บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
4.8K
3 นาที
26 ธันวาคม 2562
10 อาชีพเสี่ยงตกงาน ปี 63
 

ก่อนจะถึงปี 2563 คนที่ยังไม่มีงานทำ นักศึกษาที่กำลังจะจบ คงมองหาโอกาสในการทำงานที่ขอบอกว่ายุคนี้มีความเสี่ยงกว่าเมื่อก่อนมาก เดี๋ยวนี้คนไม่อาจเลือกงานแต่บางทีงานกลับเลือกคน จากปัญหาในหลายๆด้านทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ดีนัก ผู้ประกอบการจำเป็นต้องลดต้นทุนตัวเองในหลายๆ ด้าน ไหนจะเรื่องการเข้ามาของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการใช้แรงงานคน
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าปี2563 มีหลายอาชีพที่เสี่ยงตกงานมากขึ้น และเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าปี 2563 นี้จะเลือกทำงานในทิศทางไหนถึงจะไปรอดลองมาดูข้อมูลเหล่านี้กันสักเล็กน้อย
 
คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2563
 
ผู้สันทัดกรณีในแวดวงเศรษฐกิจคาดว่า ปี 2563 ภาพเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวแบบตัวยู ( U-Shape)โดยประเมินว่าผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของปี 2563 จะเติบโตเพียง 2.3% สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่เชื่อว่าในปี 2563 เศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับ 3.1% ซึ่งเป็นการเติบโตในทิศทางที่ลดลงหากเทียบกับหลายปีก่อน
 
อีกทั้งยังเป็นยุครอยต่อของเทคโนโลยีใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่เทคโนโลยีรูปแบบเดิม ทั้งในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ใหม่ และกระบวนการใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ทุกอาชีพต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับการถูก digital disruption 
10 อาชีพเสี่ยงตกงาน ปี63
 
ในกลุ่มธุรกิจก็มีดาวร่วงจำนวนมากเช่นธุรกิจโทรทัศน์ , ธุรกิจสิ่งพิมพ์ , ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ต , ธุรกิจร้านถ่ายภาพ เป็นต้น แต่หากพูดถึงในกลุ่มอาชีพส่วนหนึ่งก็จะสอดคล้องกับเทรนดุธุรกิจดาวร่วง ซึ่งมี 10 อาชีพที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกงานคือ
 
1. พนักงานขายร้าน CD/DVD


ภาพจาก bit.ly/37dP213
 
จากที่เคยเฟื่องฟูในยุคหนึ่งที่มีหลายแบรนด์เข้ามาลุยตลาดร้านเช่า CD/DVD ไม่ว่าจะเป็น แมงป่อง , DNA , Tsutaya ฯลฯ แต่ถึงตอนนี้ร้านเหล่านี้ถูกกระแส Digital Disruption อย่างเต็มรูปแบบ บางรายถึงกับต้องเลิกกิจการในเมืองไทย บางรายต้องปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัล เป็นเหตุผลว่าการหางานในยุคใหม่ไม่ควรเสี่ยงกับธุรกิจด้าน CD/DVD ที่ยอดการใช้งานของคนลดลงอย่างมากเพราะทุกวันนี้มีหนังออนไลน์ให้เลือกดูได้ตามโทรศัพท์มือถือและในคอมพิวเตอร์มากขึ้น
 
2. กลุ่มสื่อสารมวลชนทุกแขนง


ภาพจาก bit.ly/2PV34yI
 
กลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ก็ถูกกระแส Digital Disruption เข้าไปเต็มๆ เหมือนกัน จากข่าวในปี 2562 ทั้งการขอคืนใบอนุญาติทีวีดิจิทัล และการปลดพนักงานของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ สมัยก่อนวิชาที่คนส่วนใหญ่เลือกเรียนคือนิเทศศาสตร์เอกวิทยุ โทรทัศน์ โฆษณา วารสาร ประชาสัมพันธ์ แต่ยุคนี้อะไรๆที่เปลี่ยนไป การเลือกทำงานในกลุ่มสื่อสารมวลชนมีความเสี่ยงที่จะตกงานมากขึ้น
 
