บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ยอดนิยม
1.0K
3 นาที
20 พฤศจิกายน 2567
“กาแฟพันธุ์ไทย” กลยุทธ์สร้างแฟรนไชส์จากความคุ้มค่าบัตรสมาชิก PT MAX CARD PLUS (บัตรแดง)

 
วันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธความสำเร็จของ “กาแฟพันธุ์ไทย” แบรนด์แฟรนไชส์ร้านกาแฟสัญชาติไทย หนึ่งในธุรกิจ Non-Oil ภายใต้การบริหารของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เจ้าของปั๊มน้ำมัน PT กว่า 2,200 แห่งทั่วประเทศ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2555 สาขาบางปะหัน ชูความเป็นแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทย
 
ความสำเร็จของแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย คือ การแซงคู่แข่งแฟรนไชส์กาแฟอินทนิลที่มีจำนวน 1,005 แห่ง ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของตลาดกาแฟในบ้านเรา ด้วยจำนวนสาขา 1,150 แห่ง เป็นรองแค่ “คาเฟ่ อเมซอน” ที่มีสาขากว่า 4,277 แห่ง

กลยุทธ์สู่ความสำเร็จของ “กาแฟพันธุ์ไทย” คืออะไร ทำไมแรงจัด! แซงขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของแบรนด์ร้านกาแฟในไทยได้  
 
จุดเริ่มต้นกาแฟพันธุ์ไทย
 

ร้านกาแฟพันธุ์ไทยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2555 ในปั๊มน้ำมัน PT สาขาบางปะหัน ให้บริการลูกค้าที่ขับรถและเดินทางผ่านไปมาได้หยุดพักผ่อนและดื่มกาแฟดีที่มีคุณภาพ โดยกาแฟพันธุ์ไทยเลือกใช้เมล็ดกาแฟ “ดอยช้าง” เมล็ดกาแฟอาราบิก้าของไทยที่ได้รับมาตรฐานติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก ทำให้ได้กาแฟที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น นุ่มลิ้น
 
แบรนด์แฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทยมีความโดดเด่นไม่เหมือนร้านกาแฟสมัยนิยมทั่วไป สไตล์การออกแบบตกแต่งร้านเน้นความเป็นไทยแท้ ทั้งโลโก้มีที่มาจากเอกลักษณ์ของประเทศไทย คือ “ช้างไทย ศาลาไทย และดอกราชพฤกษ์” และข้อความสนับสนุนแบรนด์ “เข้ม เท่ จริงใจ แบบไทยแท้ๆ” รวมถึงสีของแบรนด์ที่เป็น “สีน้ำตาลเข้มและสีของไม้”
 
ว่ากันว่า DNA ที่ถูกถ่ายทอดมาจากแบรนด์แม่อย่าง PT มาสู่ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ก็คือ การเป็นแบรนด์ผู้ท้าชิงที่ผู้บริโภครักมากที่สุด ทำให้เราเห็นการทำตลาดในช่วงที่ผ่านมาของกาแฟพันธุ์ไทย แม้ตอนนั้นเป็นเบอร์ 3 ของตลาดร้านกาแฟในบ้านเรา กลับมาแซงขึ้นเป็นเบอร์ 2 ได้ และมีการนำสนอความแปลกใหม่ที่สร้างความแตกต่างในตลาดจนสามารถจับต้องได้
 
กลยุทธ์การตลาดผ่านบัตร Max Card Plus สีแดง
 

ภาพจาก www.facebook.com/punthaicoffee
 
แฟรนไชส์ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ผลักดันตัวเอง เข้าไปอยู่ในทุกโมเม้นต์ของความต้องการดื่มกาแฟของลูกค้าทุกคน หรือ Every Where Every One เพราะจากการรีเสิร์ชของพันธุ์ไทยพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ยังมองว่าพันธุ์ไทยเป็นร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน PT ต่อจากนี้กาแฟพันธุ์ไทยจะให้น้ำหนักการขยายสาขานอกปั๊ม PT มากขึ้น
 
ที่ผ่านมากาแฟพันธุ์ไทยขยายสาขาได้ครอบคลุมพื้นที่ 74 จังหวัด ขาดจังหวัดที่ยังไม่ได้เข้าไป คือ ยะลากับนราธิวาส  สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ การขยายสาขาส่วนหนึ่งได้มีการนำข้อมูลจากบัตร Max Card ที่ปัจจุบันมีฐานลูกค้าอยู่ที่ 23 ล้านราย
 
รวมถึงตัวบัตร Max Card Plus สีแดง ที่มีคนถืออยู่ราว 1 ล้านราย เข้ามาเป็นตัวช่วยในการขยายสาขากาแฟพันธุ์ไทย โดยจะมีโมเดลของร้าน 3 รูปแบบ คือสาขา Stand Alone, สาขาในรูปแบบ Built-In ในอาคาสำนักงาน และสาขาที่เป็น Kiosk
 
