บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ไอเดียธุรกิจแฟรนไชส์
16K
5 นาที
22 กุมภาพันธ์ 2556
แฟรนไชส์เสริมความงาม สปา สุขภาพ ธุรกิจน่าลงทุน...


 
คำกล่าวที่ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" ยังใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย ยิ่งในเวลานี้ วิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วไป มีการดำเนินกิจกรรม ติดต่อกับโลกภายนอกมากขึ้น ทั้งการติดต่อเพื่อสังคม และการติดต่อพบปะเพื่อธุรกิจ ฉะนั้น รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ รวมทั้งบุคลิกภาพที่ดูดี จะช่วยสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้น

จึงเห็นได้ว่า ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทั้งวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว หรือวัยผู้ใหญ่ ต่างก็สนใจเข้าไปใช้บริการธุรกิจเสริมความงามกันอย่างหนาตา
 
ตั้งแต่ผมจรดเท้า อาทิ การทำผม ทำเล็บ นวดหน้า นวดตัว รักษาสิว ดูแลผิวพรรณ ไปจนถึงการทำศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งกล่าวได้ว่า การเข้าร้านเสริมความงาม ถือเป็นกิจกรรมสำคัญของคนในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้ธุรกิจเสริมความงามเปิดให้บริการตามแหล่งชุมชน อาคารสำนักงาน รวมทั้งตามศูนย์การค้าต่างๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการที่มีความรู้ทางด้านการเสริมความงามเปิดดำเนินการด้วยตนเอง และที่เปิดดำเนินการโดยการซื้อแฟรนไชส์ จากผู้ที่ให้บริการทางด้านนี้ ซึ่งรูปแบบนี้ กำลังเป็นที่นิยมของผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ (start-up business)

โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี (SMEs) เนื่องจากเจ้าของแฟรนไชส์ส่วนใหญ่ จะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของสังคม อาทิ ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่อยู่ในแวดวงความสวยความงาม เป็นต้น  ส่งผลให้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ร้านค้าให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในคุณภาพการให้บริการสามารถทำได้ง่าย รวมทั้งแฟรนไชส์ยังมีบริการทางด้านการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อเพิ่มทักษะทางด้านความงามอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการออกแบบตกแต่งร้าน การจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเสริมความงาม อาทิ เครื่องสำอางต่างๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเปิดกิจการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้โดยมีข้อจำกัดที่ลดลง
 
 
 
สำหรับลักษณะของธุรกิจเสริมความงาม นั้นสามารถแยกออกได้เป็นหลายรูปแบบ ดังนี้
 
ร้านเสริมสวย ประเภทของบริการส่วนใหญ่ คือ ตัดผม ซอยผม สระ ไดร์ ดัดผม และบริการเสริมอื่นๆตั้งแต่การแต่งหน้า การดูแลผิวพรรณ การต่อผม การเปลี่ยนสีผม ทำทรีตเมนต์ อบไอน้ำ การตัดแต่งเล็บมือ เล็บเท้า การเพ้นท์เล็บ ทั้งนี้ ร้านเสริมสวย ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามแหล่งชุมชนใกล้ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และมีบางแห่งที่เข้าไปเปิดกิจการตามศูนย์การค้าต่างๆ รวมทั้งอาคารสำนักงานและคอนโดมีเนียม
 
คลินิก/สถาบันเสริมความงาม มีหลากหลายบริการ ทั้งการดูแลผิวหน้า ผิวกาย ตั้งแต่การนวดหน้า นวดตัว การขัด พอกตัว ด้วยน้ำมัน เครื่องสำอางหรือสมุนไพรไทย ยกกระชับผิวหน้า ลบริ้วรอย ขจัดสิว ฝ้า จุดด่างดำ รวมถึงการลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจอาจเป็นร้านเสริมสวยขนาดใหญ่ที่นอกจากดูแลทางด้านทรงผมแล้ว ยังให้บริการดูแลผิวหน้าและผิวกายแบบครบวงจร ในขณะที่ผู้ประกอบการบางรายเปิดให้บริการในรูปแบบสปา ซึ่งคลินิก/สถาบันเสริมความงาม จะมีการลงทุนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับร้านเสริมสวยทั่วไป
 
คลินิกศัลยกรรมเสริมความงาม ปัจจุบันธุรกิจศัลยกรรมเติบโตมาพร้อมๆ กับความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์และเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยมากขึ้น ทั้งนี้ผู้ทำศัลยกรรมนั้นต้องการลดปมด้อย ลดความผิดปกติหรือเสริมสัดส่วนร่างกายให้ดูดีขึ้น สวยงามขึ้น แล้วแต่วัตถุประสงค์เฉพาะบุคคล เช่น การเสริมจมูก เสริมคาง เสริมทรวงอก ทำตา ดูดไขมันหน้าท้อง สโพก ขา และการลบรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า รักษาและดูแลเส้นผม รักษาผมร่วง และผมบาง เป็นต้น

ซึ่งธุรกิจดังกล่าวนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นและสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ประกอบกิจการ และเงินหมุนเวียนในธุรกิจนี้ก็มากมายมหาศาล ทำให้ปัจจุบันนี้มีการเปิดคลินิกด้านศัลยกรรมเสริมความงามกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันตามสถานที่ต่างๆ
 
ธุรกิจเสริมความงาม กำลังได้รับความนิยม และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายขยายตัวออกไป จากเดิมที่เน้นลูกค้าผู้หญิง แต่ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าผู้ชายก็ให้ความสนใจกับการเสริมความงามเพื่อเพิ่มบุคลิกภาพให้ดูดี ในขณะเดียวกัน กลุ่มอายุของผู้ที่เข้ารับบริการเสริมความงามในปัจจุบัน ก็ไม่ได้จำกัดแต่เพียงกลุ่มคนวัยทำงานหรือผู้ใหญ่เท่านั้น แต่กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ต่างก็ให้ความสนใจใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก

ดังจะสังเกตได้จาก สถานเสริมความงามต่างๆจะมีกลุ่มวัยรุ่นรอคิวเพื่อใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้บริการดูแลรักษาเกี่ยวกับใบหน้า เช่น การรักษาสิว ฝ้า และการศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อพอสมควร แม้ว่าจะไม่สูงมาก แต่จากจำนวนประชากรในกลุ่มนี้ที่มาก ก็นับเป็นลูกค้าเป้าหมายที่ผู้ประกอบการความงามต้องการแย่งชิงมาเป็นลูกค้า ทำให้ธุรกิจเสริมความงามเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการเป็นกอบเป็นกำ

ดังจะเห็นได้จากข้อมูลของผู้ประกอบการในธุรกิจเสริมความงามที่พบว่า ธุรกิจคลินิกรักษาสิว เสริมความงามและศัลยกรรมตกแต่งมีมูลค่าตลาดในปี 2552 มีประมาณ 11,0001 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10.0 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งมีมูลค่าตลาด 10,000 ล้านบาท ในขณะที่ข้อมูลจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เกี่ยวกับรายได้ของธุรกิจแต่งผมและเสริมสวยในปี 2550 มีประมาณ 28,634 ล้านบาท
 
 
 
การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคของธุรกิจเสริมความงาม
 
จุดแข็ง (Strength)
  1. เป็นธุรกิจที่นักลงทุนสามารถเข้ามาดำเนินธุรกิจได้ง่าย เนื่องจากธุรกิจไม่ซับซ้อน สามารถซื้อแฟรนไชส์จากผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอยู่ก่อนแล้วได้
  2. เป็นธุรกิจที่ชำระค่าบริการเป็นเงินสด ทำให้สามารถนำเงินมาใช้หมุนเวียนในธุรกิจ เช่น การซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้และวัตถุดิบที่ใช้ในการเสริมความงามได้
  3. ประเทศไทยมีความหลากหลายทางด้านสมุนไพรไทย ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการให้บริการด้านความงามได้
จุดอ่อน (Weakness)
 
