บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
523
2 นาที
20 พฤศจิกายน 2567
ตัวเล็กแต่ทรงพลัง! โลตัส โกเฟรซ! มินิบิ๊กซี! ร้านเล็ก ยอดขายเงินล้าน
 

โมเดล “ร้านขนาดเล็ก” ยุคนี้อาจทรงพลังกว่า “ร้านขนาดใหญ่” แม้แต่ธุรกิจค้าปลีกทั้งหลายก็หันมาใช้โมเดลร้านขนาดเล็กเจาะกลุ่มลูกค้า เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น 
 
มองเห็นตัวอย่างกันชัดๆ อย่าง บิ๊กซีที่ใช้โมเดล “มินิบิ๊กซี” เข้าถึงลูกค้า เปิดปีละ 200-300 สาขา

 
หรือบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ที่จะใช้โมเดลสาขาเล็ก “โลตัส โก เฟรช” เปิดเพิ่มปีละ 120-150 สาขา
 
เช่นเดียวกับ “ซีเจ มอร์” ค้าปลีกโมเดลใหม่ที่เป็นมากกว่าร้านสะดวกซื้อทั่ว ๆ ไป เปิดเพิ่มปีละประมาณ 250 สาขา
 
 
รวมถึง 7-Eleven ที่ปรับโมเดลร้านสะดวกซื้อให้มีความครบวงจรตอบโจทย์ลูกค้าในทุกพื้นที่ได้มากขึ้น
 
ประการแรกของการปรับลดขนาดร้านจากใหญ่ไปเล็กคือการประหยัดงบในด้านการลงทุน แม้กระทั่ง OR ยังมีโมเดล “ปั๊มชุมชน” ที่ลดเงินลงทุนได้ถึง 30% จากปกติ 35-40 ล้านก็เหลือประมาณ 10-20 ล้าน เป็นต้น
 
คำถามต่อมาคือเมื่อลดขนาดร้านลงมา โอกาสสร้างยอดขาย จะดีแค่ไหน?
 
 
หนังสือเรื่อง The Millionaire Fastlane กล่าวถึงวิธีการเป็นเศรษฐีเงินล้านไว้อย่างเรียบง่ายและน่าสนใจว่า “TO MAKE MILLIONS, YOU MUST IMPACT MILLIONS” แปลก็คือ “ถ้าหากคุณอยากได้เงินล้าน คุณก็ต้องทำในสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้าน” นั่นหมายความว่าขนาดร้านเล็กหรือใหญ่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สำคัญว่าเราขายได้มากแค่ไหน 
 
ลองคำนวณว่า
 
ถ้าเราขายของกำไรชิ้นละ 1,000 บาท ให้คน 1,000 คน เราจะมีกำไร 1,000,000 บาท
 
แต่ถ้าเราขายของกำไรชิ้นละ 1 บาท ให้คน 1,000,000 คนเราก็จะได้กำไร 1,000,000 บาทเช่นกัน
 
หรือให้เร็วขึ้นอีกหน่อย ขายของกำไรชิ้นละ 10 บาท ให้คน 100,000 คน เราก็ได้ 1,000,000 บาทเช่นกัน
 
 
ถ้าดูจากตัวอย่างของร้านค้าปลีกเป็นหลักจะเห็นว่าร้านเล็กนี่ดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่าร้านใหญ่ จำนวนคนที่เข้าร้านก็มากกว่า แม้คู่แข่งจะมากแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ และต้องยอมรับว่านี่คือการตลาดแบบโลกยุคใหม่ที่ต่างไปจากอดีตมาก
 
สอดคล้องกับสูตรวิธีการหาเงินล้าน = กำไรต่อหน่วย x จำนวนลูกค้า และแน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องตั้งราคาสูงเพื่อเอากำไรเยอะ แต่เน้นขายในปริมาณมากเพื่อให้ได้กำไรเยอะจะดีกว่า เพราะยุคนี้คนส่วนใหญ่ชอบสินค้าที่ราคาไม่แพง จะกระตุ้นให้คนอยากซื้อได้มากขึ้น
 
เมื่อเป็นโมเดลขนาดเล็กต้นทุนเราต่ำลง การตั้งราคาก็สมเหตุสมผลกับราคาที่ลูกค้าจ่ายไหว ยังไม่รวมวิธีการแบบ Online to Offline โดยนำสาขามาเป็นฐานการจัดส่งสินค้าออนไลน์แก่ผู้บริโภคในทำเลใกล้เคียง ทำให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายได้เพิ่มขึ้น
 
 
วิธีการที่ธุรกิจขนาดใหญ่ “ลดขนาดร้าน” แต่ไม่ได้ลดในเรื่องคุณภาพหรือบริการ หากแต่ยุคนี้คือการแข่งกันที่ความเร็วในการเข้าถึงลูกค้าว่าใครจะทำได้ดีกว่า ดังนั้นการเปิดร้านขนาดเล็กจึงเป็นอีกวิธีสร้างเงินล้านให้กับคนทำธุรกิจได้ 
 
ในมุมของคนตัวเล็กๆ ที่อาจยังแค่เริ่มต้นก็มีสิทธิ์ขายของกำไรไปแตะหลักล้านได้เหมือนกัน อย่าไปกลัวว่า มีคู่แข่ง แล้วจะขายได้ยังไง เรามาทีหลัง เขามาก่อน จะสู้เขาได้ยังไง ก้าวแรกที่เราต้องทำคือ “ขายอะไรก็ได้” ที่เราถนัด เพราะสินค้าทุกชนิดมีฐานลูกค้าของตัวเอง

สำคัญคือ “ไอเดียการขาย” ที่ต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าถ้าคิดหาอะไรใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมไม่ได้ ก็ลองขายในสิ่งที่พอคิดออก สิ่งที่มีคนอยากได้ แล้วมานั่งหาวิธีการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ที่สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจำนวนมากดู เราก็สามารถประสบความสำเร็จตามสูตรเงินล้านได้เหมือนกัน

ถ้ายังไม่เห็นภาพจะลองนึกไปถึงสินค้าดูบ้างก็ได้อย่าง Lobo ขายซองละ 20 บาท แต่ก็ยังมีรายได้มากถึง 1,670 ล้านบาท หรือแม้แต่กระดาษทิชชู่ ที่ขายห่อละ 20 บาทเช่นกัน ก็ยังสร้างรายได้มากถึง 500 ล้านบาท 
 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
591
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
482
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
460
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
398
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
383
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด