รายได้เฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ช่วงนี้ลดน้อยลงมาก บางคนยังได้ทำงานแต่ก็ถูกลดเงินเดือน บางคนหนักกว่าคือถูกเลิกจ้าง รายได้กลายเป็นศูนย์ แต่รายจ่ายยังมากเหมือนเดิม www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าทุกคนต้องอยากรู้ว่าตอนนี้จะมีวิธีไหนที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้ตัวเองได้บ้าง ไม่ต้องมากแค่วันละ 300-500 บาท แค่นี้ก็พอให้ชีวิตยังเดินหน้าต่อไปได้

ซึ่งการหาเงินให้ได้300-500 บาท/วัน ถ้าเราไม่มีเงินลงทุนใดๆ ก็อาจจะยากสักหน่อย แต่ถ้าพอมีเงินทุนอยู่สักเล็กน้อยประมาณ 1,000 -3,000 ก็อาจนำมาเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างอาชีพเพื่อหารายได้ให้กับตัวเองได้ ลองไปดูว่าวิธีไหนอย่างไรบ้าง
 

 

ภาพจาก freepik.com

เราเชื่อว่าเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนต้องนึกถึง เพราะง่ายและทำได้ทันที อาจไม่ต้องใช้เงินทุนในการเริ่มต้นด้วยซ้ำ ปัจจุบันมีระบบการขายแบบ Dropship ที่ให้เรานำสินค้าจากร้านค้าหรือผู้ผลิตมาโพสต์ขาย เมื่อมีคนสนใจเราก็ไม่ต้องแพคสินค้าส่งเองแต่เป็นหน้าที่ของร้านค้านั้นๆ รายได้ของเราก็จะมาจากส่วนต่างหรือการหักเปอร์เซ็นต์จากการขาย เป็นวิธีการขายของออนไลน์ที่ง่ายและทำได้ทันที แต่เราต้องเข้าใจรูปแบบการทำงานลักษณะนี้ให้ดี และที่สำคัญเราต้องมีทักษะในการพูดคุยกับลูกค้า เพราะจุดอ่อนของวิธีนี้คือเราจะไม่เห็นสินค้าเอง แต่จะเป็นการส่งจากร้านค้าไปสู่ลูกค้าของเรา

ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดได้ แต่หลายคนที่ใช้การขายในลักษณะนี้ก็สามารถสร้างกำไรได้ดี หรือถ้ามองว่าการขายออนไลน์แบบนี้ยังมีความเสี่ยง แนะนำให้ลองหาสินค้าแล้วโพสต์ขายในช่องทางโซเชี่ยลของตัวเอง ก็อาจจะเป็นวิธีสร้างรายได้ที่ดีที่ช่วยให้มีรายได้มากขึ้น

 

2.รับจ้างทำงานแบบฟรีแลนซ์
 

ภาพจาก freepik.com

ส่วนใหญ่เป็นการรับงานและทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ มีหลายอย่างที่ทำได้หากเรามีความสามารถเช่น พิมพ์งาน วาดรูปเหมือนผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Ilustrator รับออกแบบสื่อภาพ แบนเนอร์ ทำโฆษณาต่างๆ รับแต่งภาพ รีทัชภาพต่างๆ เป็นต้น งานเหล่านี้สามารถหาเงินได้ต่ำๆวันละ 200-300 บาท เพราะการรับจ้างทำต่อ 1 งานนั้น ขึ้นอยู่กับเรทราคาที่เราตกลงกับผู้จ้าง สมมติว่ารับงานออกแบบภาพโฆษณาหัว facebook อย่างน้อย ก็ 200 -300 บาท/ภาพ แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องสามารถออกแบบพวกโปรแกรมกราฟฟิคได้ พวก โปรแกรม Photoshop และรู้ถึงขนาดที่จะเอาไปโพสต์ในโซเชี่ยลได้

 

 

ภาพจาก freepik.com

“การแพร่ระบาดของ COVID 19” ที่ทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น หลายคนต้องการหลักประกันให้สุขภาพตัวเองและครอบครัว อาชีพที่แนะนำคือ “ตัวแทนขายประกัน” ที่เราสามารถใช้เวลาว่างหรือเสาร์ อาทิตย์ในการหาลูกค้าหรือถ้าใครมีเวลามาก ก็สามารถทำได้ทุกวัน ซึ่งตัวแทนจะได้รับเงินของเปอร์เซ็นต์จากการขายเรียกว่าค่าคอมมิชชั่น แถมมีโบนัสจากการทำยอดขายได้ตามและเชื่อว่าในยุคนี้ประกันเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการมาก ก็ขึ้นอยู่กับวิธีในการพูดโน้มน้าวใจของเราด้วย

 

4.เก็บของเก่าขาย
 

ภาพจาก bit.ly/3dcqoDs

ถ้าเราไม่มีเงินทุนพอจะเริ่มต้นอะไรได้ การเก็บของเก่าขายก็น่าสนใจแต่ว่าหลายคนมองอาชีพนี้ว่าสกปรก ต้องเก็บขยะ  ต้องตากแดด ต้องเหนื่อย แต่ถ้าเราตัดสินใจและไม่เลือกงานก็แนะนำให้ทำได้ เริ่มจากเราต้องมีรถกระบะ หรือซาเล้งสักคัน เริ่มจากของเก่า หรือของที่เราไม่ใช้ภายในบ้าน จากเพื่อนบ้านแถวนั้น แล้วค่อยขยายพื้นที่ในการหาของเก่าให้กว้างขึ้นไปเรื่อยๆ ราคาของเก่ายกตัวอย่างหนังสือพิมพ์เก่ากิโลกรัมละ 10  บาท ขวดเบียร์กิโลกรัมละ 10-14 บาท กระป๋องโค้กกิโลกรัมละ 38 บาท  พลาสติก(ขวดน้ำ) กิโลกรัมละ 15 บาท เป็นต้นรายได้ต่อวันไม่น้อยกว่า 300-500 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีแต่อาจต้องเหนื่อยมากหน่อย

 

5.เปิดท้ายขายของ
 

การเปิดท้ายขายของเป็นอีกหนึ่งการสร้างรายได้ที่คนส่วนใหญ่นึกถึง ขายดีที่สุดก็คงจะเป็นของกิน อาหาร น้ำ เครื่องดื่ม หรือถ้าหาสินค้าอะไรไม่ได้จะลองเอาเสื้อผ้าเก่าๆ สภาพดี ของใช้ในบ้านที่สภาพดี ออกมาวางจำหน่ายแบบเปิดท้าย ก็เท่ากับเป็นการมีสินค้าขายแบบไม่ต้องลงทุน หรือจะติดต่อนำรองเท้ามือ 2 มาจำหน่ายก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย  บางคนที่มีทำเลดีสินค้าดี แค่ขายของเสาร์อาทิตย์ก็มีรายได้กว่า 3,000-4,000 เลยทีเดียว

 

6.พนักงานพาร์ทไทม์
 

การทำงานพาร์ทไทน์ในช่วงวันหยุดหรือเสาร์ อาทิตย์ หรือใครที่ยังว่างงานไม่มีงานทำ กำลังรอสมัครงาน ก็อาจหางานพาร์ทไทม์ทำไปพลางๆก่อนได้ อาจต้องแบ่งเวลาให้เหมาะสม โดยเวลาในการทำงานพาร์ทไทน์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ วันละ 3 – 8  ชั่วโมงส่วนค่าจ้างจะเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 40 บาทขึ้นไป เช่น ร้านอาหาร Fuji จ้างชั่วโมงละ 45 บาท หากเสาร์ – อาทิตย์ ชั่วโมงละ 60 บาท เป็นต้นนอกจากนี้ยังมีอีกหลายธุรกิจที่พร้อมจ้างพนักงานพาร์ทไทน์ เช่นบรรดาร้านกาแฟ  ร้านอาหาร ต่างๆ ซึ่งเราก็ควรเลือกงานที่เหมาะกับเรามากที่สุด

 

7.สอนพิเศษ
 

ภาพจาก freepik.com

ใครที่มีทักษะในการสอน มีความรู้ในวิชาเฉพาะสามารถรับสอนพิเศษในวันหยุดได้ เช่นสอนภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ หรือว่าคอมพิวเตอร์ อัตราค่าจ้างส่วนใหญ่คิดเป็นรายชั่วโมงขั้นต่ำ 250-300 บาท หากเป็นติวเตอร์ที่มีลูกศิษย์หลายคน 1 วันสอน 2 คน รายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท และหากมีคนเรียนมากขึ้นรายได้ของเราก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย

 

 

ภาพจาก freepik.com

อาจเริ่มต้นจากรับออร์เดอร์เพื่อนๆในที่ทำงาน เพื่อนำไปขายในวันทำงาน โดยอาจทำเป็นหน้าเมนูมาให้ลูกค้าเลือกได้ง่ายๆ ที่เหลือก็แค่ลงมือทำอาหาร รสชาติและปริมาณคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการทั้งนี้การตั้งราคาก็ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหาร ถ้าดัดแปลงให้สวยงามก็อาจจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ และในอนาคตถ้ามีทุนสะสมมากพออาจเปิดเป็นร้านเล็กๆที่เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจแบบจริงจังได้

 

 

ภาพจาก bit.ly/2TYPdvG

ใครที่ไม่รู้ว่าจะหาอาชีพเสริมอะไร แนะนำว่าการขายหมูปิ้งนั้นง่ายเพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนมาก หรือถ้ามีทำเลหน้าบ้านก็ยิ่งดี ลงทุนซื้อหมูมาหมัก และซื้ออุปกรณ์เบื้องต้น รวมถึงวัตถุดิบเช่นข้าวเหนียว  กำไรจากการขายในแต่ละวันประมาณ 200-300 บาท หรือถ้ามีไอเดียการค้ามากสักหน่อยก็อาจขายได้มากขึ้นด้วย

 

 

ภาพจาก freepik.com

การรับจ้างซักอบรีดเป็นอาชีพที่ทำได้ไม่ยากแต่ควรมีคุณภาพโดยเฉลี่ยแล้วราคาในการซักอบรีดนั้นเฉลี่ยต่อตัวประมาณ 4-5 บาท หากเป็นผ้าที่พิเศษราคาก็ยิ่งแพงกว่าถ้ามีผ้าส่งให้เราซักอบรีดสัก 10 ตัว เราก็มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 40-50 บาท และถ้าเป็นในหมู่บ้าน หรือมีคอนโด อพาร์ทเม้นใกล้ ๆเราก็อาจจะหาลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วย

 

วิธีการหารายได้วันละ 300-500 ที่จริงยังมีอีกมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วยว่าจะเลือกวิธีแบบไหนอย่างไร บางวิธีอาจเป็นเรื่องที่เราทำอยู่ทุกวันแต่เราไม่คิดว่าจะสร้างรายได้ บางอย่างอาจเปลี่ยนความสามารถของเราให้เป็นรายได้ บางคนไอเดียดี ก็อาจพลิกแพลงวิธีสร้างรายได้ชนิดที่คาดไม่ถึง แต่ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ควรเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไปและเราอาจค้นพบวิธีหารายได้ที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างแท้จริง

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

  

 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

 

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)