ถอดสูตรซื้อขายหุ้น มือใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง?

ในแต่ละวัน หุ้นแต่ละตัวส่วนใหญ่มีการซื้อขายไปมาในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยปกติแล้วปริมาณการซื้อหุ้นที่สูงชี้ให้เห็นถึงสัญญาณที่แข็งแกร่งว่า ตลาดหุ้นยังแข็งแรงและเทรดเดอร์เริ่มให้ความสนใจในการซื้อขายหุ้น เป็นไปได้ว่าเมื่อปริมาณการซื้อขายหุ้นปรับตัวลดลงมาต่ำ

 

ถือเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า เทรดเดอร์อาจนำเงินทุนออกมาด้วยหลายเหตุผลด้วยกัน ในการพัฒนากระบวนการในการอ่านเกมและแยกแยะระหว่างปริมาณการซื้อและขายหุ้นนั้น ช่วยให้คุณพัฒนายุทธศาสตร์ในการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับแผนการลงทุนของตัวเอง

 

ภาพจาก freepik

 

“ปริมาณซื้อหุ้น” บ่อยครั้งมีเรียกว่า “ปริมาณการเสนอขาย” เมื่อผู้ขายได้เสนอจำนวนหุ้นในราคานั้น ๆ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่า เขาสามารถยอมรับในราคาที่ผู้ขายได้ตั้งราคาเอาไว้ได้หรือไม่ นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมถึงเรียกอีกอย่างว่า “ปริมาณการเสนอขาย”

 

ในหลายสถานการณ์นั้น จำนวนผู้ซื้อที่ไม่ได้สัดส่วนกันมาจากการที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า ราคาหุ้นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไปในระยะสั้น 

 

แน่นอนเรื่องนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของหุ้นทุก ๆ ตัวได้อย่างแม่นยำ จะต้องจำไว้ว่า นักลงทุนจะต้องทำการฝึกฝนการวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเอง เพื่อประเมินตัดสินใจในก้าวต่อไปของการเล่นหุ้น

 

ภาพจาก freepik

 

“ปริมาณขาย” เหมือนกับคำว่า “ปริมาณการเสนอซื้อ” เมื่อมีปริมาณการขายที่สูงกว่าซื้อ โดยปกติแล้วพฤติกรรมราคาหุ้นจะเริ่มปรับตัวลดลง เนื่องจากเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ต่างขายหุ้นบริเวณราคาเสนอซื้อจนทำให้หุ้นตกต่ำอย่างรวดเร็ว อีกทั้งปริมาณการซื้อขายที่ลดน้อยลง มองได้ว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วหากปริมาณการขายยังคงมากกว่าปริมาณการซื้อ ความจริงก็คือ แต่ละคนจะได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกลงเมื่อผู้ซื้อเริ่มเข้ามาดันปริมาณการซื้อมากขึ้น

 

ปริมาณการซื้อขายที่ต่ำทำให้ราคาหุ้นมีความผันผวนได้ทั้งบวกและลบ เนื่องจากหุ้นขาดสภาพคล่องหรือทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวไม่แน่นอนทั้งปริมาณการซื้อและขาย แต่โดยรวมแล้วมองได้ว่า ปริมาณการซื้อขายมีผลต่อการถือครองหุ้นด้วย

ที่มา : finance.zacks.com