ลูกค้าของร้านกาแฟพันธุ์ไทย 70% จะเป็นลูกค้าที่ถือบัตร Max Card Plus สีแดง ซึ่ง Royalty Platform ตัวนี้จะสามารถเข้ามาช่วยสร้างฐานลูกค้าประจำให้กับร้านกาแฟพันธุ์ไทยได้เป็นอย่างดี และจากการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยเฉพาะส่วนลดที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ทั้งส่วนลดค่าน้ำมัน 50% จำนวน 200 ลิตร/เดือน และเครื่องดื่มร้านกาแฟพันธุ์ไทย 50% จำนวน 10 แก้ว/เดือน และอื่นๆ ช่วงดึงดูดลูกค้า Max Card Plus สีแดง เข้ามาใช้บริการในปั๊มเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
 
ความคุ้มค่าของบัตร Max Card Plus สีแดง
  • ส่วนลดค่าเครื่องดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกเมนู 50% จำนวน 10 แก้วต่อเดือน
  • สมมติซื้อเครื่องดื่มในร้านกาแฟพันธุ์ไทยวันละ 60 บาท/แก้ว
  • ซื้อ 1 เดือน 60 x 30 = 1,800 บาท
  • ซื้อ 1 ปี 1,800 x 12 = 21,600 บาท 
  • รับส่วนลด 50% จำนวน 10 แก้วต่อเดือน 30 x 10 = 300 บาท
  • รับส่วนลด 50% ต่อปี 300 x 12 = 3,600 บาท
  • หักส่วนลดต่อเดือน 1,800 - 300 = 1,500 บาท
  • หักส่วนลดต่อปี 21,600 - 3,600 = 18,000 บาท
นั่นก็เท่ากับว่า 1 เดือน ลูกค้าร้านกาแฟพันธุ์ไทยประหยัดเงิน 300 บาท ถ้า 1 ปี ก็ 3,600 บาท
 
ถ้าหักค่าสมัครสมาชิกบัตร 599 บาท/ปี ก็ยังประหยัดถึง 3,001 บาท/ปี
 
ยังไม่รวมส่วนลดอื่นๆ เช่น ส่วนลดน้ำมัน 50 สตางค์/ลิตร จำนวน 20 ลิตร/เดือน อีกด้วย
 
เรียกได้ว่า บัตร PT Max Card Plus สีแดงแรงจัด! คุ้มเต็มแมกซ์
 
3 โมเดลเปิดร้ายกาแฟพันธุ์ไทย

1.Kiosk
  • ขนาดพื้นที่ เริ่มต้นที่ 9 ตรม.
  • ค่าก่อสร้าง,งานตกแต่ง,งานระบบ 378,000 บาท
  • ค่าออกแบบพื้นที่ 50,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์ภายในร้าน 400,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 150,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน 80,000 บาท
  • เงินประกันแบรนด์ 200,000 บาท
#รวมราคาเริ่มต้น (ไม่รวม VAT) 1,308,000 บาท
 
2.Built-In
  • ขนาดพื้นที่ เริ่มต้นที่ 35 ตรม.
  • ค่าก่อสร้าง,งานตกแต่ง,งานระบบ 800,000 บาท
  • ค่าออกแบบพื้นที่ 50,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์ภายในร้าน 750,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 150,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน 80,000 บาท
  • เงินประกันแบรนด์ 200,000 บาท
#รวมราคาเริ่มต้น (ไม่รวม VAT) 2,030,000 บาท
 
3.Stand Alone
  • ขนาดพื้นที่ เริ่มต้นที่ 40 ตรม.
  • ค่าก่อสร้าง,งานตกแต่ง,งานระบบ 1,320,000 บาท
  • ค่าออกแบบพื้นที่ 50,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์ภายในร้าน 750,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 150,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน 80,000 บาท
  • เงินประกันแบรนด์ 200,000 บาท
#รวมราคาเริ่มต้น (ไม่รวม VAT) 2,500,000 บาท
 
ทุกโมเดลการลงทุนแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในส่วนอื่นๆ
  • ROYALTY FEE + MARKETING FEE 3% (ของยอดขาย /เดือน)
  • ค่าเช่าเครื่อง POS 2,000 บาท /เดือน (หรือ 24,000 /ปี)
  • ยังไม่รวมค่าวัตถุดิบเปิดร้านครั้งแรก ประมาณ 120,000 - 200,000 ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่สาขา
  • อายุสัญญา 6 ปี (ได้รับเงินประกันคืน)
ซื้อแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทยวันนี้ คืนทุนเมื่อไหร่?
 

เปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่คนนิยมมี 3 โมเดลให้เลือกลงทุน ได้แก่ คีออส บิ้วอิน และ สแตนด์อโลน ใช้เงินลงทุนตั้งแต่ 1.93 – 3.63 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งเป็นราคารวมค่าวัตถุดิบเปิดร้านครั้งแรก 200,000 บาท
 
ระยะสัญญา 6 ปี และ ค่า Royalty fee และ Marketing Fee 3% + 3% = 6%
 
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าร้านกาแฟพันธุ์ไทย นอกจากจะมีเครื่องดื่มชา กาแฟขายแล้ว ยังขายเบเกอรี่และขนมอบ (Bakery & Pastry), ขนมแปรรูปจากชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ (Pack Food), สินค้าที่ระลึกและของพรีเมียมจากแบรนด์ (Merchandising) รวมถึงอุปกรณ์การชงกาแฟ เมล็ดกาแฟและกาแฟดริปพร้อมดื่มที่บ้าน (Home Coffee Product)
  • ขอประมาณการราคากาแฟ+ขนมอื่นๆ เฉลี่ย 70 บาท/แก้ว/บิล
  • ต้นทุนกาแฟประมาณ 30%
  • ค่า Royalty fee และ Marketing Fee 3% + 3% = 6%
  • เอาต้นทุนกาแฟ 30% + ค่าสิทธิ์ 6% = 36%
  • ขายกาแฟราคา 70 บาท/แก้ว มีต้นทุน = 25.2 ปัดเป็น 26 บาท/แก้ว
  • กาแฟหนึ่งแก้วมีกำไร 44 บาท
  • ประมาณการเฉลี่ยวันหนึ่งขายกาแฟได้ 200 แก้ว
  • ยอดขายต่อวัน 44 x 200 = 8,800 บาท
#ยอดขายต่อเดือน 8,800 x 30 = 264,000 บาท (กำไรยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย)
 
ค่าใช้จ่าย
  • ประมาณการค่าเช่าอยู่ที่ 50,000 บาท/เดือน อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้นะคับ
  • ค่าจ้างพนักงาน 4 คน ประมาณ 52,000 บาท/เดือน
  • ค่าน้ำ และ ค่าไฟอยู่ที่ 10,000 บาท/เดือน
  • ค่าซ่อมบำรุงในร้าน 5,000 บาท/เดือน
  • รวมค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือน 117,000 บาท
#กำไรสุทธิต่อเดือน 264,000 – 117,000 = 147,000 บาท/เดือน (ยังไม่หักเงินเดือนตัวเอง) 
 
สมมติถ้าเลือกลงทุนแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทยทั้ง 3 รูปแบบ  
  • Stand Alone ลงทุน 3,630,000 บาท หาร กำไรสุทธิ 147,000 บาท = คืนทุน 24.6 เดือน
  • Built in ลงทุน 2,530,000 บาท หาร กำไรสุทธิ 147,000 บาท = คืนทุน 17.2 เดือน
  • Kiosk ลงทุน 1,930,000 บาท หาร กำไรสุทธิ 147,000 บาท = คืนทุน 13.1 เดือน 
เป้าหมายการขยายสาขาแฟรนไชส์ “กาแฟพันธุ์ไทย”
 

เป้าหมายการขยายสาขาของแฟรนไชส์ร้านกาแฟพันธุ์ไทย จะให้ความสำคัญกับการขยายสาขานอกปั๊มน้ำมัน PT มากขึ้น เพราะจะช่วยขยายฐานลูกค้าแบรนด์พันธุ์ไทยให้เติบโตมากขึ้น โดยจากผลการทำวิจัยพบว่า คนยังมองแบรนด์พันธุ์ไทยเป็นร้านกาแฟที่อยู่ในปั๊ม PT การขยายออกมานอกปั๊มมากขึ้นจะเข้ามาช่วยเปลี่ยนภาพดังกล่าวได้ทางหนึ่ง
 
ปัจจุบันกาแฟพันธุ์ไทยมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,150 สาขา ในจำนวนนั้นเป็นแฟรนไชส์ 530 สาขา เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเพิ่งเริ่มต้นขายแฟรนไชส์กับผู้สนใจเมื่อราว 2 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนร้านที่เปิดในปั๊ม 60% และร้านนอกปั๊ม 40% มีเป้าหมายในการขยายเพิ่มสิ้นปี 2567 อีก 400 สาขา มียอดขาย 2,600 ล้านบาท ภายในปี 2570 หรือในอีก 3 ปี ขยายให้ครบ 5,000 สาขา
 
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ PT ยังมองว่าคนไทยยังมีการดื่มกาแฟต่อหัวต่ำกว่าในหลายประเทศ คนไทยดื่มเฉลี่ยวันละไม่ถึง 1 แก้ว หรือ 300 แก้ว/คน/ปี ขณะที่ญี่ปุ่นมีตัวเลขอยู่ที่ 400 แก้ว และยุโรปสูงถึง 600 แก้ว/คน/ปี

นั่นจึงทำให้ PT วางกลยุทธ์สร้างแฟรนไชส์ร้าน “กาแฟพันธุ์ไทย” ให้ครบ 5,000 สาขาภายในปี 2570 โดยขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดผ่านความคุ้มค่าของบัตรสมาชิก PT MAX CARD PLUS (บัตรแดง)

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
885
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
624
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
554
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
513
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
495
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
476
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด