บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.2K
2 นาที
7 เมษายน 2563
ยุคที่ต้องเชื่อมโยงธุรกิจเพื่อการอยู่ทางรอดของวันนี้
 
คงได้ติดตามข่าวว่า Grab บริษัทต่างชาติที่มีข้อมูลหรือ data มากจนปรับตัวเองเป็น microfinance ไปแล้ว จะเห็นว่าการทำธุรกิจในยุคนี้ยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไหร่ยิ่งมีความได้เปรียบ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่บริษัทขนาดใหญ่พยายามแต่จะขยายในเชิงช่องทางการขายสินค้าหรือสาขาเพิ่มมากขึ้น แต่ในปัจจุบัน การขยายธุรกิจบางครั้งต้องกลับมาดูว่าธุรกิจของเรามี asset หรือสินทรัพย์อะไรบ้างที่สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ได้
 
ในยุคนี้ data หรือข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญมากจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Grab จึงเปิดเป็น Grab Financial เพราะเขามีข้อมูลของคนมากพอ และถ้าดูจากการปล่อยกู้ในเฟสแรกน่าจะเป็นการปล่อยกู้ให้นกับลูกค้ารายย่อยที่อยู่ในระบบนิเวศก่อน เช่น คนที่ขับรถ Grab ร้านอาหารที่มี Grab Food วิ่งอยู่แล้ว หรือบริการที่เกี่ยวกับการขนส่ง ฯลฯ 


ภาพจาก bit.ly/3aQYWrk
 
คำถามคือทำไม Grab ถึงกล้าปล่อยกู้ เหตุผลก็เพราะบรรดาคนที่มากู้เหล่านี้ทำธุรกิจกับ Grab อยู่แล้ว Grab มีข้อมูลว่าคนคนนี้ขับรถเดือน ๆ หนึ่งได้เงินอยู่กี่บาท ที่ผ่านมาขับรถกี่ครั้ง ขับดีหรือไม่ดีอย่างไรบ้าง ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้ทำให้รู้พฤติกรรมของคนที่เป็นลูกค้า จึงไม่แปลกใจว่าทำไมธุรกิจการปล่อยกู้ของ Grab นั้นจึงทำได้ง่ายมากกว่าธุรกิจอื่น นั่นเพราะความเสี่ยงมันต่ำจริง ๆ และเงินทั้งหมดของคนที่มากู้ก็วิ่งอยู่บนระบบนิเวศของ Grab อยู่แล้วด้วย
 
โดยมีการนำข้อมูลทั้งหมดที่มีมาทำ credit scoring คือการให้คะแนนคนแต่ละคน ซึ่งเราอาจเคยได้ยินว่าประเทศจีนมีการนำเอาระบบ credit scoring มาให้คะแนนกับคนหรือประชากรแต่ละคนซึ่งก็จะคล้ายกัน เพียงแต่การทำ scoring ของแต่ละคนนั้นจะทำกันระดับไหน เช่น ระดับบุคคล 


ภาพจาก bit.ly/2ULdFyC
 
เปรียบเทียบเหมือนกับค่าระดับหรือคะแนนเกรดในการเรียนของนักเรียน เกรดก็คือ scoring อย่างหนึ่ง หรือหากเป็นคนทำงานก็จะมีตัวเลขต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเราทำงานดีไหม แต่พอเป็นในเชิงของธุรกิจโดยเฉพาะในยุคนี้เราสามารถเอาข้อมูลที่รายล้อมรอบตัวเรานำมาทำ scoring ได้ไม่ยากเลย 
 
ยุคนี้ได้เริ่มเข้าสู่ยุคการทำ credit คือ คนคนหนึ่งจะมีความน่าเชื่อถือระดับไหนจะอาศัยข้อมูลจากสภาพแวดล้อมซึ่งบางทีเจ้าตัวยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป จะมีการนำเอาข้อมูลต่าง ๆ รอบตัวมาประมวลผลให้รู้ว่าคนคนนั้นมี scoring หรือมีคะแนนเท่าไหร่ 
 
การขยายธุรกิจของ Grab โดยอาศัยจากธุรกิจอื่น เริ่มต้นจากรถ ต่อมามี Grab Pay มาเป็น Grab Insurance ที่ทำเกี่ยวกับประกัน แล้วจึงมาทำเรื่องไฟแนนซ์ เมื่อดูให้ดีจะเห็นว่า Grab นั้นเข้าใกล้การเป็นธนาคารมากแล้วเหลือก็แต่เรื่องของการฝากเงินอย่างเดียวเท่านั้น ในอนาคต Grab อาจมีการปล่อยกู้ให้กับลูกค้ารายใหญ่ได้ด้วยเหมือนกัน
 
