10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! เศรษฐา ศิระฉายา
 

วงการบันเทิงไทยได้พบกับควาสูญเสียอีกครั้งเมื่อ เศรษฐา ศิระฉายา หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า “อาต้อย” ซึ่งถือเป็นนักแสดงอาวุโสที่มากด้วยความสามารถ และเป็นแบบอย่างอันดีที่นักแสดงรุ่นหลังหลายคนได้ศึกษาและเจริญรอยตาม นับตั้งแต่มีข่าวเรื่องอาการป่วย คนในวงการบันเทิงต่างก็ส่งกำลังใจให้อย่างล้นหลาม รวมถึงบรรดาแฟนคลับและคนที่เคยติดตามผลงานต่างก็หวังว่า อาต้อยจะหายและกลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววัน

อย่างไรดีช่วงเช้าวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าอาต้อยได้เสียชีวิตลงอย่างสงบอันเป็นผลมาจากโรคมะเร็งปอด อายุรวม 77 ปี www.ThaiFranchiseCenter.com ขอแสดงความเสียใจมาในโอกาสนี้ด้วย และเพื่อเป็นการรำลึกนึกถึงลองย้อนไปดูเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับอาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา ว่ามีเรื่องไหนที่เรายังไม่รู้กันบ้าง

 

ภาพจาก https://bit.ly/36xtqlf

เศรษฐา ศิระฉายา เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 เป็นชาว จ.พระนครศรีอยุธยา จบการศึกษามัธยมปลายจากโรงเรียนวัดบวรนิเวศ และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ หลักสูตรโครงการพิเศษ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหงระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

 

2.เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 16
 

จุดเริ่มต้นของ อาต้อย เศรษฐา ในวงการบันเทิงเริ่มตั้งแต่อายุ 16 ปี จากการทำหน้าที่ขนเครื่องดนตรีในวงดนตรีตามคำชักชวนของน้าชาย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ซึ่งเป็นอดีตพระเอกภาพยนตร์ชื่อดังในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อมาได้ฝึกหัดทักษะด้านดนตรีแบบครูพักลักจำ จนกระทั่งได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องตามสถานบันเทิงต่างๆ

 

 

ภาพจาก https://bit.ly/3v0QUZV

หลังจากมีความรู้ด้านดนตรี อาต้อยเศรษฐา ศิระฉายาด้ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องตามสถานบันเทิงต่างๆ และได้รวมตัวกับเพื่อนๆ นักดนตรี ตั้งวงดนตรี Holiday J-3 ร่วมกับเพื่อนๆในสมัยนั้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Joint Reaction และได้เปลี่ยนอีกครั้งว่า The Impossibles ซึ่งเป็นชื่อการ์ตูนชื่อดังของอเมริกาในสมัยนั้น โดย “ต้อย เศรษฐา” เป็นนักร้องนำ 

 

4.ได้สัมผัสวงการภาพยนตร์ครั้งแรกจากการบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์
 

ในปี 2512 วง The Impossibles สามารถคว้าถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งผลให้วงดนตรีเริ่มเป็นที่นิยมและเป็นจุดเปลี่ยนให้ อาต้อย เศรษฐา ได้เข้ามาเล่นภาพยนตร์เป็นครั้งแรก โดยได้รับการทาบทามจากเปี๊ยก โปสเตอร์ ให้มาร่วมบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง โทน ในปี 2513
 

 

 

ภาพจาก https://bit.ly/3v0QUZV

วง The Impossibles ยังคงชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบอีก 2 ครั้งติดต่อกันหลังจากนั้น และได้บรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง อาทิ ดวง ในปี 2514 , สวนสน ในปี 2514 , ระเริงชล ในปี 2515, ตัดเหลี่ยมเพชร ในปี 2518 ฯลฯ และกลายเป็นวงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ปี พ.ศ. 2518 หลังกลับมาจากการไปทัวร์ที่ต่างประเทศ อาต้อย เศรษฐาก็ได้รับการชักชวนจาก ป้าจุ๊ จุรี โอศิริ ให้มาแสดงภาพยนตร์อย่างจริงจังครั้งแรกใน ฝ้ายแกมแพร (2518) และสามารถคว้ารางวัลพระสุรัสวดีสาขา นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครองได้ทันที

 

6.ผลงานด้านการแสดงของ อาต้อย เศรษฐา
 

ในปี 2519 หลังจากวง The Impossibles ประกาศยุบวงเป็นทางการ อาต้อย เศรษฐา จึงก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว มีบทบาทโดดเด่นทั้งการเป็นพิธีกรและนักแสดง ในส่วนของภาพยนตร์ นับเป็นดารายอดฝีมือคนหนึ่ง ซึ่งสามารถรับบทบาทได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นบทดี บทร้าย บทตลก ส่งผลให้มีผลงานออกมามากมาย เช่น แผลเก่า จำเลยรัก มนต์รักแม่น้ำมูล พ่อกระดิ่งทอง ยอดรักผู้กอง เลดี้ฝรั่งดอง เฮงได้ เฮงดี รักนี้ วิมานมะพร้าว บิ๊กบอย ฯลฯ โดยเรื่องที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งคือ ชื่นรัก ในปี 2522

