กลายเป็นสมุนไพรแห่งความหวังอีกชนิดเพราะหลังจากผลวิจัยจากสหรัฐอเมริกา พบว่า สมุนไพรที่ชื่อว่า "โกฐจุฬาลัมพา" ที่หมอพื้นบ้านไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชีย รู้จักดี สามารถต้านเชื้อ COVID 19 ได้ ทั้งนี้ นักวิจัยเชื่อว่าสารที่มีบทบาทสำคัญในการยับยั้งไวรัสดังกล่าวก็คือ artemisinin และยังมีองค์ประกอบของสารอื่นๆ ร่วมด้วย

อย่างไรก็ดี www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าแม้จะเป็นข่าวดีแต่สมุนไพรชนิดนี้ก็ยังอยู่ในช่วงต้นของการทดลอง จึงไม่ควรรีบร้อนหามารับประทานด้วยตัวเองเพราะยังมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับ โกฐจุฬาลัมพา ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้
 

 

ภาพจาก https://bit.ly/3xoKbXa

โดยมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) และ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) พบว่า โกฐจุฬาลัมพา สมุนไพรที่หมอพื้นบ้านไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียรู้จักดี สามารถต้านเชื้อโควิดได้ในห้องปฏิบัติการโดยสารสกัดรวมในน้ำร้อน และใบแห้งของโกฐจุฬาลัมพา โดยต้นตัวอย่างที่ใช้มีอายุมากกว่า 10 ปี พบว่ามีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งเชื้อ COVID 19 ได้ทั้งสายพันธุ์เบตา และอัลฟา

 

2.สารสำคัญที่พบในโกฐจุฬาลัมพา
 

ภาพจาก gobotany.nativeplanttrust.org

มีข้อมูลจากการศึกษาวิจัยพบว่า โกฐจุฬาลัมพามีสาร "ชิงฮาวซู" แสดงฤทธิ์ต้านเชื้อไข้จับสั่นและ ถูกนำมาใช้เป็นยาแก้ไข้จับสั่นในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยนอกจากนี้ยังมีมีสารอนุพันธ์ "เซสควิเทอร์พีนแลกโทน" (sesquiterpene lactones) หลายชนิด แต่ที่สำคัญคือ ซิงฮาวชู (qinghaosu) หรือ อาร์เทแอนนูอิน (arteannuin) หรือ อาร์เทมิซินิน (artemisinin) และพบสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoids) อีกหลายชนิด เช่น คาสทิซิน (casticin), เซอร์ซิลินีออล (cirsilineol),  คริโซพลีนอล-ดี (chrysoplenol-D), คริโซพลีเนทิน (chrysoplenetin) อีกด้วย

 

โกฐจุฬาลัมพาเป็นไม้ล้มลุก มีอายุปีเดียว แตกกิ่งมาก ชอบแดดตลอดวัน ทั้งต้นมีกลิ่นแรง มีขนขึ้นประปราย หลุดร่วงได้ง่าย ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ช่อดอกเป็นแบบช่อแยกแขนง ช่อย่อยแบบช่อกระจุกแน่น มีสีเหลืองถึงสีเหลืองเข้ม ผลเป็นผลแบบผลแห้ง เมล็ดล่อนรูปไข่แกมรี มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ในประเทศจีนนั้นมักขึ้นทั่วไปตามเนินเขา ตามข้างทาง ตามที่รกร้าง หรือตามชายป่าที่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 200-3,650 เมตร ต่อมามีผู้นำมาทดลองปลูกในประเทศไทยและพบว่าขึ้นได้ดี ออกดอกและเป็นผลได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน โกฐจุฬาลัมพาที่มีขายในท้องตลาด มักได้มาจากการปลูกในมณฑลเหอเป่ย์ ชานตง เจียงซู หูเป่ย์ และฝูเจี้ยน ของประเทศจีน

 

 

ภาพจาก hhttps://bit.ly/2VuNjUi

โกฐจุฬาลัมพามีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน และแก้ลมจุกแน่นในท้อง ตามประกาศของคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) มีปรากฏการใช้สมุนไพรโกฐจุฬาลัมพาในหลายตำรับ ได้แก่ ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต(ยาแก้ลม) ที่มีส่วนประกอบของโกฐจุฬาลัมพาปรากฏใน 2 ตำรับคือ ตำรับยาหอมเทพจิตร และตำรับยาหอมนวโกศ ในส่วนของยาแก้ไขก็มีปรากฏการใช้ส่วนผสมของโกฐจุฬาลัมพาร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ปรากฏใน 2 ตำรับคือ ตำรับยาจันทน์ลีลา และตำรับยาแก้ไข้ห้าราก

 

ส่วนที่ใช้ทำยาของโกฐจุฬาลัมพา คือ ลำต้นแห้ง ในตำราสรรพคุณยาไทยโบราณระบุว่า โกฐจุฬาลัมพามีสรรพคุณแก้ "ไข้เจลียง" (เป็นไข้จับสั่นประเภทหนึ่ง) แก้ไข้ ลดเสมหะ แก้หืด แก้ไอ ใช้เป็นยาขับเหงื่อ โดยโกฐจุฬาลัมพาจัดเป็นโกฐชนิดหนึ่งในพิกัดโกฐทั้ง 5 (เบญจโกฐ) โกฐทั้ง 7 (สัตตโกฐ) และโกฐทั้ง 9 (เนาวโกฐ) ส่วนในตำรายาแผนจีนโบราณ ได้ระบุข้อบ่งใช้ไว้ว่า ใช้แก้ไข้อันเกิดจากความร้อนในฤดูร้อน แก้ไข้ต่ำๆ ที่ไม่มีเหงื่อ แก้ไข้อันเนื่องจากวัณโรค และไข้จับสั่น

