมากจะตัดสินใจซื้อโดยหาข้อมูลและได้รับอิทธิพลจากบุคคลใกล้ตัว เช่น เพื่อนฝูง หรือคนในครอบครัวมากกว่า ยิ่งเป็นคนที่ใกล้ตัวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากเท่านั้น แต่เหล่าคนดังที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ถือว่ายังค่อนข้างไกลตัวผู้บริโภคอยู่ จึงถือว่ามีอิทธิพลต่อภาพลักษณ์และการรับรู้ในตัวสินค้าค่อนข้างมาก แต่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อค่อนข้างน้อย

ภาพจาก bit.ly/36nlgr2

 

นี่ถือเป็นข้อมูลเกี่ยวกับกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์การตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่เราๆ อาจมองเห็นว่ารายละเอียดของมันดูจะไม่มีอะไรมาก แต่มันก็มีเบื้องหลังอย่างมากมาย และมีข้อเท็จจริงที่ใครหลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อน แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีที่เจ้าของธุรกิจควรรู้และศึกษาไว้ เผื่อในอนาคตภายภาคหน้าอาจได้มีการใช้พรีเซ็นเตอร์ในการโปรโมทสินค้า จะได้เตรียมการสำหรับกลยุทธ์นี้ได้อย่างรัดกุมและไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องไปได้นั่นเอง
 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน