ยุคนี้จะหาซื้อรถยนต์สักคันอาจแพงเกินไปสำหรับคนที่มีรายได้น้อย การมีมอเตอร์ไซค์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่พอซื้อมาแล้วจะใช้แค่วิ่งไปมาอย่างเดียวก็ดูจะไม่คุ้มค่า ยิ่งเป็นช่วงที่เงินหายาก

แบบนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าน่าจะดีกว่าถ้าสามารถมีวิธีเปลี่ยนเอามอเตอร์ไซค์ที่เรามีไปสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าด้วยข้อจำกัดของมอเตอร์ไซค์อาจไม่สามารถใช้งานได้เหมือนรถยนต์ รถกระบะ แต่ถ้ารู้จักวิธีการดีๆ มอเตอร์ไซค์คันเดียวก็หารายได้ให้กับเราได้เช่นกัน

 

1.ขับวิน
 

ภาพจาก https://bit.ly/2UWjqw5

น่าจะเป็นวิธีหาเงินจากมอเตอร์ไซค์ลำดับแรกๆ ที่คนนึกถึง แต่ใช่ว่าใครนึกจะขับวินก็ทำได้เลย ปัจจุบันมีกฎหมายชัดเจนต้องมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ต้องมีฟอร์มคือเสื้อวิน บางครั้งก็มีคนหัวหมอซื้อเสื้อวินมาเพื่อปล่อยเช่าให้คนอื่น ต้นทุนของวินมอเตอร์ไซค์คือค่าเสื้อวิน ค่าน้ำมันในแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่จะมีกำไรเฉลี่ยต่อวันคนละไม่ต่ำกว่า 500-600 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญด้วย แต่การจะเป็นวินรับจ้างได้ต้องมีความอดทน และมีบริการที่ดี ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองและผู้โดยสารเป็นสำคัญด้วย 

 

2.เข้าร่วม App Delivery
 

ภาพจาก bit.ly/3h3469h

นอกจากการสมัครรับส่งอาหารตามร้านอาหารต่าง ๆ โดยตรง ตั้งแต่ร้านของพ่อค้าแม่ค้าแถวบ้าน หรือแม้แต่ร้านของตัวเองหรือญาติพี่น้อง ไปจนถึงร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังแล้ว เรายังสามารถสมัครเป็นไรเดอร์รับงานส่งอาหารกับผู้ให้บริการส่งอาหาร ผ่านแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้เช่น Panda , Grab , Line Man ฯลฯ สำหรับรายได้นั้น ถือว่าดี โดยอาจมีรายได้มากกว่าวันละ 1,000 บาท  หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นกับความขยัน และเวลาในการทำงานของเราด้วย แต่ก่อนอื่นเราต้องมีทักษะในการขับรถที่ดี และต้องรู้จักกดรับงานจากลูกค้าได้อย่างถูกต้องด้วย

 

3. Grab bike
 

ภาพจาก bit.ly/3qy0hfu

การเป็น Grab bike คือการรับจ้างแบบไม่ประจำทาง โดยสมัครเข้าร่วมแอพ ซึ่งในช่วงแรกเป็นที่นิยมกันมาก แต่ก็มีปัญหาเรื่องกฏหมายและอีกหลายอย่างตามที่เคยได้ยินข่าว การเป็น Grab bike เราสามารถสมัครผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งก็ควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานให้ดี โดยรายได้ของการขับ Grab bike ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างเราและเจ้าของแอพในการคิดอัตราค่าจ้าง และเงื่อนไขต่างๆ 

 

4.พนักงานส่งเอกสาร
 

ภาพจาก bit.ly/3hc7qxM

นอกจากการสมัครตามบริษัทแล้วเดี๋ยวนี้มีแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการเป็นแมสเซนเจอร์ที่ให้เราเข้าร่วมเพื่อสร้างรายได้แบบไม่ต้องทำเป็นงานประจำ ซึ่งรายได้ของการเป็นแมสเซนเจอร์นี้ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทที่จ้าง ขั้นต่ำก็ประมาณ 12,000 บาท หรือบางบริษัทอาจจะมีค่าน้ำมัน และสวัสดิการด้านอื่นๆ ให้ด้วย สำหรับการรับงานส่งเอกสารตามแอพพลิเคชั่นก็อาจจะมีรายได้เป็นแต่ละงานไป สำหรับใครที่มีมอเตอร์ไซค์และรู้จักเส้นทางในกรุงเทพดีอาชีพนี้ก็น่าสนใจเช่นกัน

 

5.ซ่อมมอเตอร์ไซค์
 

ภาพจาก  bit.ly/3w8mEt7

การเป็นช่างซ่อมก็จำเป็นต้องมีความรู้ในงานที่ทำ รู้จักแหล่งอุปกรณ์สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ หากเป็นการเปิดอู่ใหม่ๆ จำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าก่อน ในช่วงแรกอาจจะไม่มีงานใหญ่เข้ามา อาจได้แค่ ปะยาง เปลี่ยนยาง แต่เมื่อคนรู้จักมากขึ้นอาจได้งานซ่อมที่ใหญ่ขึ้น และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรมีบริการรับซ่อมแบบเดลิเวอรี่เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ใช้บริการด้วย สำหรับราคาในการซ่อมนั้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานปะยางเปลี่ยนยางราคาก็เริ่มต้นที่ 80-100 บาท งานยากขึ้นค่าจ้างก็ต้องมากขึ้น ถ้าบริหารจัดการดีๆ แต่ละเดือนจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000-20,000 ได้เช่นกัน

