บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.9K
4 นาที
22 มกราคม 2563
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! ตรุษจีน


วันตรุษจีนปี 2563 ตรงกับวันที่ 25 มกราคม วันจ่ายเป็นวันที่ 23 และวันไหว้ตรงกับวันที่ 24 ซึ่งเป็นธรรมของทุกปีที่วันตรุษจีนจะเป็นอีกวันสำคัญของคนไทยเชื้อสายจีน และคนจีนทั่วโลกที่จะได้ฉลองกับเทศกาลอันยิ่งใหญ่ดังกล่าว ที่ประเทศจีนนั้นยิ่งคึกคักประชาชนจำนวนมหาศาลวางแผนในการเดินทางกลับบ้าน ท่องเที่ยว

รวมถึงถึงบรรดาร้านค้าต่างๆก็พร้อมใจจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นไว้เป็นจำนวนมาก ถึงแม้วันตรุษจีนจะเป็นเทศกาลที่มีทุกปีแต่ www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าหลายคนรู้แค่ว่านี่คือวันที่เราอาจได้อั่งเปา วันที่เราอาจจะได้หยุด วันที่เราอาจจะได้ไปเที่ยวแต่ที่จริงยังมี 10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับตรุษจีนที่ควรจะรู้ไว้
 
1. ตรุษจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี
 
ภาพจาก bit.ly/2NP3h5b

วันตรุษจีน นั้นมีประวัติยาวนานกว่า 4,000 ปีมาแล้ว เดิมทีนั่นไม่ได้เรียกว่าวันตรุษจีน แต่มีเชื่อเรียกต่างกันตามยุคตามสมัย นั่นคือก่อนเริ่มคริสต์ศักราชจะเรียกว่า วัน “ซุ่ย” หมายถึงการโคจรครบหนึ่งรอบของดาวจูปีเตอร์ จนกระทั่งผ่านมาจากรุ่นสู่รุ่น เทศกาลตรุษจีนจะถูกเรียกว่า “เหนียน” หมายถึงการเก็บเกี่ยวพืชผลอุดมสมบูรณ์
 
2. ความหมายของ “วันตรุษจีน”
 
ภาพจาก bit.ly/30JVdrw

ตรุษจีน หรือ “ชุนเจี๋ย” (Chūnjíe]) นับว่าเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เพราะชาวจีนถือว่า “วันตรุษจีน” คือ วันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน ซึ่งเป็นแบบสุริยจันทรคติ ตรุษจีนจึงมักเรียกว่า "วันขึ้นปีใหม่จันทรคติ" ในประเทศจีน ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า "เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ" เพราะฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจีนเริ่มต้นด้วยวันลีชุน

ซึ่งเป็นวันแรกในทางสุริยคติของปีปฏิทินจีน เป็นช่วงเวลาที่มีอากาศดีที่สุด วันดังกล่าวยังเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว ซึ่งคล้ายกันกับงานเทศกาลของตะวันตก หรือที่เรียกกันว่า “คริสต์มาส (Christmas)” โดยเทศกาลตรุษจีนนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 (Zhēngyuè) ในปฏิทินจีนโบราณและสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ด้วยเทศกาลหยวนเซียวหรือเทศกาลโคมไฟ (แรม 15 ค่ำเดือนอ้าย)

ทั้งนี้ คืนก่อนตรุษจีนเป็นวันที่ครอบครัวจีนมารวมญาติพี่น้องเพื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นประจำทุกปี เรียกว่า “ฉูซี่” (Chúxī]) ดังนั้นชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีพิธีเฉลิมฉลองแตกต่างกันไป
 
3. อั่งเปากับแต๊ะเอีย
 
ภาพจาก bit.ly/2NP3h5b

แต๊ะเอีย มีที่มาจากสมัยโบราณ โดย “แต๊ะ” แปลว่า ทับหรือ กด  ส่วน “เอีย” แปลว่า เอว เมื่อรวมเป็น “แต๊ะเอีย” จึงหมายถึง “ของที่มากดหรือทับเอว หรือผูกไว้ที่เอว” เนื่องจากสมัยก่อนเหรียญเงินของชาวจีนที่ใช้นั้นจะมีรูตรงกลาง ตามธรรมเนียมปฏิบัติผู้ใหญ่จะร้อยเหรีญเงินเหล่านั้นด้วยเชือกสีแดงเป็นพวงๆ และนำมามอบให้เด็กๆ ในเทศกาลตรุษจีน พวกเด็กๆ ก็มักจะนำมาผูกเก็บไว้ที่เอว

การให้แต๊ะเอีย จะเป็นเลข “ซี่สี่” คือ 400 จะเป็นตัวเลข 4 กับแบงก์ ร้อย 4 ใบ หรือจะให้เป็น 2 เท่า 3 เท่าของ ซี่สี่ คือ 800 ก็ได้ อีกอย่างที่น่าสนใจสำหรับเทศกาลตรุษจีน คือ การติดยันต์แผ่นใหม่ที่หน้าประตูบ้าน เพื่อเป็นสิริมงคลและคุ้มครองภัย ส่วนอั่งเปา
 
ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ซองสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความโชคดี โดยมีธรรมเนียมคือ ผู้ใหญ่ที่ทำงานมีรายได้แล้ว จะมอบซองสีแดงที่มีเงินจำนวนหนึ่ง ให้กับเด็กๆ พร้อมกล่าวสวัสดีปีใหม่ และเงินที่บรรจุภายบางครั้งจะเป็นเลขนำโชค เช่น เลข 8 อ่านในภาษาจีนจะมีความหมายถึงความรุ่งเรือง หรือความร่ำรวย
 
4. คำอวยพรในวันตรุษจีน
 
 
ภาพจาก bit.ly/30JVdrw

นอกจาก “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้”ที่ แปลว่า ขอให้ประสบโชคดี ขอให้มั่งมีปีใหม่ ก็ยังมีคำอวยพรอื่นๆ ในภาษาจีนที่นิยมนำมาใช้อวยพรกันในวันตรุษจีน เช่น “เกียฮ่อซินนี้ ซินนี้ตั้วถั่น แปลว่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้ร่ำรวยๆ” , “เจาไฉจิ้นเป่า แปลว่า เงินทองไหลมาเทมา ทรัพย์สมบัติไหลเข้าบ้าน” , “เหนียนเหนียนต้าจ้วนเฉียน แปลว่า ปีนี้ร่ำรวยมหาศาล” , “ซื่อเย่ฟาต๋า แปลว่า กิจการเจริญรุ่งเรือง” โดยอีกฝ่ายที่ได้รับคำอวยพรก็จะกล่าวตอบว่า “ตั่งตังยู่อี่” ซึ่งแปลว่า ขอให้สุขสมหวังเช่นกัน
 
5. ความเชื่อสำคัญๆ ในวันตรุษจีน
 
ภาพจาก bit.ly/2NP3h5b

เนื่องด้วยวันตรุษจีนเป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณของพี่น้องชาวจีน จึงมีความเชื่อที่ได้รับการบอกเล่าสืบต่อกันมาและกลายเป็นธรรมเนียมให้ยึดถือปฏิบัติถึงปัจจุบันเช่น วันตรุษจีนจะต้องไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล เพราะเชื่อว่าเป็นการตัดโชค เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ก็จะไม่เอามาพูดถึง ควรพูดถึงแต่เรื่องในอนาคตถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ หรือวันตรุษจีนการแต่งกายและความสะอาจสำคัญ

แต่ห้ามไม่ให้มีการสระผมเพราะจะชะล้างความโชคดีของเราออกไป ควรใส่เสื้อผ้าสีแดง เนื่องจากว่าสีแดง คือ สีแห่งความสุข นำความสว่างความมีออร่ามาให้แก่ผู้สวมใส่เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันตรุษจีน มีผลดีและผลร้ายตลอดทั้งปี เด็กๆ และคนโสด

รวมถึงญาติสนิทใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซองสีแดงใส่ธนบัตรเพื่อความโชคดีเป็นสิริมงคล หรือเชื่อว่าห้ามใช้มีดหรือกรรไกรตัดผ้า ตัดผม หรือตัดสิ่งของใดๆในช่วงวันตรุษจีนและห้ามกวาดบ้าน เพราะคนจีนมีความเชื่อว่าการกระทำเช่นนั้นจะเป็นการตัดหรือปัดโชคลาภดีๆออกจากตัว 
 