 

6.โกฐจุฬาลัมพาเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 

ภาพจาก https://bit.ly/2VpGd3E

โดยคนจีนมักปลูกสมุนไพรชนิดนี้ไว้หน้าบ้านเป็นสิริมงคล เป็นพืชมงคลสำคัญที่สุดสำหรับพี่น้องชาวจีน เปรียบได้เสมือนกับส้มป่อยที่เป็นพืชมงคลของคนล้านนา จะพบว่าชาวจีนที่อยู่ในแถบจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอพยพมาจากประเทศจีน มาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบริเวณนั้นจะมีโกฐจุฬาลัมพาปลูกอยู่แทบทุกบ้าน เพราะเป็นไม้ที่ขาดไม่ได้ในพิธีต่างๆ โดยใช้ทั้งต้น กิ่ง ใบ ราก ในการนำไปใช้เพื่อความเป็นสิริมงคลต่างๆ

 

7.ประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยจากโกฐจุฬาลัมพา
 

น้ำมันหอมระเหยของโกฐจุฬาลัมพาที่สกัดด้วยเฮกเซนจากใบ มีฤทธิ์ในการไล่ยุง และยับยั้งการวางไข่ของยุง อีกทั้งยังลดอัตราการฟักไข่ของยุง และถูกใช้เป็นยาต้านมาลาเรีย สำหรับสัตว์เลี้ยงสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย ซึ่งมีโอกาสป่วยไข้ได้ บางตัวอาจปวดเมื่อยตามร่างกาย จะลุกเดินไม่ไหว ให้เอาต้นโกฐจุฬาลัมพาทั้งต้นไปสุมไฟจนอุ่นๆ แล้วนำมาโปะลงหลังหรือเอว สักพักอาการจะดีขึ้น ถ้าเป็นไข้เล็กน้อยหรือปวดเมื่อย ใช้เป็นผักสดต้มกินก็ได้

 

8.ประธานาธิบดีแห่งมาดากัสการ์สนับสนุนการใช้โกฐจุฬาลัมพา
 

ก่อนหน้าที่จะมีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกา นายแอนดรี ราโจเอลินา ประธานาธิบดี แห่งมาดาร์กัสกาได้ประกาศให้ประชาชนใช้โกฐจุฬาลัมพา แต่กลับถูกวิจารณ์โดยองค์การอนามัยโลกโดยอ้างว่าเป็นการรณรงค์ยังไม่ได้มีงานวิจัยใด ๆ รองรับ แต่นายแอนดรี ก็ยังเดินหน้าเผยแพร่การใช้ยาสมุนไพรดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง

 

ภาพจาก https://bit.ly/2VpGd3E

ต้นโกฐจุฬาลัมพามีทั้งพันธุ์ดอกสีขาวและดอกสีแดง มีสรรพคุณทางยาเหมือนกัน สามารถนำมาใช้แทนกันได้ นอกจากนี้ ยังมีพันธุ์ดอกสีเหลืองชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia princeps Pamp ด้วย แต่พันธุ์นี้จะมีพิษ ถ้าใช้เกินขนาดก็อาจทำให้เสียชีวิตได้

 

10.ห้ามกินเดี่ยวต้องเข้าเครื่องยากับสมุนไพรอื่น
 

เภสัชกรแพทย์แผนไทยได้กล่าวเตือนถึงกระแสการใช้โกฐจุฬาลัมพาที่เป็นการวิจัยล่าสุดของนักวิจัยจากต่างชาติว่าแท้จริงแล้วแม้การทดลองในห้องปฏิบัติการจะพบโกฐจุฬาลัมพาจะมีคุณสมบัติในการต้านCOVID ได้ แต่ก็ไม่ควรทานเป็นสมุนไพรเดี่ยว เพราะมีผลข้างเคียงต่อการทำงานต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย เพราะตามตำราแพทย์แผนไทย โกฐจุฬาลัมพาต้องนำไปเข้าตำรับยา เข้าพิกัดยา ผสมกับสมุนไพรตัวอื่นด้วย แต่ที่น่าตกใจคือราคาของโกฐจุฬาลัมพาในตอนนี้พุ่งสูงกว่าเดิมจากหลักร้อยกลายเป็นหลักพัน ซึ่งหากจะใช้สมุนไพรตัวนี้ควรให้มีผลวิจัยที่ชัดเจนและมีการแปรรูปมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่การนำมารับประทานเองแบบเดี่ยวๆ
 

ไม่ว่าจะยาแผนปัจจุบัน ยาแผนไทย หรือสมุนไพรตัวใดๆ ในยามนี้ถ้ามีความเป็นไปได้ที่จะหยุดยั้ง หรือป้องกันCOVID 19 ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนทั้งโลกมีความหวังมากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วเราทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองเป็นสำคัญ เพราะยาสมุนไพรหรือยาใดๆ ในช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นแค่งานวิจัย งานทดลอง ยังไม่สามารถใช้งานได้จริง เรื่องที่ควรทำมากที่สุดตอนนี้คือพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเป็นการป้องกันCOVID ที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ในขณะนี้
 

สามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/

 

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/2WDqRc7 , https://bit.ly/3ifYOYK , https://bit.ly/3s2i5Al , https://bit.ly/3ijHSAq , https://bit.ly/3jdEir6 , https://bit.ly/2WPABAj , https://bit.ly/2WFLODg 

 

  

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)