วันนี้มาถึงจุดที่หลายธนาคารกลัวกันมาโดยตลอดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ว่าทำไมธนาคารจึงต้องลุกขึ้นมาเปิดบริการต่าง ๆ มากขึ้น เพราะกลัวในสิ่งที่ Grab ได้ทำแล้วในวันนี้ อยากบอกว่านอกจาก Grab แล้วยังจะมีอีกหลายคนที่กำละงจะเดินตามมาไม่ว่าจะเป็น LINE, Get ยังมีบริษัทอีกมากมายที่พร้อมทำแบบนี้


ภาพจาก bit.ly/3bXKJsQ
 
ดังนั้นจะเห็นว่าธนาคารต่าง ๆ ก็มีวิธีการที่จะทำให้ไม่ไม่ตกขบวนหรือต้องไปแข่งขันกับบริษัทเหล่านี้ อย่างที่ผ่านมาธนาคาร MUFG (Mitsubishi UFJ Financial Group ) ของญี่ปุ่นได้ไปลงทุนใน Grab มูลค่ามากกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 22,000 ล้านบาท) หรือแม้แต่ KBank หรือเซ็นทรัลเองก็ไปลงทุนใน Grab จะเห็นว่าทุกคนจะใช้วิธีการคือเมื่อสิ่งนี้มาแล้ว หากแข่งไม่ได้ก็เกาะหรือเกี่ยวไปเลยจะได้เติบโตไปด้วยกันหรือพึ่งพาอาศัยกันได้
 
ผมมองว่านี่เป็นวิธีคิดของยุคนี้ ยุคที่ต้องพยายามไปเกาะเกี่ยวกันไว้ เมื่อเราเริ่มเห็นว่าเขาจะมากินหรือมาดิสรัปต์ ทำไมจะปล่อยให้เขามากินเรา ทำไมเราไม่ไปอยู่กับเขาหรือไปเกาะเกี่ยวกับเขาไปก่อน เมื่อไปอยู่กับเขาแล้วสักระยะหนึ่ง เราจะมองเห็นได้ว่าเขามีการออกเดินทางอย่างไร เราเองก็จะสามารถปรับธุรกิจของเราได้ง่ายมากขึ้น ง่ายมากกว่าการที่ไม่ได้ไปลงทุนอะไรกับเขาเลย มัวแต่ยืนอยู่ข้างนอกรอวันตาย
 
จุดนี้ผมอยากฝากทุกท่านว่า การลงทุนหรือการเชื่อมโยงกับธุรกิจที่อาจไม่เกี่ยวข้องกับเรา แต่มันอาจเกี่ยวข้องกับเราในอนาคต ก็เป็นหนทางรอดอย่างหนึ่งที่อาจทำให้เรามีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาได้ด้วยเหมือนกัน 


ภาพจาก bit.ly/34kYq2r
 
อยากให้คุณลองดูว่า ธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบันนี้มีธุรกิจดิจิทัลอะไร หรือธุรกิจอะไรที่อยู่ในระบบนิเวศหรืออยู่ในระบบซัพพลายเชนเดียวกับเรา แล้วลองไปลงทุนดูครับ เพื่อทำให้มันครบในแง่ของแวลูเชน เพื่อที่คุณจะได้เห็นว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้างในห่วงโซ่ธุรกิจของเรา จะมีผลกระทบอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง 
 
การทำธุรกิจในวันนี้จะทำแค่จุดจุดหนึ่งมันไม่พอ การทำให้เราเห็นภาพรวมของอุตสาหกรรมเราที่ดีมากทางหนึ่งคือเข้าไปร่วมหรือมีพาร์ทเนอร์หรือไปลงทุน แต่ผมคิดว่ายิ่งเรามีส่วนร่วมกับคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมเราในหลากหลายรูปแบบมากเท่าไหร่ จะทำให้เราเห็นภาพอุตสาหกรรมหรือการขยับของอุตสาหกรรมของเราได้เร็วขึ้นกว่าคนอื่น
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
793
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
710
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
641
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
522
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
441
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
421
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด