สิ่งสำคัญของการทำธุรกิจคือการสร้างแบรนด์ที่ต้องทำให้คนรู้จัก ซึ่งมีกลยุทธ์ต่างๆมากมาย และหนึ่งในวิธีการสำคัญที่ต้องเรียนรู้คือการใช้ Tagline กับ Slogan ซึ่งทั้ง 2 คำนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าเป็นการใช้ระบุตัวตนของแบรนด์ที่หลายคนยังเข้าเข้าใจคลาดเคลื่อนซึ่งในการรู้ความหมายกับไม่รู้นั้น มันมีผลกระทบอย่างรมากในการทำการตลาดของแบรนด์ เพราะด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกันของทั้ง 2 คำนี้ มันจึงสำคัญกับการนำไปใช้อย่างมาก

 

 

ภาพจาก bit.ly/31UXBOx

Tagline เป็นชุดคำหรือประโยคที่แบรนด์คิดขึ้นมาเพื่อบ่งบอกสิ่งที่แบรนด์หรือธุรกิจนั้นทำอยู่ โดยมักจะถูกคิดขึ้นมาใช้ตั้งแต่ตอนเริ่มก่อตั้งธุรกิจและจะถูกใช้อย่างต่อเนื่องไม่มีการเปลี่ยนแปลง Tagline จึงเปรียบได้กับอุดมการณ์ของแบรนด์เพราะจะบอกจุดยืนที่ชัดเจน

เกณฑ์การตั้ง tagline นั้นไม่มีอะไรตายตัว แล้วก็ไม่มีผิดไม่มีถูก มีแต่ควรกับไม่ควร ซึ่งมีเคล็ดลับในการตั้ง Tagline ที่สำคัญเช่น เป็นที่น่าจดจำ , มีคีย์หลักเกี่ยวกับสิ่งที่องค์กรทำ , สามารถสร้างความแตกต่าง , สามารถสื่อถึงแบรนด์ในมุมมองที่ดี รู้สึกดี หรือแง่คิดเชิงบวกได้ แต่ก็มีในบางกรณีที่แบรนด์มีการเปลี่ยนแปลง Tagline แต่ก็ยังคงเอาไว้ซึ่งสิ่งที่แบรนด์นั้นกระทำอยู่ดี

ภาพจาก https://bit.ly/3RRAM60

เพราะฉะนั้น Tagline ที่ดีควรที่จะชัดเจนว่าแบรนด์ของเรากำลังทำอะไร และตัวตนของแบรนด์นั้นเป็นไปในทิศทางไหนซึ่งมันจะส่งผลกับภาพลักษณ์และตัวตนของแบรนด์เราตลอดไป
 

ยกตัวอย่าง Tagline เช่น “หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา...” ของ 7-Eleven , "Find new roads” ของ Chevrolet , “The power of dreams” ของ Honda , “Intel inside” ของ Intel เป็นต้น

 

ภาพจาก https://bit.ly/3v4ktcm

Slogan ส่วนใหญ่มักจะนำไปใช้กับสินค้า ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือแคมเปญเพื่อกระตุ้นการตลาด หรืออะไรในช่วงเวลานั้นๆให้น่าสนใจ และกระชับเป็นที่เข้าใจได้ของคนทั่วไป ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลง ดัดเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับว่าในช่วงเวลานั้นแบรนด์อยากจะพูดถึงอะไรเพื่อทำการตลาดในช่วงเวลาต่างๆ ยกตัวอย่างชัดๆ เช่น งดเหล้าเข้าพรรษา (สสส.) หรือ สินค้าอย่าง Coke ที่ออกรสชาติใหม่เป็นกลิ่นส้ม Slogan ก็คือ “ซ่าาา กับทุกโมเมนท์” เป็นต้น

 

การนำ Tagline vs Slogan ไปใช้ในธุรกิจ
 

ภาพจาก https://bit.ly/3yVAen8

การที่ทั้ง 2 คำนี้มีส่วนที่คล้ายกันมาก การนำไปใช้งานก็ต้องให้ถูกต้องเหมาะสม ทุกแบรนด์ต้องเริ่มจากมี โลโก้ ซึ่งเป็นด่านแรกของการทำให้ลูกค้าจำแบรนด์ได้ และสิ่งที่ควรเห็นต่อมาก็คือ สโลแกน (Slogan) ที่จะตอกย้ำให้โลโก้ยิ่งมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น 

 

ส่วน Tagline เป็นการแนะนำตัวเพียงช่วงประโยคหรือวลีไม่กี่คำที่จะทำให้รู้จักบริษัทของเราได้ง่ายขึ้น หรือเป็นการคงไว้ซึ่งข้อความหรือการบอกเล่าถึงความเป็นบริษัทนั้นๆ อย่างไม่เปลี่ยนแปลง Tagline จึงมีความสำคัญและมีความจำเป็นกับบริษัทอย่างมากนั่นเป็นเพราะว่า จะช่วยให้เกิดการจดจำที่ดีต่อผู้บริโภค เป็นผลดีต่อการขายสินค้า ซึ่งการจดจำเหล่านี้อาจเพิ่มผลกำไร และยอดขายของธุรกิจได้มากขึ้นอีกด้วย

ภาพจาก https://bit.ly/3IS6YCe

 

ในปัจจุบันมีการนำ tagline ไปใช้กับในภาพยนตร์บางเรื่องอีกด้วย อาจจะเพื่อเป็นการเปิดตัว บอกโครงเรื่องผ่านตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวเพื่อให้ผู้คนอยากรู้จักน่าติดตาม เช่น “Think different” ของ Apple, “I’m lovin’ it” ของ McDonald’s หรือจะเป็น “Just do it” ของ Nike เป็นต้น

 

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น slogan หรือ tagline ก็ล้วนแต่มีความสำคัญและเป็นด่านแรกในการสร้างความรับรู้ของลูกค้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ในการใช้คำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องมีนักการตลาดที่เก่งและมีประสบการณ์จะช่วยในการคิดคำเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้ธุรกิจเข้าใกล้เป้าหมายสู่ความสำเร็จได้เร็วมากขึ้น

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3yTkj8J , https://bit.ly/3crH63Z , https://bit.ly/3RJ0wlb  

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)