3. พนักงานสถาบันการเงิน


ภาพจาก bit.ly/2ZpJ3n9
 
ค่านิยมในอดีตพ่อแม่อาจเคยสอนให้ลูกเรียนหนังสือเยอะๆโตขึ้นมาจะได้ทำงานดีๆ บางคนดีใจได้เห็นลูกเป็นสาวแบงค์ หนุ่มแบงค์ แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปถูก Digital Disruption ทำให้ธนาคารเองก็มีความจำเป็นที่ต้องปลดพนักงานและหันไปใช้เทคโนโลยีมากขึ้นไม่ใช่แค่ในประเทศไทยต่างประเทศก็เช่นกันมีรายงานจากข้อมูลจากธนาคารและสหภาพแรงงาน พบว่า ในปีนี้ ธนาคารต่างๆ ประกาศลดพนักงานรวมกันราว 58,200 คน โดยมากที่สุดอยู่ในยุโรป 52,424 คน
 
4. พนักงานอุตสาหกรรมยานยนต์


ภาพจาก bit.ly/2ZkX5Gm
 
อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกคาดการณ์ว่าจะซบเซาอย่างหนักและต่อเนื่องรายงานของ Business Insider ระบุว่า มีการประเมินภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปี 2562 มีแนวโน้มจะลดลงถึง 3% เพราะความต้องการของลูกค้าทั่วโลกเริ่มส่อแววว่า จะลดลง และตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีการปลดคนงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ไปแล้วมากกว่า 38,000 คน
 
โดยระบุสาเหตุถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ซึ่งพวกเขาเริ่มมองว่า รถยนต์ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป พวกเขามีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบใหม่ที่เรียกว่า Uber หรือ DriveNow ที่ช่วยทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น และการมีรถยนต์เริ่มเป็นภาระมากขึ้น หรืออย่างในประเทศไทยเราก็เห็นอุตสาหกรรมยานยนต์หลายแห่งประกาศปิดกิจการหรือเลย์ออฟพนักงานเพื่อเป็นการลดต้นทุนของตัวเอง
 
5. ร้านค้าปลีก


ภาพจาก bit.ly/39afoTl
 
ร้านค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบอยู่ในส่วนของร้านค้าแบบดั้งเดิมที่ไม่ยอมพัฒนาตัวเองตามกระแส ยังยึดติดอยู่กับโมเดลธุรกิจเดิมๆ ขายของแบบเดิมๆ คุณภาพในการบริการแบบเดิมๆ ไม่สอดคล้องกับความต้องการของคนยุคใหม่ พนักงานในร้านค้าปลีกที่เป็นเช่นนี้จะได้รับผลกระทบอย่างมาก ในทางกลับกันร้านค้าปลีกอีกหลายแห่งที่ปรับตัวเองไปข้างหน้า เริ่มสร้างรายได้จากช่องทางออนไลน์และรูปแบบร้านที่ทันสมัยพนักงานในกลุ่มนี้ก็อาจจะมีความเสี่ยงในการตกงานที่ลดลง
 
6. พนักงานเคาน์เตอร์เซอร์วิส

ภาพจาก bit.ly/2slnrvP
 
ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่เฟื่องฟูเคาน์เตอร์เซอร์วิส คือจุดบริการที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ยุคนั้นถือว่าสะดวกและรวดเร็วที่สุด แต่สมัยนี้บอกเลยว่าไม่ทันใจกับการเข้ามาของเทคโนโลยีและบรรดาแอพพลิเคชั่นต่างๆที่ทำให้เราง่ายและสะดวกยิ่งกว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่ ก็จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ต่อภาษีรถยนต์ พรบ. ฯลฯ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น ยังไม่นับรวมบรรดาแฟรนไชส์สายบริการที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด งานเคาน์เตอร์เซอร์วิส แบบยุคเก่าจึงตกกระป๋องไปโดยปริยาย
 
7. อาชีพที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน


ภาพจาก bit.ly/397JcQq
 
การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก็มีผลกระทบต่ออาชีพที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่เมื่อก่อนอัตราคนเกิดมากขึ้นผู้สูงอายุมีน้อย ธุรกิจเกี่ยวกับเด็กจึงเติบโต แต่ทุกวันนี้สวนทาง เด็กเกิดน้อยลง คนสูงอายุมากขึ้น อาชีพที่กระทบ เช่น เนอสเซอร์รี่ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก รวมไปถึงพี่เลี้ยงเด็ก และแม้แต่อาชีพครูก็ได้รับผลกระทบโดยตรงกับเรื่องนี้เช่นกัน
 
8. นักเศรษฐศาสตร์ นักรัฐศาสตร์ นักสังคมศาสตร์


ภาพจาก bit.ly/2SpoUvH
 
สมัยก่อนนิยมให้บุคลากรเหล่านี้ในการวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร แต่ปัจจุบันกระแสเทคโนโลยีทำให้องค์กรสามารถใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น ลดการใช้งานคนในตำแหน่งเหล่านี้ และยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายของธุรกิจได้มากขึ้น อาชีพเหล่านี้จึงมีความเสี่ยงตกงานในยุคนี้มาก
 
9. อาชีพที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิต อาชีพตรวจคุณภาพสินค้า


ภาพจาก bit.ly/2PVEJZr
 
เช่นเดียวกันกับการ QC สินค้าที่เมื่อก่อนใช้แรงงานคนเป็นหลักในการตรวจสอบสินค้า แต่เมื่อกระแสเทคโนโลยีก้าวเข้ามา การทำงานด้วยระบบต่างๆ มีความชัดเจนและแม่นยำกว่า ที่สำคัญลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายได้มาก และยังมีประสิทธิภาพมากกว่า นั่นคือสาเหตุที่คนเลือกทำอาชีพนี้ในยุคนี้เสี่ยงตกงานสูงมาก
 
10. พนักงานโรงงาน


ภาพจาก bit.ly/2F3pvM1
 
รายงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ภาวะการทำงานของประชากรที่อยู่ในกำลังแรงงาน 38.42 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 37.78 ล้านคน เป็นแรงงานในภาคเกษตรกรรม ภาคการผลิต ภาคบริการ และการค้า ผู้ว่างงานมีจำนวน 3.77 แสนคน หรือ 1%  ของกำลังแรงงานรวม และข้อมูลจากสภานายจ้างหลายแห่งมีข้อมูลตรงกันว่า การจ้างงานอยู่ในช่วงชะลอตัว ไม่รับคน มีการเปิดให้สมัครใจลาออก บางแห่งมีการปลดคน 500 - 600 คนแบบเงียบๆ การจ้างงานในปี2563 ภาพการปลดคน การจ้างงานยังจะลดลงต่อเนื่องและแรงขึ้น พนักงานโรงงานจึงมีความเสี่ยงที่คนจะตกงานมากที่สุดในรอบ 10 ปี เพราะประเทศไทยพึ่งพาการส่งออก แต่เศรษฐกิจโลกหดตัวลง จึงมีผลกระทบกันตามมาในทุกอุตสาหกรรม
 
 และก็ไม่ใช่แค่ 10 อาชีพเหล่านี้ที่เสี่ยงจะตกงาน แม้แต่คนที่ทำงานอยู่แล้วและมั่นใจว่าเป็นเก่าแก่มีประสบการณ์ ก็จำเป็นปรับตัวให้มีคุณค่ามากขึ้น หาทักษะคอมพิวเตอร์ หรืออาชีพเสริม อย่าเกี่ยงงาน เพราะอายุมากแล้ว ค่าแรงสูง และ อีกกลุ่มที่เสี่ยงตกงานเป็นอย่างมาก คือนักศึกษาที่กำลังจะจบใหม่ในปี 2563 โดยเฉพาะสายสังคมศาสตร์ เนื่องจากปัจจุบันผู้ที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีมีอัตราการตกงานอยู่แล้ว 1.8 - 2 แสนคน ปีหน้าจะมีผู้ที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีถึง 3 แสนคน ทำให้มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2OK5vSH
 
ขอบคุณข้อมูล
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
425
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด