บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
512
2 นาที
28 พฤศจิกายน 2567
รวมเทคนิค ออกแบบ “โลโก้” จดลิขสิทธิ์ได้แน่
 

เครื่องหมายการค้า และ โลโก้ มีข้อแตกต่าง คือ เครื่องหมายการค้า สามารถเป็นได้ทั้งข้อความ รูปภาพ ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ แต่โลโก้ มักเป็นภาพกราฟิก ประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ ตัวอักษร หรือภาพประกอบ ทั้งโลโก้และเครื่องหมายการค้า หากมีการจดลิขสิทธิ์จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายป้องกันการโดนลอกเลียนแบบได้ และการปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายอย่างถูกต้อง ยังได้สิทธิ์ควบคุม ดูแลการใช้งาน เครื่องหมายการค้าและโลโก้ ดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว 
 
คนอื่นจะไม่สามารถนำไปดัดแปลง ก็อปปี้ใดๆ ได้อีก ยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าของโลโก้เท่านั้น

3 ประเภทของโลโก้ที่ต้องจดทะเบียน


 
1. โลโก้บริษัท ที่ไม่มีของขาย มีแต่บริการ
 
ถ้าเป็นการใช้โลโก้อย่างเครื่องหมายการค้า หมายถึงใช้เพื่อสื่อให้เห็นถึงว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ทำอะไร ขายอะไร หวังผลทางการค้าก็ต้องจดทะเบียนโลโก้เป็นเครื่องหมายการค้า เช่นร้านซ่อมรถ , ร้านตัดผม หรือโลโก้บริษัท เป็นต้น

2. โลโก้บริษัท ที่มีของขายและใช้ชื่อตรงกัน

สินค้าบางประเภทใช้ชื่อสินค้าและโลโก้แบบเดียวกัน ก็จำเป็นต้องจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้า เพราะเราใช้อย่างเครื่องหมายการค้า เช่น pepsi 

3. โลโก้บริษัท ที่มีของขายและใช้ชื่อไม่ตรงกัน
 
ในกรณีที่สินค้าและชื่อบริษัทไม่ได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนโลโก้ก็ได้เพราะเราไม่ได้ใช้อย่างเครื่องหมายการค้า แต่แนะนำให้ยื่นจดทะเบียนไว้เพื่อป้องกันคนอื่นนำไปใช้ เช่น บริษัทยูนิลิเวอร์ ที่มีสินค้าหลายอย่าง เป็นต้น
 
3 เทคนิคออกแบบโลโก้ “จดทะเบียนได้แน่”

1.มีลักษณะเป็นคำบ่งเฉพาะไม่มีความหมายใดๆ 
 

โลโก้ต้องเป็นเครื่องหมายที่ทำให้มีลักษณะพิเศษ แต่ต้องไม่สื่อความหมายโดยตรงเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ว่าสินค้าหรือบริการนี้แตกต่างจากสินค้าหรือบริการจากแบรนด์อื่น เช่น เป็นคำประดิษฐ์ที่ไม่มีความหมายตามพจนานุกรม ไม่มีลายมือชื่อ หรือภาพเจ้าของโลโก้ เช่น Kodak , Google , WEDRINK , BING CHUN , Ikea เป็นต้น

2.ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
 
คำว่าลักษณะที่ผิดกฎหมายเช่น ไม่เป็นเครื่องหมายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ , ธงส่วนพระองค์ , ธงประจำชาติ , เครื่องหมายของหน่วยงาน เป็นต้น

3.ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายของบุคคลอื่น
 
ถ้าจะให้โลโก้ที่ออกแบบผ่านฉลุยสำคัญคือต้องไม่ไปเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้ว เพื่อป้องกันความสับสนที่ทำให้ผู้คนจำผิดในแหล่งกำเนิดหรือความเป็นเจ้าของสินค้าและบริการได้
 
ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
 

ขั้นแรกต้องตรวจค้นฐานข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อดูว่ามีโลโก้หรือเครื่องหมายการค้าซ้ำหรือคล้ายกันหรือไม่ โดยสามารถขอตรวจค้นข้อมูลดังกล่าวได้ทางอินเทอร์เน็ต (ไม่เสียค่าธรรมเนียม) แต่หากไปที่ศูนย์บริการทรัพย์สินทางปัญญาจะมีค่าธรรมเนียมรายชั่วโมง (ประมาณ 200 บาท)

นอกจากนี้ควรมีเอกสารพร้อม เช่น หนังสือรับรองนิติบุคคล , เอกสารขอจดทะเบียนโดยภาพเครื่องหมายการค้าหรือโลโก้ที่ต้องการจด , เอกสารบรรยายรูปร่างเครื่องหมายการค้า , หากเป็นการจดทะเบียนเครื่องหมายร่วม ต้องเตรียมบัญชีรายชื่อ ผู้มีสิทธิใช้ และเอกสารหลักฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของผู้มีสิทธิใช้เครื่องหมายร่วม
 
ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมรายการสินค้าสำหรับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย แบบไม่เกิน 5 รายการ ยื่นจดทะเบียนชำระ 5,000 บาท อนุมัติรับจดทะเบียนชำระ 3,000 บาท แต่ถ้าเป็นแบบเกิน 5 รายการขึ้นไปไม่จำกัด (ไม่ควรเกิน 30-100 รายการ )ยื่นจดทะเบียนชำระ 9,000 บาท อนุมัติรับจดทะเบียนชำระ 5,400 บาท
 
สังเกตได้ว่าหลายๆ ธุรกิจพยายามสร้างโลโก้ของตนเองออกมาเพื่อหวังกลายเป็นภาพจำของผู้บริโภคทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ก็ตาม ซึ่งโลโก้เหล่านี้สามารถออกแบบได้อย่างหลากหลายทั้งการใช้ภาพถ่าย ภาพวาด ตัวอักษร ตัวเลข สีสัน ลายมือชื่อ ฯลฯ ยิ่งมีจุดเด่นหรือลูกเล่นสะดุดตา ช่วยสร้างการเติบโตและการจดจำได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ผู้ประกอบการก็ต้องรู้จักคุ้มครองสิทธิของตัวเองตามกฏหมายด้วย

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
413
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด