ทรัมป์ชี้ ไวรัสโคไรน่าส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กล่าวตอนวันพุธของช่วงเย็นเอาไว้ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสส่งผลต่อการเติบโตในผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ สอดคล้องกับหน่วยงานที่คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของทำเนียบข่าวไม่กี่วันมานี้
 

“เรื่องนี้ส่งผลต่อการเติบโตทาง GDP” ทรัมป์กล่าวในงานประชุมข่าวเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 ซึ่งน้อยครั้งมากที่ทรัมป์จะปรากฏตัวห้องข่าวทำเนียบขาว “แต่เศรษฐกิจประเทศของพวกเรายังคงแข็งแกร่งอยู่ เศรษฐกิจภายในประเทศของพวกเรากำลังเป็นไปได้ด้วยดี
 

ภาพจาก bit.ly/2uxG3Kc

 

ทรัมป์กล่าวเพิ่มเติมว่า เร็ว ๆ นี้จะมีการคาดการณ์ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และจะทำการโฟกัสในเรื่องของการรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งทางศูนย์ควบคุมโรคได้ออกมาเตือนว่า เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายไปทั่วสหรัฐได้ 
 

“นี่มันคนละเรื่องกันเมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเราได้พูดถึง” ทรัมป์กล่าว “พวกเราจะต้องแน่ใจว่า ประเทศของพวกเรามีความปลอดภัย ปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง”
 

ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้วิเคราะห์ความเสี่ยงของเชื้อ COVID-19 ในสัปดาห์นี้โดยเรื่องของการตอบสนองภาวะฉุกเฉินของรัฐบาลกับความผันผวนทางตลาดการเงิน โดยหุ้นสหรัฐเจอกับการปรับตัวร่วงลงอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางนักลงทุนได้ประเมินผลกระทบการระบาดของเชื้อโรคที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานกับกิจการอื่น ๆ 

ภาพจาก bit.ly/2uCQAE4

 

ที่ห้องข่าวนั้น ทรัมป์ได้กล่าวว่า การเทขายหุ้นอย่างหนักส่วนหนึ่งมาจากเชื้อไวรัส COVID-19 แต่เช่นกันจะต้องมาดูเรื่องของความเชื่อมโยงที่มีนัยยะแอบแฝงเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี เขาได้กล่าวโทษในเรื่องภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดขึ้นจากบริษัท กล่าวโทษบริษัท General Motors ในช่วงปีก่อนหน้านี้และธนาคารกลางของสหรัฐ
 

ทรัมป์ประสบปัญหาในการพาประเทศมีอัตรา GDP อยู่ที่ 3 % ตามที่เขาได้ให้คำมั่นเอาไว้เมื่อปี 2016 ซึ่งก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น ทางสํานักงานวิเคราะห์และติดตามการใช้งบประมาณแห่งรัฐสภากับนักเศรษฐศาสตร์อิสระคนอื่น ๆ ได้ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโตอยู่ราว ๆ 2 % ในปี 2020

 

ที่มา : https://markets.businessinsider.com/