ทุกคนเคยฟังนิทานเรื่องห่านทองคำไหม? ในชีวิตจริงมันจะดีแค่ไหนถ้าจู่ๆเราก็มีห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ ซึ่งตอนนี้เรื่องเล่าในนิทานได้กลายเป็นเรื่องจริงแล้ว เพราะดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด คือสุดยอดธุรกิจคาร์แคร์ที่มีจุดเด่นคือเครื่องล้างรถอัตโนมัติ ที่มีระบบการบริหารจัดการพร้อมซัพพอร์ทคนลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากธุรกิจที่เป็น “ห่านทองคำ” ให้ทุกคนมีกำไรได้ในระยะยาว

 

หลายแง่มุมน่าสนใจที่เราได้พูดคุยกับคุณไชยะ สุริยาพรพันธุ์ กรรมการบริษัท ที.อาร์โปรดักส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด ที่ก่อตั้งมานานกว่า 27 ปี พูดถึงธุรกิจนี้ว่า “ ตัวเลขคนมีรถยนต์มันเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างต้นปี 2566 ข้อมูลจากกรมขนส่งระบุว่ามีรถที่จดทะเบียนใหม่กว่า 1,363,473 คัน ไม่นับรวมกับรถยนต์ที่มีวิ่งอยู่บนท้องถนนแล้ว จะเห็นตัวเลขที่เยอะมาก ซึ่งการล้างรถเดี๋ยวนี้ต้องเน้นสะอาด รวดเร็ว ประทับใจ ที่สำคัญต้องลดต้นทุนผู้ประกอบการได้ด้วย”

 

“ครอบครัว ดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด” ธุรกิจที่เป็นมากกว่า “แฟรนไชส์”
 

สิ่งที่ดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด ต้องการไม่ใช่การขายแฟรนไชส์เพื่อให้ได้เงินแต่มันคือการขาย Knowhow ซึ่งตัวแบรนด์มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ติดที่ว่าการจะเข้าไปดูแลลูกค้าได้ทั่วประเทศนั้นมันยาก ก็ต้องอาศัยคนสนใจเข้ามาเป็น “ครอบครัวเดียวกัน” คุณไชยะกล่าวว่า “ธุรกิจคาร์แคร์สิ่งสำคัญคือต้องใกล้ชิดลูกน้อง ทำให้ลูกน้องมีแรงใจอยากทำงาน เมื่อแรงงานมีกำลังใจก็ส่งต่อบริการดีๆ ไปถึงลูกค้าได้” โดยดับเบิ้ล ยู บาย วิซาร์ด มีศักยภาพในด้านเครือข่ายที่ชัดเจน มีทั้งแอพพลิเคชั่น มีทั้งระบบข้อมูลออนไลน์ที่จะเชื่อมโยงลูกค้าได้ทั่วประเทศ มีฐานลูกค้าทั่วประเทศกว่า 100,000 ราย

 

ทั้งนี้คนสนใจลงทุนกับดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ดแต่ติดว่าไม่มีทำเล ไม่รู้จะเปิดที่ไหนดี งานนี้ก็ไม่ยาก เพราะดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ดมีดิวพื้นที่ให้เลือกทั้งในสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าชั้นนำ ก่อนที่จะเปิดร้านก็มีทั้งการฝึกอบรมพนักงาน , การวางระบบบริหารจัดการในร้าน พร้อมส่งเสริมด้านการตลาด รวมถึงการดูแลเครื่องล้างรถอัตโนมัติโดยช่างที่มีประสบการณ์มั่นใจในประสิทธิภาพการลงทุนได้อย่างดี

 

คาร์แคร์ยุคใหม่! ลดต้นทุนได้จริง! เพิ่มกำไรได้มากขึ้น
 

ถ้ามองดูธุรกิจคาร์แคร์ในหลายประเทศพบว่ามีความก้าวหน้ามาก และส่วนใหญ่เน้นการล้างแบบอัตโนมัติ ซึ่งในประเทศไทยธุรกิจนี้ยังโตได้อีกมาก และดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด ก็เป็นผู้นำตัวจริงในด้านนี้โดยความน่าสนใจที่เหมาะสมกับการเลือกลงทุนได้แก่

1.เครื่องล้างรถอัตโนมัติที่ล้างรถรวดเร็ว 1.30 นาที/คัน
 

เป็นรูปแบบของ Tunnel Car Wash หรืออุโมงค์ให้รถเคลื่อนที่เข้าไปแล้วมีโปรแกรมในการล้างรถ ข้อดีของระบบนี้คือประสิทธิภาพในการล้างประมาณ 1.30 นาที/คัน รับรถลูกค้าในชั่วโมงเร่งด่วน หรือสามารถรับลูกค้าต่อวันได้มากขึ้นดีกว่าการล้างรถแบบธรรมดาที่ใช้เวลาในการล้างสูงมาก แถมระบบล้างรถอัตโนมัติของดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ดเป็นระบบที่คิดค้นมาอย่างดีมั่นใจในเรื่องความสะอาดและไม่ทำให้รถมีริ้วรอย

2.ลดต้นทุนค่าแรงงาน
 

การลงทุนติดตั้งเครื่องล้างรถอัตโนมัติประหยัดต้นทุนค่าบุคลากร ไม่ต้องจ้างพนักงานในการทำความสะอาดเยอะเหมือนคาร์แคร์ทั่วไปใช้พนักงานเพียง 1-2 คนก็บริหารจัดการได้ ซึ่งปัจจุบันปัญหาเรื่องแรงงานเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายคนเริ่มธุรกิจคาร์แคร์ไม่ได้ ดังนั้นการลงทุนกับดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด จึงหมดปัญหาในเรื่องนี้

