ชมงาน Smart SME EXPO 2022! แฟรนไชส์สุดฮิต! สินค้าตามกระแส! มีให้เลือก เพียบ!
 

ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่มีความผันผวน การเลือกลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์คือแนวทางที่น่าสนใจ ซึ่งงาน Smart SME EXPO 2022 ถูกจัดขึ้นอย่างพอดีระหว่างวันที่ 7-10 กรกฏาคม 2565 ณ อิมแพคเมืองทองธานี ถือเป็นงานแสดงสินค้าแฟรนไชส์สุดยิ่งใหญ่ที่คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงานนี้มูลค่ามหาศาล และที่สำคัญยิ่งกว่า นี่คือโอกาสของคนที่อยากลงทุนอยากมีธุรกิจของตัวเองได้มาเลือกชมธุรกิจแฟรนไชส์น่าสนใจจำนวนมาก 
 

 

ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมงานนี้และสังเกตได้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์ในยุคนี้มีการพัฒนารูปแบบการลงทุนและสินค้าให้ตอบโจทย์กับความต้องการได้มากขึ้น มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย

 

Smart SME EXPO 2022 แบ่งออกเป็น 5 โซนธุรกิจให้เลือกลงทุนได้ง่าย
 

ภายในงานบริเวณฮอลล์ 7-8 อิมแพคเมืองทองธานี มีแฟรนไชส์เข้าร่วมในงานนี้กว่า 200 บูธ ซึ่งได้แบ่งออกเป็น 5 โซนธุรกิจเด่น ได้แก่ โซนแฟรนไชส์ธุรกิจน่าลงทุน โซนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โซนสถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
 

 

และแน่นอนว่าแต่ละโซนก็มีแฟรนไชส์และธุรกิจที่น่าสนใจจำนวนมาก ราคาในการลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่หลักพัน หลักหมื่น ไปจนถึงหลักล้าน และยังมีโปรโมชั่นของแต่ละแฟรนไชส์ที่จัดหนักจัดเต็มให้เลือกตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้นด้วย ถ้าใครคิดจะไปเดินงานนี้อย่างแรกต้องมีเป้าหมายในใจก่อนว่าอยากลงทุนอะไร งบประมาณเท่าไหร่ จะทำให้การเดินชมแฟรนไชส์ในงานสามารถเลือกเป้าหมายการลงทุนได้ง่ายขึ้น

 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดเต็ม 42 แฟรนไชส์การันตีคุณภาพ เลือกลงทุนได้เลย!
 

หนึ่งในพื้นที่น่าสนใจคือบริเวณของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ที่ครั้งนี้มี 42 แฟรนไชส์คุณภาพให้เลือกลงทุน เริ่มจากกลุ่มเครื่องดื่มดื่มอย่าง รสโบราณสเตชั่น ที่เจอกันแทบทุกงาน เป็นแฟรนไชส์ที่ตอนนี้ยอดฮิตมาก และมีรูปแบบให้เลือกลงทุนทั้ง คีออสและ Shop

และอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ชื่อแปลกมาก แฟรนไชส์ชาละวัน ที่หมายถึงว่าชาที่กินได้ทุกวัน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนิทานเรื่องไกรทองสักนิดเดียว แฟรนไชส์นี้เขาเปิดมาแล้วกว่า 8 ปี แต่เพิ่งมาเริ่มขายแฟรนไชส์ในปีแรก แต่ดูท่าว่าคนจะสนใจมาก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายแฟรนไชส์เครื่องดื่มที่น่าสนใจเช่น 24 ชม.คอฟฟี่ ที่มาพร้อมบริการตู้กดกาแฟอัตโนมัติ ให้เลือกลงทุนตอบโจทย์คนยุคใหม่
 

 

และยังมี Owl Cha แฟรนไชส์ยอดฮิตที่ตอนนี้มีสาขาทั่วประเทศกว่า 400 แห่ง รวมถึง คามุคามุที ที่มีสาขาในประเทศกว่า 147 แห่งและยังมีสาขาในต่างประเทศอีกด้วย หรือถ้าใครสนใจร้านเครื่องดื่มสไตล์คาเฟ่ สามารถเลือกลงทุนกับร้านใส่นม ที่ตอนนี้มีสาขาทั่วประเทศกว่า 60 แห่ง ลงทุนเริ่มต้น 700,000 (แบบคีออส) และ 1.4 ล้านบาท สำหรับแบบร้านคาเฟ่)