 

6.ขายของแบบรถพ่วงข้าง
 

ภาพจาก  bit.ly/3Abxcei

ราคาการต่อรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ เป้าหมายของการต่อรถพ่วงข้าง แม้จะลงทุนเพิ่มขึ้นแต่ก็ทำให้เราค้าขายได้ง่ายขึ้นด้วย เช่นการขายของมือสองตลาดนัด  การขายสินค้าการเกษตร หรือการขายอาหารง่ายๆประเภทปิ้งย่าง ถ้ามีรถพ่วงข้างสักคันนอกจากตลาดนัดแล้วเรายังวิ่งขายตามตรอกซอกซอย รวมถึงถ้าเป็นคนหนักเอาเบาสู้ รถพ่วงข้างยังใช้เก็บของเก่าเอามาขายสร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย

 

7.มอเตอร์ไซค์ให้เช่า
 

ภาพจาก bit.ly/3xa2DDG

หากสถานที่ที่เราอยู่ อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ลองหามอเตอร์ไซค์สัก 2-3 คันเพื่อมาปล่อยให้เช่า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าหลัก ถือเป็นการสร้างรายได้แบบไม่ยาก และการปล่อยเช่าอาจไม่ได้จำกัดแค่นักท่องเที่ยวแต่อาจจะทำคล้ายแท็กซี่ทั้งหลายให้วินมอเตอร์ไซค์ได้เช่าขับด้วยก็ได้ แต่ธุรกิจการปล่อยเช่านี้ เราก็ต้องศึกษารายละเอียดของการลงทุนให้ดี และต้องทำงานอย่างมีระบบ มีเอกสารชัดเจนในการปล่อยเช่า ระบุรายละเอียดในการเช่า ค่าเช่าที่ชัดเจน รวมถึงต้องมีพาร์ทเนอร์ที่ดีในกรณีที่มอเตอร์ไซค์อาจเกิดอุบัติเหตุ เราต้องรู้จักการเคลมประกันหรือมีทีมที่ปรึกษาที่ช่วยในเรื่องข้อกฏหมายเหล่านี้ได้ 

 

8.เปิดร้านขายมอเตอร์ไซค์
 

ภาพจาก bit.ly/3hnd2oU

มีทั้งในลักษณะของตัวแทนจำหน่าย หรือทางเลือกที่สองคือการขายรถมอเตอร์ไซค์มือสอง ซึ่งการเปิดร้านขายมอเตอร์ไซค์เราต้องมีความรู้ในหลายๆ ด้าน และต้องมีการเตรียมเอกสารหลักฐานในการขออนุญาตดำเนินกิจการ รวมถึงต้องมีความรู้ในเรื่องการกู้ยืม  ข้อกฎหมายด้านการจดทะเบียน ประกันภัย ที่สำคัญเราต้องมีเงินทุนเบื้องต้นพอสมควรกับการเปิดร้านขายมอเตอร์ไซค์ และควรจะดูทำเลในการเปิดให้ดี ว่าพื้นที่นั้นเหมาะสมและคนมีกำลังซื้อมากน้อยแค่ไหน แม้จักรยานยนต์จะเป็นสิ่งที่คนต้องการแต่ในยุคที่รายได้ไม่ดี การซื้อรถแม้แต่มอเตอร์ไซค์ก็อาจต้องคิดหน้าคิดหลังมากขึ้น

 

9.รับจ้างทั่วไป
 

ภาพจาก bit.ly/3x5vhG4

พูดง่ายๆ คือจ้างทำอะไรก็ไป บางคนมีมอเตอร์ไซค์ อยู่บ้านแต่พื้นที่แถวนั้นไม่มีวินมอเตอร์ไซค์เลย คนแถวบ้านเวลาอยากออกไปไหนก็จะมาจ้างให้เราพาไป อันนี้ดูจะเหมาะสมกับพื้นที่ในต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพ และนอกจากรับส่งคนตามที่ต้องการ เรายังอาจรับจ้างไปซื้อของ รับจ้างไปส่งของ รายได้ของการรับจ้างอาจจะไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับว่าจะมีคนจ้างมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ถือว่าเป็นรายได้เสริมที่ดีในระดับหนึ่ง

 

 

ภาพจาก bit.ly/2Tc6wcR

ไม่ถึงกับเรียกว่าเป็นการสร้างรายได้แต่การมีมอเตอร์ไซค์ก็ช่วยให้เราเปลี่ยนเป็นเงินได้ บางคนที่กำลังเดือดร้อนเงินจะขายก็ไม่ดีเพราะยังต้องเก็บไว้ใช้งานส่วนตัว และบางคนก็อาจจะไม่สะดวกทำอาชีพเสริม แบบนี้ก็ต้องพึ่งสินเชื่อเงินสด รถแลกเงินซึ่งในปัจจุบัน สินเชื่อรถแลกเงินนั้น บางรายบางเจ้าก็เปิดรับมอเตอร์ไซค์กันแล้ว ไม่จำเป็นต้องเฉพาะรถยนต์เท่านั้น

หากเข้ากับสินเชื่อรถแลกเงิน เรายังมีรถใช้งานอยู่เช่นเดิม แต่ก็ควรระวังเรื่อง “ดอกเบี้ย” เพราะรถแลกเงินจะถูกนับว่าเป็นสินเชื่อ เป็นการกู้เงินกันตามกฏหมาย เพียงแต่เราไม่จำเป็นต้องมีคนค้ำประกัน แค่นำรถไปค้ำแทนนั่นเอง ดังนั้น หากต้องใช้สินเชื่อ รถแลกเงินจริงๆ ต้องมั่นใจในระเบียบวินัยในการจ่ายเงินคืนด้วย 

 

การมองหารายได้เสริมคือสิ่งที่ทุกคนในยุคนี้ต้องการ ซึ่งการมีรายได้เพียงแค่ทางเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่การจะเปลี่ยนสิ่งรอบตัวให้เป็นรายได้ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและความสามารถของตัวเองเป็นสำคัญ เมื่อทำแล้วต้องให้มั่นใจว่าจะสร้างรายได้เสริมไม่ใช่สร้างปัญหาให้ตัวเองมีภาระมากขึ้น ซึ่งหากเป็นอย่างหลังแทนที่จะมีรายได้ชักหน้าถึงหลังอาจกลายเป็นปัญหาที่มากขึ้น ซึ่งควรมีการวางแผนให้ดีการก่อนลงทุนใดๆ ทุกครั้ง

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/

 

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ไอเดียธุรกิจ รวมวิธีมีเงินใช้ด้วย “รถกระบะ 1 คัน” ราคารถกระบะในปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 700,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่น ยี่ห้อ การผ่อนชำระค่างวดขึ้นอยู่กับการวางเงินดาวน์ แต่ส่วนใหญ่จะเลือกผ่อนที่ 60 เดือนขึ้นไป อัตราเฉลี่ยในการผ่อนต่อเดือนประมาณ 7,000 – 9,000 บาท แต่ก็ต้องยอมรับว่ารถกระสามารถใช้ต่อยอดสร้างอาชีพได้หลากหลาย และเป็นรถเอนกปร.. 37months ago   2,928  6 นาที

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ไอเดียธุรกิจ รวมวิธีมีเงินใช้ด้วย “รถยนต์ 1 คัน” ในที่นี้เราจะเน้นไปที่รถเก๋งเป็นหลัก จุดเด่นของรถเก๋งหรือรถยนต์ขนาดเล็กคือ ความคล่องตัวในการใช้งาน แม้จะไม่เอนกประสงค์เท่ากับรถกระบะ แต่ก็เป็นรถส่วนบุคคลที่มียอดขายสูงเมื่อรวมทุกยี่ห้อ ราคารถเก๋งปัจจุบันค่อนข้างหลากหลาย.. 36months ago   3,369  7 นาที

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ไอเดียธุรกิจ รวมวิธีมีเงินใช้ด้วย “รถตู้ 1 คัน” ในบรรดายานพาหนะทั้งหลาย รถตู้ถือว่าเป็นรถในฝันของใครหลายคน จุดเด่นของรถตู้คือสะดวกสบาย เหมาะกับใช้เดินทางไกล แต่ความสะดวกสบายนี้ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง  และที่เห็นคนออกรถตู้ส่วนใหญ่มักมีแผนที่จะนำมาสร้างรายได้ในแบบต่างๆ.. 27months ago   1,989  5 นาที

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ รวมวิธีมีเงินใช้ด้วย “รถจักรยาน 1 คัน” การใช้จักรยานในการสร้างรายได้ หลายคนมองว่าแทบจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้ แต่เราเชื่อว่ามันเป็นไปได้ แต่ด้วยศักยภาพของจักรยานเองก็ต้องยอมรับว่าอาจไม่สร้างรายได้มากพอเหมือนกับยานพาหนะอื่นๆ อีกทั้งอาจต้องอาศัยความอดทน มุ่งมั่น ที่มากกว่าเดิมเป็น 2 เท่าเพื่อให้จักรยานสามารถสร้างรายได้อย่างที่ตั้งใจ&.. 25months ago   1,272  6 นาที

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ รวมวิธีมีเงินใช้ด้วย “รถซาเล้ง 1 คัน” รถซาเล้งนั้นมาจากภาษาจีนที่เรียกรถสามล้อว่า ซาลิ่ง (ซาแปลว่าสาม) เข้าใจว่าคงเป็นการเรียกเพี้ยนไปมาจนกลายเป็นคำว่า ซาเล้ง แต่เดิมคือรถจักรยานที่ใช้คนถีบและมีการต่อเติมโดยการพ่วงไว้ด้านหน้าหรือด้านข้าง .. 21months ago   2,121  5 นาที

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)