3.มีกำไรจากการลงทุนได้มากขึ้น

 

เมื่อสามารถลดต้นทุนการบริหารจัดการได้ทั้งค่าแรง ค่าอุปกรณ์ต่างๆ และยังสามารถรับลูกค้าได้มากขึ้นทำให้มีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 100 คัน (ขึ้นอยู่กับทำเล) ซึ่งถือเป็นรายได้ที่สูงมาก

4.ไม่มีเงินทุนก็มีบริการจัดหาสินเชื่อเพื่อการลงทุนให้
 

หลายคนที่เป็นกังวลว่าอยากลงทุนแต่ไม่มีเงินจะเริ่มต้น ทางดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด มีทีมงานคุณภาพในการให้คำปรึกษาเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น

5.ธุรกิจเพิ่มยอดขาย เพิ่มรายได้ให้กับคนที่มีธุรกิจอยู่แล้ว
 

คนสนใจลงทุนจำนวนไม่น้อยเลือกดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ดเป็นออฟชั่นเพิ่มให้กับธุรกิจเช่นบางคนมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ก็เพิ่มคาร์แคร์ของดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ดเข้าไปทำให้ธุรกิจมีความหลากหลายและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้นด้วย

 

ลงทุนเริ่มต้น 2.99 ล้าน “ตั้งเป้าหมาย 3 ปี คืนทุน”
 

ถ้าเงินพร้อม ใจพร้อม การลงทุนกับดับเบิ้ลย บาย วิซาร์ด ได้กำไรแน่ เริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท ผลตอบแทนมากกว่า 100% เพราะไม่ใช่แค่การล้างรถแต่ยังมีรายได้จากบริการอื่นอีกเช่นบริการเคลือบแก้ว , ขัดเคลือบสี , ขัดเคลือบเบาะหนัง , ซักเบาะผ้า , บริการซักพรมพื้นรถ เป็นต้น โดยทางแฟรนไชส์ได้คำนวณต้นทุนทุกอย่างแสดงเป็นตัวเลขให้เห็นชัดเจนว่าแนวโน้มและโอกาสคืนทุนเป็นอย่างไร ให้คนลงทุนได้มองเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น 

 

เฉลี่ยในการคืนทุนอยู่ที่ 3 ปี แต่สัญญาแฟรนไชส์มีทั้งหมด 9 ปีนั่นแสดงว่าอีก 6 ปีต่อจากนั้นคือโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้น และแน่นอนว่าดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด ก็จะเป็นผู้ดูแลและสนับสนุนคนลงทุนเป็นอย่างดี เน้นคำว่าคุณภาพเป็นสำคัญให้ทุกสาขามีบริการที่ประทับใจลูกค้า ปัจจุบันมีการขยายสาขาทั่วประเทศกว่า 64 แห่งและตั้งเป้าในปี 2566 นี้จะขยายสาขาได้ครบ 70 แห่งทั่วประเทศด้วย

 

 

ภาพจาก แฟรนไชส์ดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด

ถ้าจะมองธุรกิจที่พร้อมแบบสำเร็จรูปจริงๆ คงไม่มีอะไรดีกว่าการลงทุนกับดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด คุณไชยะได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “เรามีประสบการณ์ในธุรกิจมานานมาก ทั้งระบบบริหารจัดการ , ความพร้อมในด้านฐานข้อมูลลูกค้า , การส่งเสริมการตลาด , การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เรามั่นใจว่าคือดีที่สุด ก็เหมือนกับว่าเรามีห่านทองคำ 1 ตัวที่ออกลูกได้ ซึ่งก็อยากให้คนลงทุนได้เอาลูกห่านทองคำนี่ไปลงทุนต่อ โอกาสทำกำไรมันชัดเจนมาก เรามีทุกอย่างให้พร้อมแค่ตัดสินใจมาลงทุน กำไรยังไปได้อีกยาว”

 

ทั้งนี้การเลือกลงทุนแฟรนไชส์คุณไชยะมองว่าอยากให้ดูที่ความสำเร็จของแฟรนไชส์นั้น ดูว่าเขาสำเร็จอย่างไร เขาขายแฟรนไชส์เพราะเขาอยากได้เงิน หรืออยากได้พาร์ทเนอร์ธุรกิจ เขาดูแลเราดีแค่ไหน ส่งเสริมอะไรให้เราได้บ้าง ซึ่งดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ดชัดเจนในเรื่องเหล่านี้มาก ด้วยมีเป้าหมายที่ต้องการให้ “ครอบครัวดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด” ประสบความสำเร็จไปพร้อมกัน นี่คือธุรกิจตามน้ำ ถือเป็นธุรกิจที่ไม่สวนกระแส และมีอัตราการเติบโตที่ไปได้อีกไกลมาก ขอแค่ตั้งใจจริงที่จะมาทำธุรกิจนี้ ที่เหลือดับเบิ้ลยู บาย วิซาร์ด ช่วยเหลือจัดการ ดูแลให้ทุกอย่าง การันตีว่าคุ้มค่าทุกการลงทุนแน่นอน

 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)