ลองไปดูแฟรนไชส์อาหารในโซน DBD ซึ่งในปีนี้มีหลายแฟรนไชส์น่าสนใจอย่าง โอลิโนะ เครปแอนด์ที โดยบริษัท โอลิโนะ พรีเมี่ยมฟู้ดส์ จำกัด สินค้าคือเครป และเครื่องดื่มสูตรนำเข้าจากญี่ปุ่น ปัจจุบันมี 60 สาขา ลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท ได้ขายสินค้า 3 อย่างคือ เครปร้อน เครปเย็น และเครื่องดื่ม 
 

 

และสำหรับใครที่เป็นแฟนธุ์แท้ของ Bake alert ในงานครั้งนี้เขามีสินค้าใหม่ คือ Bake alert Toast Café แฟรนไชส์ร้านคาเฟ่ขนมปังปิ้ง ลงทุนเริ่มต้น 99,000 บาท มีเครื่องดื่มกว่า 100 เมนูให้ขายคู่กันด้วย ยังไม่หมด สำหรับคนสนใจที่อยากลงทุนแฟรนไชส์อาหารญี่ปุ่น เชิญพบกับ ทงคัตสึคะซัง ที่เจ้าของคือคุณทานากะ เป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ สินค้าคือราเมงสูตรต้นตำหรับที่ตอนนี้มี 2 สาขาในเมืองไทย ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 66,000 บาท
 

 

หรือถ้าใครบอกว่าอยากลงทุนกับอาหารแบบไทย ๆ แนะนำไปเลยกับ 2 แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเริ่มจาก เตี๋ยวเรือยุดยา ที่ดำเนินกิจการมานาน 4 ปี ตอนนี้มีสาขา 70 แห่ง ลงทุนเริ่มต้น 35,000 บาท และ 95,000 บาท และอีกหนึ่งแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวคือ เตี๋ยวบางกอก ที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 7 ปี ตอนนี้มี 4 สาขา ลงทุนเริ่มต้น 259,999 บาท จุดเด่นคือเสิร์ฟชามต่อชาม ใช้เครื่องเทศจีน แตกไลน์สินค้าให้เข้ายุคสมัยด้วยเตี๋ยวเรือพร้อมทานใส่น้ำร้อนพร้อมทานได้ทันทีด้วย
 

 

และที่น่าสังเกตคือในปีนี้มีแฟรนไชส์เบอรี่หลายแบรนด์สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่เน้นเมนูสะดวก ซื้อง่าย ทานง่ายมากขึ้น อย่างแฟรนไชส์ปังอั้ยยะ ปังปิ้งไส้เยิ้ม ที่ในงานนี้ก็มีสินค้าพร้อมจำหน่ายและแพคเกจลงทุนให้เลือกมากมายและยังมีธุรกิจที่แตกไลน์มาให้เลือกลงทุนอีกด้วย รวมถึงแฟรนไชส์อย่าง Egg All Day ที่เป็นคาเฟ่แซนด์วิชสไตล์เกาหลี ใช้ไข่ออร์แกนิค

และขนมปังสูตรโฮมเมดเป็นจุดขาย มี 3 สาขาที่เอกมัย , ภูเก็ต และรามอินทรา และหนึ่งในแฟรนไชส์ที่บอกได้เลยว่าสาขามากที่สุดในประเทศคือ ปังก้อนทอง มีสาขากว่า 150 แห่งทั่วประเทศ จุดเด่นคือแห่ง คืนทุนไว กำไรเร็ว แถมยังมีโรงงานผลิตของตัวเอง มีหลายแพคเกจให้เลือกลงทุน เริ่มต้น 39,000 บาท

 

แฟรนไชส์นี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กันอย่าง ลิตเติ้ลเอ้ก วาฟเฟิล สินค้าคือวาฟเฟิลฮ่องกงสูตรไข่ไก่สด เจ้าแรกของไทย พร้อมเครื่องดื่ม กว่า 40 เมนู ลงทุนเริ่มต้น 35,000 – 65,000 บาท คืนทุนไว ตอนนี้มีสาขา 20 แห่ง ถ้ายังไม่สะใจขอแนะนำกันอีกกับแฟรนไชส์ ซียู วาฟเฟิล ที่เป็นวาฟเฟิลฮ่องกงกรอบนอก นุ่มใน มีหลากหลายไส้ให้เลือกตอนนี้มีสาขา 100 แห่ง ลงทุนเริ่มต้น 9,900 บาท และ 11,900 บาท

และถ้าใครอยากเลือกลงทุนกับสินค้ายอดฮิตอย่างขนมโตเกียวในงานนี้ก็มีหลายแฟรนไชส์เช่นกันอย่าง Rinroll Tokyo ที่มีจุดเด่นคือแป้งกรอบสูตรเฉพาะ มีหลากหลายไส้ให้เลือกทั้งคาว หวาน ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท ได้อุปกรณ์ครบพร้อมเปิดร้าน ปัจจุบันมี 60 สาขา หรือแฟรนไชส์บิ๊กโตเกียว by คุณเปิ้ล ที่ยังเป็นแฟรนไชส์พร้อมสร้างอาชีพที่มาแรงมากตอนนี้มี 85 สาขาและมีการอัพเดทสินค้าใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วย
 

 

แฟรนไชส์ยุคใหม่ พัฒนาสินค้าให้เข้ากับยุคสมัย! น่าเลือกลงทุนมากขึ้น
 

จากการเดินชมงาน Smart SME EXPO 2022 ครั้งนี้สังเกตว่าหลายธุรกิจแฟรนไชส์มีการพัฒนาสินค้าตัวเองให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น อย่างแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวที่พัฒนาสินค้าเป็นก๋วยเตี๋ยวสำเร็จรูปพร้อมทาน หรืออย่าง พิซซ่าอาหมวย ที่ในงานนี้ เปิดตัวสินค้าใหม่คือตู้กดพิซซ่าอัตโนมัติ ลงทุนเริ่ม 350,000 บาท ที่เพียงแค่ใส่เงินลงไปอยากได้พิซซ่าหน้าอะไรก็เลือกได้เลย หรือ เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟอินดี้ ที่มีสินค้าสำเร็จรูปให้พร้อมปรุง พร้อมทานได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย
 

 

แฟรนไชส์ภายในงานที่มาในเทรนด์สะดวก เพื่อดึงดูดให้คนสนใจได้เลือกลงทุนมากขึ้น เช่น ผู้จำหน่ายเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ ดั๊ก กรุ๊ป และ บริการเทคโนโลยีครบวงจร SABUY TECH เป็นต้น

 

ธุรกิจบริการและการศึกษาก็ยังมาแรง และมีคนสนใจมาก
 

 

นอกจากแฟรนไชส์อาหาร เครื่องดื่ม ที่ได้รับความนิยม ในส่วนของแฟรนไชส์บริการและการศึกษาก็มีคนสนใจขอข้อมูลลงทุนกันเป็นจำนวนมาก เริ่มกันที่ สถาบันคณิตศาสตร์ SenseMath ที่ก่อตั้งมานานและมีผู้เรียนจำนวนมาก ตอนนี้มีสาขากว่า 61 แห่ง และมีการพัฒนาหลักสูตรการสอนต่อเนื่อง หรือนาด้าคิด ที่เป็นหลักสูตรจินตคณิต โดยใช้ลูกคิดญี่ปุ่น เป็นอุปกรณ์การเรียนการสอน

ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 50,000 บาท มีสาขา 85 แห่งทั่วประเทศ และในงานนี้ยังมีแฟรนไชส์บริการน่าสนใจอีกเพียบเช่น ชิปป์สไมล์เซอร์วิสที่มาสร้างสีสันในงานได้อย่างดี พร้อมแพคเกจลงทุนหลากหลาย มีคนมาร่วมงานสนใจกันเป็นจำนวนมาก หรือ Shippop ที่ตอนนี้มีสาขา 1,200 แห่ง มี 3 แพคเกจ 3,000 , 15,000 และ 89,000 บาท รวมถึงแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักอย่าง wonder wash ที่มีสาขา 21 แห่ง ลงทุนเริ่มต้น 1.96 ล้านบาท 
 

 

นอกจากนี้ทั่วทั้งงานยังมีอีกหลายแฟรนไชส์ที่เห็นแล้วต้องอยากแวะ อยากเลือกลงทุนเช่น เทมปุระชีสลาวา Mr. Tempu, กังฟูชาบู, ส้มตำนั๊วนัว, ชานมแอมที, ลูกชิ้นยืนกิน เจ้พงษ์, กะเพราเข้าตา, ยำยั่วปูขี่พริก, ซูชิแชมป์เปี้ยน เป็นต้น
 

 

 

 

และสำหรับใครที่ติดปัญหาเงินทุนภายในงานยังมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากเหล่าธนาคารชั้นนำทั้งจากธนาคารออมสิน , ทีมให้คำปรึกษาทางด้านการเงินให้แก่ผู้ประกอบการจาก บสย. และยังมีสินเชื่อเสริมแกร่งเอสเอ็มอีเกษตรจาก ธ.ก.ส. และสินเชื่อบ้านจากธนาคารอาคารสงเคราะห์อีกด้วย  
 

 

ถือเป็นงานที่รวบจบ ครบทุกความต้องการได้อย่างแท้จริง คาดว่าภายหลังการจัดงานครั้งนี้แต่ละแฟรนไชส์จะมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นได้อีกมากและคนไทยจะสามารถมีธุรกิจของตัวเองได้มากขึ้น อันจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตเพิ่มมากขึ้นได้ด้วย

 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)