ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงมากถึง 8 % ในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 ก่อนที่ดัชนีปิดลบที่ 7.6 % การที่ดัชนีปรับตัวลดลงในช่วงเปิดทำการทำให้ตลาดหุ้นอื่น ๆ มีการปรับตัวดลงตามมาอย่างหนักนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2008

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์มีการปรับตัวลดลงกว่า 2014 จุดหรือคิดเป็น 7.8 % ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่เพียงวันเดียวนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2008

ภาพจาก markets.businessinsider.com

 

การปรับตัวลดลงเริ่มขึ้นตั้งแต่สงครามราคาน้ำมันและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่มีความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ ทั้งตราสารหนี้ก่อนที่มีการปรับตัวลดลง

 

ดัชนีหลัก 3 แห่งของสหรัฐเจอกับการเทขายกระหน่ำอย่างหนักอันเนื่องมาจากตลาดน้ำมัน โดยสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มแย่ลงมาตั้งแต่ปี 1991 ซึ่งในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น ทางซาอุดิอาระเบียได้ทำสงครามน้ำมันกับรัสเซีย ทำให้รัสเซียประสบปัญหาในการควบคุมน้ำมันและรวมไปถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 

ภาพจาก bit.ly/39EJ8aP
 

ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่านั้น ยังคงดำเนินต่อไป โดยที่เมืองนิวยอร์ก, แคลิฟอร์เนียและฟลอริด้า รวมไปถึงรัฐอื่น ๆ นั้น มีผู้คนมากกว่า 500 คนที่ติดเชื้อ ยอดผู้เสียชีวิตในประเทศอเมริกานั้นอยู่ที่ 21 คนแล้ว และยังมีการยืนยันในส่วนที่ทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอลงจนส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป

 

เชื้อไวรัสโคโรน่าตอนนี้ได้คร่าผู้คนไปกว่า 3,900 คนและมีผู้ที่ติดเชื้ออีกว่า 111,000 คน

ภาพจาก bit.ly/38Dqajs

 

ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงมาเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ โดยที่ตราสารทุนนั้นมีการปรับตัวลดลงกว่า 7 วันติดต่อกันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าจนทำให้มูลค่าของหุ้นเปลี่ยนแปลง โดยความเสี่ยงของสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้รับการป้องกันในช่วงเดือนมีนาคมก่อนที่ราคาหุ้นมีการแกว่งตัวในช่วงปิดตลาดวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงเกือบตลอดทั้งเดือน

 

ธนาคารกลางทั่วโลกได้ออกมาตรการฉุกเฉินในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของเชื้อ โดยธนาคารกลางของสหรัฐได้ทำการตัดอัตราดอกเบี้ยถึง 50 จุดในช่วงวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยทาง Wall Street คาดหวังว่า ทางธนาคารจะทำการดันอัตราอยู่ที่ 0 % เพื่อป้องกันจากเชื้อไวรัสระบาด

ที่มา : markets.businessinsider.com