ทำตลาดแบบเงียบๆ "ยาดมโป๊ยเซียน ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน" จนมีรายได้เหยียบพันล้าน
 

หากเอ่ยถึง “ยาดม” ที่ได้รับความความนิยมในเมืองไทย และหลายๆ คนมีการพกพาติดไม่ติดมือ หรือติดกระเป๋าไปไหนมาไหนเป็นประจำ คงต้องนึกถึง “ยาดมโป๊ยเซียน” เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด มีสโลแกนฮิตติดปาก “ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน” จึงทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายกว่ายี่ห้ออื่นๆ 
 

เรื่องราวและความเป็นมาของ “ยาดมโป๊ยเซียน” มีจุดเริ่มต้นอย่างไร เดินกลยุทธ์ธุรกิจแบบไหน ถึงทำรายได้เกือบพันล้านบาท วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบครับ 

จุดเริ่มต้นยาดมโป๊ยเซียน

 

ภาพจาก www.poysian1936.com

“ยาดมโป๊ยเซียน” อยู่ภายใต้การบริหารตระกูล “ลาภบุญทรัพย์” มีจุดเริ่มต้นราวปี 2479 เป็นร้านขายยาสมุนไพรเล็กๆ ตั้งอยู่ย่านเยาวราช ขายทั้งยาสตรีตราโป๊ยเซียน ยาน้ำเอียจับ และยาน้ำส้ม ต่อมามีพัฒนาสูตรยาดม “พีเพ็กซ์” (Pe-Pex) ปัจจุบันก็ยังมีขายอยู่ในท้องตลาด ประสบความสำเร็จอย่างมาก ประกอบกับมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงได้มาเป็นผลิตภัณฑ์ “ยาดมโป๊ยเซียน POY-SIAN” แบบ 2 in 1 ในแบบปัจจุบัน ใช้ได้ทั้งดมและทาในหลอดเดียวกัน เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี 2532 มีสรรพคุณบรรเทาอาการ วิงเวียน ศีรษะ มีส่วนประกอบ เมนทอล การบูร น้ำมัน ยูคาลิปตัส พินเสน 

ภาพจาก www.poysian1936.com

 

หลังจากนั้น บริษัทฯ ได้พัฒนาและแตกไลน์สินค้ามากมาย ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ราว 7 ชนิด ได้แก่ ยาดมตราโป๊ยเซียน ยาดมโป๊ยเซียนมาร์คทู (Mark II) พิมเสนน้ำตราโป๊ยเซียน (POY-SIAN) ยาหม่องผสมพญายอตราโป๊ยเซียน รวมถึงยาดมตราพีเพ็กซ์ (PE-PAX) และยาดมตราเพ็กซ์ (PAX) ที่เน้นทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก 
 

ภาพจาก www.poysian1936.com

 

แต่เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า “ยาดมโป๊ยเซียน” เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่มียอดขายดีที่สุดในเมืองไทย โดยยาดมโป๊ยเซียนครองส่วนแบ่งเกือบ 80% ส่วนอันดับสองเป็นยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์ ครองส่วนแบ่งเกือบๆ 20%
 

กลยุทธ์ธุรกิจยาดมโป๊ยเซียน
 

ภาพจาก https://bit.ly/3sqKYGS

ในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันสูง ธุรกิจที่จะสร้างความได้เปรียบและประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องทุ่มเงินลงทุนในด้านการทำการตลาด โฆษณา ประชาสัมพันธ์ แต่ไม่ใช่สำหรับ “ยาดมโป๊ยเซียน” ที่ใช้วิธีการทำตลาดแบบเงียบๆ ตรงจุด หวังผลชัดเจนตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 
 

กลยุทธ์ที่ใช้ คือ ยาดมตราโป๊ยเซียนมีการใช้ต้นทุนในการผลิตต่ำและผลิตสินค้าในปริมาณมาก ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาจำหน่ายถูก ส่งผลให้ยอดขายสูงขึ้นทุกปี อีกทั้งมีการเดินหมากการตลาดชั้นเซียน โดยเฉพาะการซื้อพื้นที่โฆษณาบนหนังสือพิมพ์ไทยรัฐในวันหวยออก ซึ่งยาดมโป๊ยเซียนโชว์ความเหนือด้วยการเจาะกลุ่มลูกค้าแบบประชิดตัว โดยเลือกซื้อพื้นที่โฆษณาหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน เมื่อลูกค้าซื้อหวยมาก ตรวจไม่ถูก อาจทำให้หน้ามืดและเป็นลม จนต้องสูตรดมด้วยยาดมโป๊ยเซียน
 

ขณะเดียวกัน ยาดมโป๊ยเซียนสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวของแบรนด์ตนเอง อีกทั้งยังมีสโลแกนที่ทำให้จดจำได้ง่าย คือ “ใช้ดมใช้ทาในหลอดเดียวกัน” จากที่กล่าวมาข้างต้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ทำให้ยาดมตราโป๊ยเซียนมีจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้ยาดมตราโป๊ยเซียนขึ้นเป็นผู้นำตลาดสินค้าประเภทยาดม

 

รายได้ยาดมโป๊ยเซียน 
 

ภาพจาก www.poysian1936.com

รายงานผลการดำเนินธุรกิจของบริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดังนี้

ดมแล้วติดเลย คนไทยซื้อยาดมยี่ห้อเดียว 
 

ภาพจาก https://bit.ly/3owGdKv

ผลสำรวจของ AC Nielsen บริษัทให้ข้อมูลและการประเมินผลชั้นนำของโลก ให้ข้อมูลว่าตลาดของยาหม่องและยาหม่องน้ำ (รวมยาดม) คนไทยจะซื้อเพียงไม่กี่ยี่ห้อ แล้วจะเลือกซื้อเพียงยี่ห้อที่มีชื่อเสียง

โดยมีพฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภค คือ ใช้มานานจนติดกลิ่น ตลอดจนการใช้งานแล้วเห็นผล จึงเป็นสาเหตุทำให้ในตลาดมียาดมเพียงไม่กี่ยี่ห้อทำยอดขายและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมาโดยตลอด จึงไม่แปลกที่ยาดมโป๊ยเซียนจะมีรายได้เกือบพันล้านบาท 
 

สรุปก็คือ แม้ว่ายาดมโป๊ยเซียนเป็นสินค้ามีกลิ่นให้เลือกน้อย บรรจุภัณฑ์ค่อนข้างล้าสมัย แต่โอกาสของธุรกิจยาดมยาหม่องอยู่ที่จำนวนผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าประเภทกลุ่มยาดมยังอยู่ในวงจำกัด ทำให้มีคู่แข่งน้อย อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยึดติดกับแบรนด์ที่เคยใช้เป็นประจำทำให้มีความภักดีต่อตัวผลิตภัณฑ์สูง
 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

ข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

อ้างอิงข้อมูล 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)