บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
5.3K
3 นาที
20 กุมภาพันธ์ 2563
6 อาชีพลงทุนน้อย แต่รวยได้!


อยากรวยต้องลงทุน! สูตรสำเร็จที่เราเคยได้ยินมานาน คำถามคือว่า “เงินน้อย ทุนน้อย” แล้วจะลงทุนอะไรได้บ้าง เมื่อมีเงินน้อย สิ่งที่ต้องทำมากคือ “ตั้งใจและพยายาม”  มีหลายอาชีพที่เริ่มสามารถเริ่มต้นทำได้เลย แม้รายได้ที่ตามมาอาจจะไม่มากมายในทันทีเข้าตำรา “อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา” แต่ถ้าเราตั้งใจทำสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จากธุรกิจเล็กๆอาจค่อยๆ เติบโตและกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทำให้เรารวยมากขึ้นได้ ลองมาดู 6 อาชีพลงทุนน้อยแต่รวยได้ (ถ้าตั้งใจทำจริง) ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com นำมาฝากเป็นแนวทางให้คนอยากรวยได้ลองทำ
 
1. ขายลูกชิ้นทอด


ภาพจาก bit.ly/2HGQePv
 
ลูกชิ้นทอดเป็นอาหารว่างที่ถูกใจคนทุกเพศทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ สามารถทานได้ทั้งตอนเช้า กลางวันและเย็น เราจึงสามารถเลือกทำเลและเวลาขายได้ตลอดวัน เป็นอาชีพที่ลงทุนน้อยแต่ได้กำไรดี แค่หาแหล่งขายส่งลูกชิ้นรสชาติอร่อยหลายๆ ประเภทเพื่อสร้างตัวเลือกที่หลากหลายให้ลูกค้า ศึกษาสูตรการทำน้ำจิ้มรสเด็ด ขายพร้อมผัดสดสะอาด พร้อมกับหาทำเลดีๆ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเริ่มต้นขายลูกชิ้นทอดได้แล้ว
 
ถ้างบลงทุนเราไม่มาก ไม่จำเป็นต้องเปิดร้านใหญ่ วัตถุดิบครั้งแรกไม่ต้องเยอะ อาจจะเริ่มซื้อลูกชิ้นในงบประมาณ 1,000 -2,000 บาท เครื่องปรุงทำน้ำจิ้ม 500 บาท ถุงใส่ลูกชิ้น 200 บาท อาจมีผักสดสัก 200 บาท รวมค่าใช้เบ็ดเสร็จไม่เกิน 3,000 บาท ขายไม้ละ 10 บาท X 250 ไม้ = 2,500 บาท ขายสองรอบเช้าและเย็นเท่ากับได้เงิน 5,000 บาท
 
แต่ถ้าขายไม่ได้ถึงวันละ 250 -500 ไม้ แต่ขายได้วันละ 100 -200 ไม้ ก็จะมีรายได้ต่อวัน 1,000 – 2,000 บาท หักลบรายจ่ายน่าจะพอเหลือเก็บได้บ้าง แต่อย่าลืมว่ายิ่งเราขายทุกวัน ยิ่งมีลูกค้าประจำมากขึ้น ชื่อเสียงเราก็จะมากขึ้น และหากรู้จักทำตลาดเพิ่มช่องทางการขายโอกาสที่จะขายได้ถึงวันละ 300-500 ไม้ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หรือถ้าบอกว่าลงทุนเองไม่มีประสบการณ์จะลองเลือกลงทุนแบบแฟรนไชส์ก็มีหลายแบรนด์ให้เลือกเช่น
 
 
 
ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิด 1 บาท  ใช้งบในการลงทุน 1,990  - 12,990 บาท

 
2. ขายแซนด์วิช


ภาพจาก bit.ly/2vKRhvl
 
การขายแซนด์วิชก็ดูเป็นสินค้าง่ายๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนสูงมากนัก ในยุคนี้หาทำเลแถวหน้าโรงเรียน โรงงาน ป้ายรถเมล์ ย่านออฟฟิศ หรือจะขายออนไลน์ร่วมด้วยก็ได้ สำคัญคือ วัตถุดิบที่ใช้ต้องสะอาด ราคาไม่แพงเกินไป (วัตถุดิบ) การตั้งราคาขายคำนวณ ให้มากกว่าต้นทุนประมาณชิ้นละ 5-10 บาท
 
สมมติเราขายแซนด์วิชชิ้นละ 25 บาท วันหนึ่งขายเฉพาะช่วงเช้าได้วันละ 100 ชิ้น ก็ได้เงินแล้ว 2500 บาท หักต้นทุนออกไปก็ยังเหลือกำไรพอให้ชื่นใจ แต่ใครอยากขยับขยายกำไรให้มากขึ้นไปอีกก็ลองขายรอบเย็นด้วยอีกสักรอบ แต่ขอบอกก่อนว่าไม่มีอาชีพไหนที่ลงทุนน้อยแต่จะกำไรดีโดยไม่พยายาม การขายแซนด์วิชก็เช่นกันเราต้องเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุดถ้าหวังเรื่องยอดขายดีๆ 
 
3. ขายหมูปิ้ง


ภาพจาก bit.ly/38L2la6
 
อุปกรณ์ในการขายหมูปิ้งหลักๆคือ เตาย่าง , โต๊ะวางหรือรถเข็น จุดเด่นของการขายหมูปิ้งคือใช้พื้นที่ในการวางของไม่เยอะ โต๊ะตัวเดียวก็เพียงพอในวางสิ่งของต่างๆ ในการขาย ถาดและตะแกรงวางหมูปิ้ง ควรเป็นถาดและตะแกรง สเเตนเลส จะได้ทำความสะอาดง่าย  ถัดมาคือข้าวเหนียว แนะนำว่าควรใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู จะนุ่มและขาว ทำให้ขายง่าย น่าทาน
 
นอกจากนี้อุปกรณ์นึ่งข้าวเหนียว เช่น หม้อนึ่งราคาประมาณ 120-200 บาท หวดนึ่งข้าวเหนียวราคาประมาณ 20-100 บาท แล้วแต่ขนาดและรุ่น กระติกเก็บข้าวเหนียว ใช้เป็นกระติกน้ำแข็งทั่วไปครับ ราคาประมาณ 400-700บาท ถุงใส่ข้าวเหนียวและหมูปิ้ง ถ้าเป็นถุงใส่ข้าวเหนียวโดยทั่วไป จะนิยมกันอยู่ 2 ขนาด คือ ขนาด 4×6 หรือ 4×7 ส่วนถุงที่ใส่หมูปิ้งขนาดประมาณ 4×8 นิ้ว และต้องมีถุงหิ้วขนาด 6×14 นิ้ว คอยใส่สินค้าทั้งหมดให้ลูกค้าด้วย
 
การขายหมูปิ้งถือเป็นอาชีพยอดฮิตที่เรามองไปทางไหนก็เจอ ส่วนจะขายดี มีกำไรแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ “เทคนิคการตลาด” คุณภาพสินค้า รวมถึงทำเลในการขาย ที่สำคัญความขยันและพยายาม สำคัญมากในอาชีพนี้
 
4. เก็บของเก่า


ภาพจาก bit.ly/39PZ8qa
 
อย่ามองข้ามอาชีพเก็บของเก่า หากเรามีรถกระบะสักคัน อาชีพนี้เราเริ่มได้เลย ของเก่าหรือขยะเหลือใช้มีให้เห็นอยู่ทุกที่ อาชีพนี้ต้องไม่อายทำกิน ไม่กลัวสกปรก อาบเหงื่อต่างน้ำ แต่ทำไปเรื่อยๆ อาจเห็นช่องทางที่เปลี่ยนจากคนขายของเก่ามาเป็นคนรับซื้อในอนาคตได้ ปัจจุบันปริมาณขยะมีมากขึ้นเรื่อยๆ มีการคะเนคร่าวๆว่า มูลค่าของขยะโดยเฉลี่ยกิโลกรัมละ 8 บาท คนเราทิ้งขยะรีไซเคิลต่อคนวันละ 8 ขีด ถ้ารวมทุกคนทั่วประเทศคร่าวๆ 70 ล้านคน ก็เท่ากับคนไทยกำลังทิ้งเงินวันละ 400 กว่าล้าน/ปี ก็จะเทียบเท่ากับเป็นเงินแสน 6.3 หมื่นกว่าล้านบาท นั่นคือมูลค่าที่เราสามารถจัดการให้เกิดประโยชน์ได้
 
แต่ในความเป็นจริงคือราคาของขยะแต่ละชนิดมีการรับซื้อต่างกันเช่นกระดาษหนังสือพิมพ์ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละเกือบ 4 บาท , กระดาษกล่องสีน้ำตาล ราคาประมาณ 4 บาท/กิโลกรัม , กระดาษที่ใช้ในสำนักงานราคาประมาณ 7 บาท/กิโลกรัม , ขวดเหล้า (ขุ่น) ประมาณ 2 บาท/ กิโลกรัม ,อะลูมิเนียม ทองแดง ทองเหลือง สเตนเลส และตะกั่ว ราคาประมาณ206 บาท/กิโลกรัม , อะลูมิเนียมกิโลละประมาณ 23 บาท เป็นต้น  ลักษณะการหาของเก่าก็คือการตระเวนไปตามจุดต่างๆ หรือถ้าเราสามารถคอนแทคกับห้างร้าน บริษัท ที่เขามีวัสดุไม่ใช้เราก็สามารถเอามาขายเป็นของเก่าได้  อาชีพนี้ต้องอาศัยความอดทน หักลบค่าน้ำมันในแต่ละวันก็น่าจะมีรายได้ที่ดี
 
5. ร้านข้าวไข่เจียว


ภาพจาก bit.ly/2HGHits
 
เปิดร้านขายข้าวไข่เจียมเมนูที่ดูง่ายๆ แต่ขายได้แน่หากมีเทคนิคการทำตลาดที่ดีและมีทำเลในการขายที่น่าสนใจ อุปกรณ์ก็ไม่มากโต๊ะ 1 ตัว เตาแก๊ส จาน (แบบใช้แล้วทิ้ง) วัตถุดิบสำหรับผสมไข่เจียว (หมูบด , ปูอัด , หมูยอ ฯลฯ) ซึ่งเราอาจไม่ต้องมีเครื่องเคียงมากนักในช่วงแรก
 
และที่ลืมไม่ได้คือ ข้าว กับไข่ ข้าว 1 ถัง เอาแบบดีราคา ถังละ 450 หุงได้หลายรอบ ไข่เบอร์ 1 แผงละ 95 บาท (30 ใบ) ต้นทุนเบ็ดเสร็จพร้อมเปิดร้านประมาณ 2,000 ขายข้าวไข่เจียวจานละ 20-25 บาท แค่ 100 จานก็ได้เงิน 2,500 บาท แน่นอนว่าถ้าร้านค้าคนติดใจลูกค้าก็มากรายได้เราก็จะมากขึ้นด้วย ถึงตอนนั้นเราอาจจะเพิ่มงบลงทุนให้ร้านเรามีตัวเลือกสำหรับลูกค้ามากขึ้น ก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้นตามไป
 
6. ร้านกระเพรา 20 บาท


ภาพจาก bit.ly/2vMZSgT
 
เห็นตามตลาดนัดกับร้านกระเพรา 20 บาท ที่ภายในร้านก็มีแค่กระเพราหมูสับปรุงเสร็จใส่ถาดไว้ กับไข่ดาวที่ทอดแล้วใส่ถาดไว้เช่นกัน และข้าวสวยหุงพร้อมรับประทาน ลูกค้ามาถึงก็เลือกว่าจะเอากระเพราราดข้าวแบบใส่ไข่ดาวหรือไม่ใส่ไข่ดาว ราคา กระเพราราดข้าว 20 บาท เพิ่มไข่ดาว 5 บาท จากนั้นก็มัดเป็นห่อให้ลูกค้าหิ้วกลับไปรับประทานที่บ้านหรือในหอพัก ห้องพัก ซึ่งเป็นอาหารจานด่วนที่ตอบโจทย์ให้คนยุคนี้ได้ดี จุดเด่นคือ ทานง่าย ราคาแค่ 20 บาท ก็อิ่มได้ ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ มื้อละ 20 บาทถือว่าไม่แพงเกินไป แถมยังอร่อยและได้รสชาติที่ดีด้วย
 
การลงทุนขอเพียงมีทำเลเช่นตามตลาดนัด สถานที่ชุมชน ใกล้โรงงาน วัตถุดิบหลักๆ ที่ต้องซื้อคือ หมูสด ราคากิโลกรัมละประมาณ 150-160 บาท ไข่แผงละประมาณ 90-95 บาท (30 ฟอง) ใน 1 ถาด (เมนูสำเร็จ) อาจใช้หมูประมาณ 2 กิโลกรัมต้นทุนเนื้อหมูประมาณ 300 บาท ขายในราคาห่อละ 20 บาท แค่ 15 ห่อก็จะคุ้มทุนค่าหมู ที่เหลืออาจจะหักค่าไข่ ค่าแก๊ส ค่าเช่าสถานที่ ค่าอุปกรณ์จิปาถะ รวมๆ แล้ว จุดคุ้มทุนอยู่ที่ประมาณ 15-20 ห่อ ซึ่งหากเป็นทำเลที่คนพลุกพล่านการขาย 15-20 ห่อไม่ใช่เรื่องยาก เป็นอีกการลงทุนที่น่าสนใจแม้จะไม่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในทันทีแต่ก็พอทำให้มีเงินหมุนเวียนและเมื่อทำไปนานๆอาจมองเห็นลู่ทางที่จะขยับขยายได้มากขึ้นด้วย
 
อย่างไรก็ดีไม่ว่าคิดจะลงทุนทำอะไร ใช้ทุนมาก ทุนน้อย สำคัญคือการวางแผน เทคนิคการตลาด แม้เงินทุนจะเป็นสิ่งสำคัญแต่หากปราศจากความตั้งใจทำ ไม่เอาใจใส่กับสิ่งที่ทำ ไม่พัฒนาสินค้าหรือก้าวตามกระแสความต้องการ ก็อาจทำให้ธุรกิจเติบโตไม่ได้เท่าที่ควรจะเป็น
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่  www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลาเยาวราช
แฟรนไชส์ ลูกชิ้นปลาเยาวราช X ร่วมมือกับ    ภัตตาคาร (สูตรแท้จากเยาวราช) ลูกชิ้นปลา อู้ฟู่ มีความสามารถพ...
ค่าแฟรนไชส์ 2,990 บาท
 ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิด
แฟรนไชส์ ลูกชิ้นปลาระเบิด อันดับ 1 ในเมืองไทย การันตีคุณภาพ จากรางวัล Thailand Franchise Award 2020 & 2021 by DBDNo.1 Fra...
ค่าแฟรนไชส์ 3,000 บาท
 ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิด
ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด (ลูกชิ้นในถุง 1 กิโลกรัม ของซูโม่ มีลูกชิ้น 130 ลูก 1 เดียว ในประเทศไทย หาไม่ได้แล้วครับจากที่อื่นๆ)&n...
ค่าแฟรนไชส์ 2,490 บาท
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
791
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด