ฟุตบอลโลก 2022 ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว! และถือเป็นมหกรรมกีฬาใหญ่ระดับโลกที่คนให้ความสนใจอย่างมาก ในปีนี้ “กาตาร์” เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ถึง 18 ธันวาคม 2022 ถือเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่จัดในตะวันออกกลาง และเป็นครั้งที่ 2 ที่จัดในทวีปเอเชียต่อจากฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพร่วม และมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com ได้รวบรวมมาเป็น 10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! ที่เราเชื่อว่าถ้าทุกคนรู้จะยิ่งทำให้การชมฟุตบอลโลกในครั้งนี้สนุกมากยิ่งขึ้น

 

1.ฟุตบอลโลกครั้งแรกใน “ตะวันออกกลาง”
 

ภาพจาก twitter.com/FIFAWorldCup/

เป็นกระแสที่แรงพอสมควรกับการคัดเลือกเจ้าภาพที่สุดท้ายเจ้าภาพจัดแข่งขันคือ “กาตาร์” ทำให้กลายเป็นครั้งแรกในการจัดฟุตบอลโลกในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งประเทศกาตาร์ตั้งอยู่ริมอ่าวเปอร์เซีย มีภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดทำให้เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ต้องจัดแข่งขันในระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เดือนธันวาคม ต่างจากทุกครั้งที่จะจัดในช่วงกลางปีนอกจากนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ยังมีเวลาในการแข่งขันเพียง 29 วันเท่านั้นอีกด้วย

 

2.โลโก้ที่ได้แรงบันดาลใจจาก “เสื้อผ้าชาวอาหรับ”
 

ภาพจาก https://bbc.in/3OpgcIP

สำหรับโลโก้ในฟุตบอลโลก 2022 มีลักษณะคล้ายเลข 8 สื่อถึง 8 สนามที่ใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ และเปรียบกับการที่ทุกทวีปทั่วโลกต้องคล้องเป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากนั้นยังได้รับแรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าที่ชาวอาหรับใส่ในหน้าหนาวและยังตีความได้ถึงเครื่องหมายอินฟินิตี้ หรือความเป็นอนันต์ นอกจากนี้ การออกแบบบนโลโก้ยังมีลักษณะคล้ายกับเนินทะเลทราย เพื่อเป็นตัวแทนของการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง

 

3.แมสคอตชื่อว่า “ลาอีบ”
 

ภาพจาก twitter.com/FIFAWorldCup/

ทุกครั้งที่มีการจัดฟุตบอลโลกต้องมี “แมสคอต” มาสร้างสีสัน ซึ่งในครั้งนี้ แมสคอต ชื่อว่า “ลาอีบ” รูปทรงเป็นผ้าสีขาวและมีหน้าตาคล้ายเด็กผู้ชายสวมชุดประจำชาติกาตาร์ ซึ่งเจ้าภาพนิยามว่า ลาอีบ ไม่มีลักษณะที่แน่นอน แล้วแต่คนจะมองว่าเป็นรูปอะไร โดยชื่อของลาอีบ เป็นภาษาอารบิก แปลว่า ผู้เล่นที่มีทักษะเยี่ยมยอด

 

มีเสียงวิจารณ์อยู่ไม่น้อยกับการที่ฟีฟ่าคัดเลือกให้กาตาร์เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งย้อนในอดีตกาตาร์เป็นทีมฟุตบอลที่ไม่เคยผ่านรอบคัดเลือกไปแข่งขันรอบสุดท้ายได้แม้แต่ครั้งเดียวรวมถึงการที่ไม่มีนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ จึงทำให้ไม่มีคนรู้จักกาตาร์ทีมนี้มากนัก และในการแข่งขันครั้งนี้ก็ถือเป็นการเข้าร่วมแข่งขันรอบสุดท้ายครั้งแรกในฐานะ “เจ้าภาพ” ที่ว่ากันว่ากาตาร์ใช้เวลากว่า 10 ปีในการสร้างทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้

 

 

ในฟุตบอลโลกครั้งนี้จารึกเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งที่เจ้าภาพใช้งบประมาณมากที่สุด รายงานว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกที่กาตาร์อยู่ที่ประมาณ 220,000 ล้านดอลลาร์ ค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งเป็นงบประมาณสำหรับการสร้างสนามใหม่มากกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศที่ใช้งบในการจัดฟุตบอลโลกมากที่สุดได้แก่ บราซิลปี 2014 ประมาณ 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ และ รัสเซียปี 2018 ประมาณ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์

 

6.สนามแข่งขัน 8 แห่งออกแบบอย่างทันสมัย
 

ภาพจาก https://fifa.fans/3UXobPW

ความที่เป็นประเทศเขตร้อน “กาตาร์” จึงต้องสร้างสนามให้มีอุณหภูมิเหมาะสมด้วยการติดแอร์ควบคุมให้ได้อุณหภูมิที่ 20 องศาเซลเซียส รวมถึงมีการออกแบบแต่ละสนามด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นอัล บายต์ สเตเดียม ความจุ 60,000 ที่นั่ง ,สนามลูซาอิล สเตเดียม ความจุ 80,000 ที่นั่ง และเป็นสนามที่ความจุมากที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ หรือจะเป็นสนาม อัล ธุมามา สเตเดียมความจุ 40,000 ที่นั่งที่มีแนวคิดในการใช้กีฬาและเทคโนโลยีรวมกันได้อย่างกลมกลืน บริเวณรอบๆ ของสนามแห่งนี้ยังเป็นสวนสาธารณะพื้นที่ถึง 50,000 ตารางเมตรอีกด้วย

 

7.ทีมแชมป์จะได้เงินรางวัล 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
 

ภาพจาก https://bit.ly/3ViFk6B

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กำหนดเงินรางวัลต่างๆ ในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งทั้ง 32 ทีมจะได้รับเงินเบื้องต้น 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (54 ล้านบาท) สำหรับการเตรียมทีม และหากตกรอบแบ่งกลุ่มก็ยังได้รับอีกทีมละ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (324 ล้านบาท) ส่วนทีมที่คว้าแชมป์โลกจะได้รับ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,512 ล้านบาท) ขณะที่เงินรางวัลรวมของศึกฟุตบอลโลก 2022 อยู่ที่ 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (15,840 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นฟุตบอลโลกที่มีเงินรางวัลรวมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์

 

 

ภาพจาก twitter.com/FIFAWorldCup/

นอกจากเป็นครั้งแรกของฟุตบอลโลกในตะวันออกกลางและจะเป็นครั้งสุดท้ายของการใช้ระบบ “32 ทีม” เนื่องจากในการแข่งขันครั้งถัดไปปี 2026 จะมีการปรับเป็น 48 ทีม ที่จะทำให้มีทีมเข้าร่วมมากขึ้น นั่นหมายความว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมที่ไม่เคยได้เข้าร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมีโอกาสมากขึ้นด้วย

 

 

ภาพจาก twitter.com/FIFAWorldCup/

ในฟุตบอลโลก 2022 นี้เราจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาแทนที่ “VAR” เรียกว่า “เทคโนโลยีล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ” ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างจาก VAR คือการใช้เวลาตัดสินที่น้อยลง โดยปกติ VAR จะใช้เวลาราว ๆ 1 – 2 นาทีเป็นอย่างต่ำ แต่สำหรับเทคโนโลยีการล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติ ใช้เวลา 4 – 5 วินาทีเท่านั้น ด้วยจุดเด่นตรงนี้จะทำให้เกมฟุตบอลนั้นไหลลื่นได้มากขึ้น

 

10.ประเทศไทย “ชาติสุดท้าย” ที่คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด
 

 

สำหรับการคว้าสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 แบบเส้นยาแดงผ่าแปดของไทย ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นเพียง 2 วันเท่านั้น ซึ่งถือเป็นชาติสุดท้ายที่คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดในการแข่งขันคราวนี้ และได้กลายเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ด้วย หลังจากที่ฟุตบอลโลกในครั้งที่ผ่านมา ปี 2018 เวียดนามได้จารึกชื่อว่าเป็นชาติสุดท้ายที่ได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกก่อนที่การแข่งขันเปิดสนามจะเริ่มขึ้น 6 วัน

 

และสำหรับพิธีเปิดฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการมีนักร้องจากเกาหลีใต้อย่าง "จองกุก" จากวง BTS ร่วมโชว์เพลง Dreamers กับ ฟาฮัด อัล คูไบซี นักร้องชื่อดังของเจ้าภาพ ในพิธีเปิดครั้งนี้ ณ สนาม ลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม ประเทศกาตาร์ โดยสนามแห่งนี้มีขนาดความจุ 60,000 ที่นั่ง ถือเป็นการเปิดตัวมหกรรมกีฬาอย่างยิ่งใหญ่ที่เชื่อว่าจะมีอีกหลายเรื่องในการแข่งขันครั้งนี้ที่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการกีฬาอีกมาก

 

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3gk2YAA , https://bit.ly/3ULPdtv , https://bit.ly/3U8Mf1f , https://bit.ly/3TTOi91 , https://bit.ly/3TSg31R , https://bit.ly/3EKQawD , https://bit.ly/3Ephkrp 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)