  1. เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงหากภาวะเศรษฐกิจซบเซา เนื่องจากกำลังซื้อคนลดลง จึงลดความถี่ในการเข้าร้านเสริมสวยลงหรือใช้แต่บริการหลัก เช่น สระ ซอย และลดบริการเสริมประเภทอื่นๆลง อาทิ นวดหน้า นวดตัว
  2. บุคลากรที่ให้บริการเสริมความงาม ต้องมีทักษะเฉพาะ การฝึกอบรมต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้เกิดความชำนาญ
  3. ทักษะความเชี่ยวชาญทางด้านภาษาต่างประเทศของบุคลากรที่จำกัด เป็นอุปสรรคต่อการให้บริการชาวต่างชาติ
โอกาส (Opportunities)
  1. ปัจจุบัน คนไทย ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่วัยทำงาน ต่างให้ความสำคัญกับการใช้บริการเสริมความงามกันอย่างแพร่หลาย
  2. กระแสเกาหลีฟีเวอร์ ที่ดาราเกาหลีมีหน้าตาสวยใส ไร้สิว มีใบหน้าขาวเด้ง ได้เข้ามามีบทบาทกับพฤติกรรมของคนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นทั้งเพศหญิง และชาย ส่งผลให้ธุรกิจคลินิกรักษาสิวและเสริมความงามเป็นที่ต้องการมากขึ้น
  3. ปัจจุบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เข้ามาใช้ในการรักษาเปลี่ยนไปจากเดิมมาก มีความทันสมัย สะดวกและเห็นผลการรักษาที่รวดเร็ว ส่งผลทำให้ผู้สนใจใช้บริการเกิดความมั่นใจมากขึ้น
  4. สามารถให้บริการชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยหรือท่องเที่ยวในไทย ซึ่งกลุ่มนี้มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับและมีกำลังซื้อที่สูง
  5. การเปิดเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับประเทศคู่ค้าต่างๆ ส่งผลทำให้การนำเข้าเครื่องสำอางที่ใช้ในร้านเสริมความงามจากต่างประเทศ มีต้นทุนต่ำลง
ปัญหาและอุปสรรค (Threats)
  1.  การแข่งขันสูง เนื่องจากการเข้าสู่ธุรกิจทำได้ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องลงทุนพัฒนาเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อสร้างความแตกต่าง ทำให้มีต้นทุนสูง
  2. โรงพยาบาลถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญของธุรกิจ โดยมีจุดแข็งในเรื่องของความน่าเชื่อถือของแพทย์ที่ทำการรักษา อีกทั้งยังมีต้นทุนที่ถูกกว่าโดยเปรียบเทียบ เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดไม่สูงนัก ขณะที่การรักษาส่วนใหญ่อาจจะยังคงเป็นไปตามขั้นตอนทางการแพทย์ปกติ
  3. บุคลากรทางด้านการเสริมความงามมีการเปลี่ยนงานบ่อย เนื่องจากถูกดึงตัวจากคู่แข่งหรือธุรกิจที่เปิดตัวใหม่ เนื่องจากบุคลากรที่มีทักษะฝีมือดีมีจำกัด ทำให้ต้องฝึกพนักงานหรือบุคลากรใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาและมีต้นทุนค่าใช้จ่ายมากขึ้น
  4. การควบคุมดูแลการให้บริการที่มีคุณภาพ สม่ำเสมอทำได้ยาก เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของพนักงานหรือบุคลากร
  5. การหาทำเลที่เหมาะสมในการเปิดกิจการค่อนข้างยาก เพราะคู่แข่งเปิดตัวอยู่แล้ว หรือทำเลที่ดีก็มีราคาค่าเช่าหรือราคาขายที่สูง 

 
เป็นที่น่าสังเกตว่า  ปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจเสริมความงามที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เริ่มให้ความสนใจต่อการเปิดธุรกิจในรูปของการขายแฟรนไชส์ ให้กับผู้สนใจที่มีร้านค้าหรือพื้นที่ในทำเลที่เป็นแหล่งชุมชน เพื่อประโยชน์ทางด้านการกระจายจุดบริการให้ทั่วถึง และสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน การขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ ยังช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยของธุรกิจให้ต่ำลง

อันเป็นผลจากการสั่งซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมความงามในจำนวนที่มาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้สนใจเปิดดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจเสริมความงามกันเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันในตลาด เพื่อแย่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีความรุนแรงพอสมควร ดังนั้น การจะประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ธุรกิจเสริมความงามได้นั้น จำเป็นต้องมีปัจจัยประกอบอื่นๆ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
 
การเลือกรูปแบบธุรกิจ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจเข้าสู่ธุรกิจเสริมความงาม ในเบื้องต้นนั้น จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า จะเลือกทำธุรกิจเสริมความงามประเภทใด ร้านเสริมสวย สถาบัน/คลินิกเสริมความงาม หรือคลินิกศัลยกรรม ซึ่งต้องคำนึงถึง ความชอบ ความรู้หรือประสบการณ์ที่มี เช่น มีความรู้ทางด้านเสริมสวยหรือความงาม หรือหากว่าชอบหรือสนใจทำธุรกิจแต่ไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ทางด้านความงามเลย ก็ควรมีบุคลากรที่มีความรู้ที่สามารถว่าจ้างให้มาดูแลธุรกิจได้ โดยอาจอยู่ในรูปของการร่วมทุน เป็นต้น
 
การเลือกผู้ร่วมลงทุน หากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีความรู้ ความชำนาญทางด้านการเสริมความงาม ก็สามารถเปิดดำเนินธุรกิจได้โดยสะดวก โดยมีข้อดีคือ ความมีอิสระทางด้านการบริหาร การออกแบบสถานบริการ แต่สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ไม่มีความรู้ทางด้านธุรกิจเสริมความงามแต่สนใจจะเข้าสู่ธุรกิจนี้ ก็ไม่มีข้อยุ่งยากแต่อย่างใด เนื่องจาก ปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจเสริมความงาม ต่างมีการพัฒนารูปแบบการลงทุน โดยการขายแฟรนไชส์ให้กับผู้สนใจกันอย่างแพร่หลาย

อย่างไรก็ตาม จากจำนวนผู้ให้บริการในรูปแฟรนไชส์ที่มีอยู่เป้นจำนวนมาก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จึงต้องพิจารณาและเลือกแฟรนไชส์ที่เหมาะสม โดยการศึกษาถึงบริษัทที่มีชื่อเสียง ทั้งทางด้านความน่าเชื่อถือ รวมทั้งการมีส่วนแบ่งในตลาดที่สูง เพราะจะมีประสบการณ์ทางด้านการทำธุรกิจ และมีการลองผิดลองถูกมาระยะหนึ่ง รวมทั้งมีระบบจัดการด้านการบริหารการผลิต การตลาดที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน การมีชื่อเสียงที่ดีย่อมก่อให้เกิดความนิยมชมชอบของลูกค้า ดังนั้น โอกาสที่ธุรกิจที่เข้าไปซื้อแฟรนไชส์จะประสบความสำเร็จย่อมมีเพิ่มขึ้น
 
การเลือกทำเล ปัจจุบันธุรกิจเสริมความงามเกิดขึ้นมาก ทั้งในส่วนของกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่เนื่องจากพื้นที่ในกรุงเทพฯที่ค่อนข้างเต็มแล้ว และการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง กลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดจึงเป็นโอกาสใหม่ในการสร้างการเติบโตและรายได้ ซึ่งต่างจังหวัดเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้บริการสูง แต่มีคลินิกความงามเปิดให้บริการยังไม่มาก โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆตามภูมิภาค ซึ่งเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจ อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต เป็นต้น

โดยการเปิดสถานประกอบการเสริมความงาม จะมีทั้งที่เปิดตามแหล่งชุมชน อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม หรือศูนย์การค้าต่างๆ ซึ่งหากพิจารณาจากธุรกิจที่ผ่านมา พบว่า การเลือกเปิดให้บริการตามศูนย์การค้า จะมีผู้มาใช้บริการค่อนข้างหนาตา เนื่องจากเป็นสถานที่ซึ่งมีความสะดวกทางด้านที่จอดรถ และสามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายครบวงจร ตั้งแต่การช็อบปิ้ง ดูภาพยนตร์ ออกกำลังกายฟิสเนต ทานอาหาร ก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการเสริมความงาม
 
 
 
การเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่าเป็นกลุ่มใด อาทิ กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนวัยทำงาน หรือเลือกตามฐานะและกำลังซื้อ จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการทางด้านการตกแต่งอาคาร สถานที่ การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมความงามในระดับคุณภาพและราคาที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการลงทุนทางด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยมีราคาแพงหรือถูก ซึ่งจะช่วยวางแผนและกำหนดวงเงินลงทุนที่เหมาะสมได้
 
การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การประกอบธุรกิจประเภทเสริมความงาม หากเป็นธุรกิจที่เป็นการซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในตลาดอยู่แล้ว ก็จะสามารถลดต้นทุนทางด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ลงได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ขายแฟรนไชส์ มักเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง อีกทั้งมีการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เปิดดำเนินการธุรกิจเพียงลำพัง ก็จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์โปรโมชั่น เพื่อสร้างชื่อเสียงให้คนรู้จักอย่างแพร่หลายเสียก่อน
 
กล่าวโดยสรุปแล้ว ธุรกิจเสริมความงามนับเป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจาก ปัจจุบันคนไทยมีความใส่ใจ และห่วงใยสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสวยความงามทางด้านผิวพรรณ รูปร่างหน้าตา ซึ่งผู้ที่มีผิวพรรณ รูปร่างหน้าตาแม้ว่าจะดูดีอยู่แล้ว ก็ยิ่งต้องเข้าร้านเสริมความงามเพื่อคงสภาพสิ่งที่ดีอยู่แล้วหรือทำให้ดียิ่งขึ้น ส่วนผู้ที่มีข้อด้อยทางด้านรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ ก็จะเข้าร้านเสริมความงามเพื่อลบข้อด้อยที่มี
 
ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามจำนวนประชากรและกำลังซื้อของประชาชน รวมทั้ง พฤติกรรมทางด้านการรักสุขภาพและความงามตามวัฒนธรรมและค่านิยมจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเสริมความงามจะสามารถอยู่รอดได้ ภายใต้สถานการณ์แข่งขันของธุรกิจที่รุนแรงนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จะต้องมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีความแตกต่างเหนือคู่แข่ง และสอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่า และเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น
 
โดยจะต้องตระหนักถึงคุณภาพ และความปลอดภัยในการให้บริการ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในการให้บริการ นอกจากนี้ ธุรกิจจะต้องมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้แตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการให้บริการ การโฆษณาผ่านสื่อประเภทต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น การฝึกอบรมพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูล รวมทั้งการให้บริการที่ดี เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกประทับใจในการเข้ามาใช้บริการทุกครั้ง
 
อ้างอิงจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนพฤษภาคม 2567..
24,084
“มูฟ อีวี เอกซ์” สร้างรายได้ดีแค่ไหน! ทำไมถึงน่า..
3,380
รวม 12 แฟรนไชส์โหนกระแส คนไทยไม่เคยลืม!
2,224
จริงมั้ย? กำเงิน 15 ล้านบาท ถึงจะซื้อแฟรนไชส์ DQ..
1,893
กลยุทธ์ “แดรี่ควีน” เจ้าไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเมืองไ..
1,260
จริงมั้ย? 7-Eleven เห็นทำเลไหนดี เปิดเองแข่งสาขา..
1,223
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด