บทความทั้งหมด    บทความสร้างอาชีพ    เมนูอาหารหวาน    ขนมไทย
4.0K
3 นาที
15 กันยายน 2564
รวม 10 ขนมชื่อแปลก! น่ากิน น่าทำขาย สร้างอาชีพได้
 

ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบและอาหารที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมนูท้องถิ่นของแต่ละจังหวัด ล้วนมีเสน่ห์ในตัวเองอย่างมาก แม้แต่การทำขนมก็ยังมีชื่อแปลกๆ และ www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่ามีขนมหลายอย่างที่คนไทยอาจจะเคยกิน แต่ไม่เคยรู้จักชื่อ หรือบางทีก็ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งขนมเหล่านี้ถ้าเราเอามาต่อยอดทำขายเชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้กับเราได้เป็นอย่างดี
 
1.ขนมปังแลบลิ้น 
 
ภาพจาก facebook.com/krutoybakeryfactory/

เป็นเกเกอรี่สมัยใหม่ เจ้าของสูตรคือครูต้อยเบเกอรี่ที่ได้จดทะเบียนเมนูนี้ไว้เป็นที่เรียบร้อย ที่มาของชื่อปังแลบลิ้น ถูกตั้งชื่อจากกลุ่มลูกค้าของครูต้อยที่ชื่มชมในรสชาติ บอกกันปากต่อปาก เป็นสูตรขนมลับเฉพาะของครูต้อยเบเกอรี่ที่ใครๆก็ไม่อาจลอกเลียนแบบได้ รูปร่างของ ขนมปังแลบลิ้น คือเบเกอรี่ก้อนพอดีคำ หนาหนุ่ม มีหลากหลายไส้ให้เลือกรับประทาน โดยจุดเด่นคือไส้จะล้นออกมาลักษณะเหมือนคนแลบลิ้น และกลายเป็นจุดเด่นและเครื่องหมายการค้าที่ทำให้ขนมปังแลบลิ้นขายดีมากๆ 
 
2.ขนมกล่องไม้ขีด
 
ภาพจาก https://bit.ly/2XvugKO

ขนมกล่องไม้ขีดจะคล้ายกับขนมไข่ มีลักษณะคล้ายและเท่ากล่องไม้ขีด ทำจากแป้งสาลีผสมกับไข่แดงและนม ตีแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน และไส้ของขนมกล่องไม้ขีดมีหลากหลายเช่น ไส้ถั่วแดง เผือก ปูดอัด ไส้กรอก และไส้ข้าวโพด มีขั้นตอนอบจากเตาอบที่เป็นแม่พิมพ์ โดยหยอดแป้งที่เตรียมไว้ให้ครบทุกช่องและนำไส้แต่ละชนิดใส่ตามลงไป และเทแป้งปิดทับจนเต็มแบบพิมพ์ปิดฝาอบใช้เวลาอบประมาณ 8 นาที จะได้ขนมกล่องไม้ขีดออกมาร้อนๆหอม อร่อย หวานมันกำลังพอดี เหมาะสำหรับไว้เป็นขนมรับประทานเล่น หรือจะรับประทานกับกาแฟก็ได้
 
3.ขนมบ้า
 
ภาพจาก https://bit.ly/3hzKwBs

เป็นขนมประจำประเพณีสารทเดือนสิบ ซึ่งนอกจากขนมบ้าก็ยังมีอื่นอีกเช่น ขนมพอง , ขนมลา , ขนมดีซำ , ขนมกง เป็นต้น โดยขนมบ้า เป็นสัญลักษณ์แทนลูกสะบ้า สำหรับใช้เป็นของเล่นต้อนรับสงกรานต์ เพราะขนมบ้ามีรูปทรงคล้ายลูกสะบ้า การละเล่นที่นิยมมากในสมัยก่อน วิธีทำขนมบ้าก็ไม่ยาก เริ่มจากการนึ่งมันเทศให้สุก แล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำมันเทศมานวดกับแป้ง ใส่น้ำตาล เกลือ ไข่ไก่ ลงในแป้ง แล้วนวดให้เข้ากันดี นำแป้งที่ได้มาปั้นเป็นก้อนกลมแล้วกดให้ตรงกลางแบนๆ เอาไปคลุกกับงาขาว ต่อจากนั้นนำไปทอดในน้ำมัน ก็สามารถรับประทานได้
 
4.ข้าวแดกงา
 
ภาพจาก www.facebook.com/kanomthai2sapai

ข้าวแดกงา เป็นชื่อขนมที่เรียกตามภาษาท้องถิ่นของจังหวัดน่าน บางจังหวัดก็เรียกว่าข้าวหนุกงา (หนุกแปลว่าคลุกหรือนวด”  เกิดจากการนำข้าวเหนียวที่สุกแล้วมาตำกับงาดำคั่วจนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย บางทีก็นำไปปิ้ง ไปทอด เพื่อให้เก็บรักษาได้นานขึ้น คนสมัยก่อนมักจะพกติดตัวเวลาออกไปทำงานเพราะกินง่ายและอยู่ท้อง ซึ่ง ข้าวแดกงา สามารถนำไปกินกับอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นนมข้นหวาน หรือ น้ำผึ้ง นอกจากรสชาติอร่อยยังมีประโยชน์จากงาดำด้วย
 
5.ขนมยี่ป้า
 
ภาพจาก https://bit.ly/3k9Km5x

เป็นขนมที่หากินได้ในจังหวัดภูเก็ต พังงา แต่เดิมเรียกว่า “ขนมหมั่วจี๋” เป็นขนมของชาวฮกเกี้ยน นำมาต่อยอดและพัฒนาจนกลายเป็นขนมขึ้นชื่อในจังหวัดแถบอันดามัน  ลักษณะเป็นขนมที่แป้งบางเหนียวนุ่มเหมือนโมจิ มีไส้มะพร้าวผสมกับงาขาว งาดำ ถั่วลิสงและน้ำตาล ซึ่งมีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากสามารถฝึกทำได้กัน แต่รรับรองเรื่องรสชาติว่าอร่อยถูกใจ ใครที่เปิดร้านเบเกอรี่จะลองฝึกทำเมนูนี้ดูบ้างก็ได้
 
6.ขนมขี้หมา
 
ภาพจาก  https://bit.ly/3k9bd1s

แม้ว่าชื่อจะฟังดูไม่น่ากินสักเท่าไหร่แต่ขนมขี้หมาก็ถือเป็นขนมท้องถิ่นของภาคใต้ บางท้องที่เรียกว่า “ขนมดู” มีให้ชิมได้ในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ฯลฯ เป็นขนมที่ทำในงานบวชงานบุญหรือหาได้ในตลาดท้องถิ่น ส่วนผสมของขนมนั้นมีไม่กี่อย่าง คือข้าวสารเหนียวผสมข้าวสารไรซ์เบอร์รี่นำมาคั่วในกระทะจนหอมแล้วนำไปบดในโม่หินจนละเอียดป่นเป็นแป้ง แบ่งแป้งที่บดนั้นมาผสมน้ำตาลกับมะพร้าวที่ผัดกับน้ำตาลจนเหนียวปั้นเป็นก้อน แล้วคลุกกับผงแป้งที่บดไว้จนทั่ว ก็ได้ขนมขี้หมาไว้กินเล่น
 
7.ขนมหญ้าตดหมา
 
ภาพจาก https://bit.ly/2Z08Zth

อาจจะเป็นขนมที่ชื่อฟังดูแล้วไม่อยากจะกิน แต่แท้ที่จริงแล้วขนมหญ้าตดหมานี้ตั้งชื่อตามวัตถุดิบของท้องถิ่นในแถบภาคเหนือและอีสาน ก็คือ “หญ้าตดหมา” โดยเป็นไม้เลื้อยล้มลุก ลำต้นขนาดเล็ก ใบมียางสีขาว เมื่อเด็ดขยี้จะมีกลิ่นเหม็น แต่ส่วนที่จะเอามาทำขนมคือผลหรือยอดของต้นหญ้าตดหมา ที่นำมาตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาแต่น้ำผสมกับแป้งข้าวเหนียว ข้าวจ้าว น้ำตาลทราย เกลือป่นและมะพร้าวขูด เมื่อนวดรวมกันได้ที่นำมาห่อใบตองแล้วนำไปนึ่งจนสุกได้ที่ จะได้ขนมที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ หวานมันจากมะพร้าวและน้ำตาล ถือเป็นขนมพื้นบ้านที่น่าสนใจและหลายคนไม่รู้จัก
 
8.ขนมโค
 
ภาพจาก  https://bit.ly/3nwdOVv

ชื่อว่าขนมโคแต่ไม่ได้ใช้วัตถุดิบจากเนื้อโคแต่อย่างใด ถือเป็นขนมท้องถิ่นทางภาคใต้ หน้าตาคล้ายขนมต้มแต่ต่างกันที่ขนมโคจะใส่น้ำตาลโตนด ส่วนแป้งจะใส่สีหรือไม่ใส่ก็ได้ ปั้นก้อนกลมพอดีคำ คลุกมะพร้าวขูด รสชาติจะหวานๆ เค็มๆ มันๆ วัตถุดิบสำคัญคือแป้งข้าวเหนียว , เผือกหอมนึ่ง หรือจะเป็นหัวมันหรือฟักทองก็ได้ , มะพร้าวขูด , น้ำตาลโตนด  ซึ่งขนมโคไม่ได้มีสัดส่วนการตวงวัตถุดิบแบบพิถีพิถัน ขึ้นอยู่กับปริมาณว่าเราอยากทำมากหรือน้อย
 
9.ขนมกนน้ำอ้อย
 
ภาพจาก https://bit.ly/3Af6HUL

เป็นขนมท้องถิ่นของภาคเหนือ โดยขนมกนน้ำอ้อย หรือ เข้าหนมกนน้ำอ้อย (กน ภาษาเหนือคือ การคนหรือกวน ให้เข้ากัน มีส่วนผสมหลักคือ น้ำอ้อย มะพร้าวขูด และน้ำใบเตย เพื่อเพิ่มรสชาติให้มีความหวานมันและกลิ่นหอม เคล็ดลับในการทำคือต้องกวนตลอดเวลา และกวนไปในทิศทางเดียวกันตลอด เพื่อไม่ให้แป้งติดภาชนะและใช้ไฟอ่อน เพื่อไม่ให้แป้งจับตัวกันเป็นก้อน
 
10.ขนมจ็อก
 
ภาพจาก https://bit.ly/3ke1Bmm

เป็นชื่อขนมทางภาคเหนือ โดยขนมจ็อก หรือ ขนมเทียน บางแห่งเรียกว่า ขนมนมสาว เป็นขนมที่นิยมทำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มาแต่โบราณ และงานบุญต่างๆ บางสูตรใส่ถั่วลิสงป่น หรืองาขี้ม้อน ลงในไส้มะพร้าว หรือไส้ถั่วเขียว โดยเอาถั่วเขียวนึ่งแล้วบด นำมาผสมหรือผัดกับเครื่องปรุง มีรสเค็มนำเรียกว่า “ไส้เค็ม” ปัจจุบัน มีการทำไส้ขนมจ็อกหลากหลาย เช่น ไส้ถั่วเขียว ไส้ถั่วแดง เป็นต้น มีเคล็ดลับในการทำที่น่าสนใจคืออาจจะผสมแป้งข้าวจ้าวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เหนียวเกินไป และอาจใส่น้ำอ้อยลงในแป้ง เพื่อให้แป้งมีรสหวานมากขึ้น
 
ขนมชื่อแปลกเหล่านี้ไม่ใช่สินค้าใหม่แต่เป็นขนมที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน และเราเชื่อว่ายังมีขนมอีกหลายอย่างที่ชื่ออาจแปลกและรสชาติอร่อย ซึ่งก็ถือเป็นเสน่ห์ของขนมไทยที่หากเราดึงเอาจุดเด่นนี้มาต่อยอดขาย จะมีความน่าสนใจเช่นอาจเปิดร้านขายขนมชื่อแปลก เพิ่มช่องทางขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ อาจสร้างรายได้ที่ดีเกินคาดให้กับเราได้
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://www.thaifranchisecenter.com/document/
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
บทความสร้างอาชีพมาใหม่
บทความอื่นในหมวด