 

7.พบรักครั้งแรก จากการเล่นละครเรื่อง “ชื่นรัก”
 

ภาพจาก https://bit.ly/36xtqlf

นอกจาก “ชื่นรัก” จะเป็นผลงานที่โดดเด่นทำให้หลายคนรู้จัก อาต้อย เศรษฐามากขึ้น ในการแสดงครั้งนี้อาต้อย ยังได้ประกบคู่กับ “อรัญญา นามวงศ์” ซึ่งเป็นางเอกที่มีชื่อโด่งดังในยุคนั้น และจากการร่วมงานกันก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่ชีวิตทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน คือ พุทธธิดา ศิระฉายา

 

8.พิธีกรแห่งตำนาน “มาตามนัด”
 

หลังจากที่เข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัวหนึ่งในบทบาทที่เป็นภาพจำของคนส่วนใหญ่คืองานพิธีกร โดยเฉพาะการเป็นพิธีกรในรายการ “มาตามนัด” คู่กับ ตุ๊ก ญาณี ซึ่งเป็นรายการที่ออกอากาศตั้งแต่ปี 2527 – 2538 ซึ่งถือเป็นรายการที่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้น และเป็นต้นแบบให้นักแสดงรุ่นหลังได้ศึกษาวิธีการเป็นพิธีกรอย่างมืออาชีพด้วย

 

9.ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง
 

ในปี 2554 อาต้อย เศรษฐา ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) และในวันที่ 26 เมษายน 2557 อาต้อย เศรษฐา ได้เดินทางมาที่หอภาพยนตร์ เพื่อประทับรอยมือรอยเท้า เป็นดาวดวงที่ 150 บนลานดารา หน้าโรงภาพยนตร์ศรีศาลายา

 

อาต้อย เศรษฐา ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปอด ในปี 2562 ซึ่งก็ได้เข้ารับการรักษาตามขั้นตอนเรื่อยมา และในเดือนเมษายน 2564 อาต้อย เศรษฐาติดโควิด 19 ซึ่งทุกคนต่างเป็นห่วงและส่งกำลังใจให้อย่างมาก หลังจากรักษาตัวอยู่หลายสัปดาห์ก็หายป่วยโควิด 19 และสามารถกลับบ้านได้การรักษาต่อเนื่องทำให้ก้อนเนื้อมะเร็งในปอด ที่เคยมีขนาด 8 เซนติเมตร ลดลงเหลือ 4 เซนติเมตร

รวมถึงหยุดการเติบโตไปแล้ว แต่ช่วงปลายปี 2564 อาต้อย เศรษฐา ต้องกลับไปรักษาด้วยการทำคีโมอีกครั้ง เนื่องจากตรวจพบว่าก้อนเนื้อดังกล่าวกลับมาเติบโต และครั้งนี้ด้วยความที่เป็นมะเร็งระยะที่ 4 ทำให้เชื้อกระจายเป็นส่วนอื่น ๆ ในร่างกายด้วย ซึ่งภาพจำของคนที่ติดตามข่าวจะพบว่าอาต้อย เศรษฐาไม่เคยท้อแท้และยิ้มสู้อยู่เสมอ

 

แม้ว่าอาต้อย เศรษฐาจะจากไปแล้วแต่สิ่งที่ทิ้งไว้คือแบบอย่างในการเป็นนักแสดงที่ดีที่นัแสดงรุ่นหลังควรเอาอย่าง ผู้คนมากมายที่เคยร่วมงานกับ อาต้อย เศรษฐา ต่างจดจำภาพบุคคลที่น่ารัก ใจดีกับเพื่อนในวงการ เป็นคนไม่ถือตัว และชอบเรียนรู้อยู่เสมอ ให้ความสำคัญกับการทำงานเพราะคิดว่าผู้ชมคือคนสำคัญที่สุด นอกจากนี้ในบั้นปลายชีวิตก่อนสุขภาพทรุดโทรม อาต้อย เศรษฐายังคงทำงานควบคู่กับการเรียนร้องเพลงเพิ่มเติมอีกด้วย ทางทีมงานขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวมา ณ โอกาสนี้ด้วย

 

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3p5t3ob , https://bit.ly/3sRdCRO , https://bit.ly/3s6gwTe , https://bit.ly/3p1OaYs , https://bit.ly/3ByuIru 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)