6. การฉลองตรุษจีนในสมัยโบราณ
 
ภาพจาก bit.ly/36cLA5T

การฉลองเทศกาลตรุษจีนแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่เคยนึกกันบ้างไหม ว่าสมัยก่อนที่เราไม่มีอินเทอร์เนต ไม่มีโทรศัพท์จะมีวิธีการฉลองตรุษจีนกันอย่างไร ข้อมูลนี้จาก China Xinhua News ที่ใช้ภาพวาดเก่าๆ ยุคจีนโบราณมาอธิบายได้อย่างดี เช่น การติด “เหมินเสิน” หรือภาพเทพเจ้าประจำประตูที่เชื่อว่าจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย หรือวันก่อนขึ้นปีใหม่ชาวจีนโบราณนิยมจุดประทัด

เชื่อว่าเสียงประทัดจะทำให้ภูตผีจะตกใจและหนีไป และยังมีภาพวาดเขี่ยกองมูลในช่วงเช้าตรู่ของคืนก่อนปีใหม่ ที่เชื่อว่าช่วยให้สมปรารถนา และภาพวาดการสวัสดีปีใหม่ของคนจีนที่เวลาไปสวัสดีปีใหม่คนจีนสมัยโบราณมักไม่เข้าไปถึงในบ้าน แต่จะมาส่งบัตรอวยพรให้หน้าบ้าน และในสมัยราชวงศ์ถัง มีธรรมเนียมว่าในพิธีแต่งงานช่วงตรุษจีนผู้หญิงห้ามไหว้ ผู้ชายไหว้ได้ เพราะเชื่อว่าผู้หญิงไม่ควรคุกเข่า  นอกจากนี้ยังมีภาพวาดกิจกรรมอีกหลายอย่างเช่น เล่นว่าว แต่งกลอน แสดงละครลิง เตะลูกบอลจีน เป็นต้น
 
7. ตำนานการจุดประทัดและเชิดสิงโตในวันตรุษจีน
 
ภาพจาก bit.ly/2NP3h5b

ทุกตรุษจีนเราจะได้ยินเสียงประทัดและเห็นการแสดงเชิดสิงโต ไม่ใช่เพียงแค่การเฉลิมฉลองแต่เรื่องนี้มีตำนานกล่าวไว้ว่าสมัยก่อนมีปีศาจตนหนึ่งอาศัยอยู่บนภูเขาและออกอาละวาดจับตัวมนุษย์ วัว ควาย กินเป็นอาหาร ภายหลังมนุษย์พบว่าปีศาจตนนี้กลัวไฟ เสียงปัง และสีแดง จึงพากันจุดประทัด และติดโคมไฟสีแดงไว้หน้าบ้าน เพื่อขับไล่ปีศาจ

ซึ่งก็เป็นตำนานที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน ส่วนการเชิดสิงโต มีบันทึกของราชวงศ์ทางตอนเหนือของทางตอนใต้ของจีนในช่วง พ.ศ. 805 และ พ.ศ.1132ระบุว่า ชาวบ้านนำหัวสิงโตมาสวมใส่และเชิดเพื่อไล่ผีร้ายที่ลงมากินผู้ชายและสัตว์เลี้ยง ก็กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานความเชื่อที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน
 
8. ตัวเลขการเดินทางของชาวจีนในเทศกาล “ตรุษจีน”
 
เมื่อตรุษจีนปี 2562 ประชาชนในประเทศจีนทำสถิติเดินทางในประเทศมากถึง 415 ล้านเที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 จากช่วงเวลาปกติ และมีชาวจีนนับหลายร้อยล้านคนเดินทางโดยรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบินไปยังเมืองต่างๆในประเทศ

ขณะเดียวกันก็คาดว่าจะมีชาวจีนราว 7 ล้านคนเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศการเดินทางของชาวจีนในช่วงเทศกาลวันหยุดนั้นถือว่ามีตัวเลขสูงมากโดยการรถไฟจีนระบุว่าช่วงการเริ่มต้นเทศกาลตรุษจีนนั้นมีการเดินทางรถไฟกว่า 9.3 ล้านครั้งเพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ขณะที่การเดินทางทางอากาศก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยจากข้อมูลของสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์พบว่ามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเกือบ 2 ล้านคน หรือราว8%  รวมมูลค่าการเดินทางในช่วงตรุษจีนมากกว่า 475,000 ล้านหยวน
 
9. คาดการณ์มูลค่าเศรษฐกิจ ตรุษจีน 2563
 
ภาพจาก bit.ly/2v54iiK

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า เม็ดเงินใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2563 จะอยู่ที่ประมาณ 13,150 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปัจจัยสำคัญที่กดดันการใช้จ่าย ก็คือกำลังซื้อที่ชะลอตัว

โดยค่าใช้จ่ายที่หดตัวสูงได้แก่ ค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว/ทำบุญ และค่าใช้จ่ายด้านแจกเงินแต๊ะเอีย ส่วนค่าใช้จ่ายด้านเครื่องเซ่นไหว้พบว่าปรับลดลงในสัดส่วนที่น้อยกว่า อย่างไรก็ดี อาจต้องติดตามปัจจัยทางด้านภัยแล้ง หากกระทบต่อราคาสินค้าเครื่องเซ่นไหว้ ที่ปรับสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ปรับขึ้นในปีก่อนๆ อาจส่งผลเชิงลบต่อการตั้งงบประมาณการใช้จ่ายได้
 
10. รวม 9 ไชน่าทาวน์ ฉลองตรุษจีนปี 2020
 
ภาพจาก bit.ly/2RhrbIH

แทบทุกประเทศทั่วโลกมีชาวจีนอาศัยอยู่และส่วนใหญ่จะมีการรวมตัวกันกลายเป็นไชน่าทาวน์ในแต่ละประเทศซึ่งคนเชื้อสายจีนเหล่านี้ก็จะเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่เช่นกัน และนี่คือ 9 ไชน่าทาวน์ระดับโลกที่ฉลองตรุษจีนในปี 2020 เริ่มจาก ฮาวานาในคิวบาร์ ที่เป็นย่านไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของละตินอเมริกา , โกลกาตาในอินเดียที่เริ่มก่อตั้งไชน่าทาวน์แห่งนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 , เยาวราชประเทศไทย

ซึ่งเป็นย่านคนไทยเชื้อสายจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก, มะนิลา ในฟิลิปปินส์ ถือเป็นย่านไชน่าทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1590, โยฮันเนสเบิร์ก ในแอฟริกาใต้ ที่เริ่มจากชาวจีนอพยพเข้ามาในปี 1880, เมลเบิร์น ในออสเตรเลียที่เริ่มตั้งหลักปักฐานตั้งแต่ปี 1851, แวนคูเวอร์ ในแคนาดา ที่เริ่มตั้งแต่ปี 1984, ซานฟรานซิสโกในสหรัฐอเมริกา เป็นไชน่าทาวน์ที่มีอายุกว่า 150 ปี, ลอนดอน ในอังกฤษ เป็นไชน่าทาวน์ใหญ่สุดในยุโรปมีคนกว่า 300,000 คนมุ่งมาฉลองตรุษจีนทุกปี
 
ตรุษจีนเป็นวันสำคัญเช่นเดียวกับวันคริสต์มาสของคนยุโรปและสำคัญเทียบเท่ากับวันสงกรานต์ของคนไทย สิ่งที่ตามมาในทุกเทศกาลคือการเดินทางและการจับจ่ายซื้อของใช้ต่างๆ ที่ปีนี้หลายฝ่ายคาดว่าด้วยภาวะค่าครองชีพที่ไม่สู้ดีนัก รายจ่ายมากกว่ารายรับอาจทำให้มูลค่าการตลาดของวันตรุษจีนลดน้อยลงแต่ในแง่ของคุณค่าทางจิตใจวันตรุษจีนต่อให้ประชาชนไม่ได้ร่ำรวยเงินทองมากมายแต่ถึงเทศกาลดีๆ แบบนี้เขาก็มีความสุขทางใจได้
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id:
 @thaifranchise
 

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
ขอบคุณข้อมูล
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
793
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
710
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
641
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
522
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
439
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
421
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด