ส่อง! อาณาจักรชายสี่บะหมี่เกี๊ยว เตรียม IPO ปี 2570 
 

ท่านผู้ชมรู้หรือไม่ว่า ภาพรวมตลาดสตรีทฟู้ดในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท แต่ที่ผ่านมาเจอมรสุมซัดกระหน่ำไปหลายลูก ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจหลังการระบาดโควิด-19 อยู่ในสภาวะตึงตัว ประชาชนที่มีรายได้น้อยกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2568 คาดว่าสถานการณ์จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น 
 

ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ผู้คนหันมาประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ลดกินข้าวนอกบ้าน เลือกทำอาหารกินที่บ้านแทน ทำให้การเติบโตของตลาดชะลอตัวลง และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะฟื้นตัวขึ้น 
 

แต่ยังมีธุรกิจร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่มีรายได้โตสวนกระแส นั่นคือ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” แฟรนไชส์สตรีทฟู้ดมหาชนของเมืองไทย โดยในปี 2566 มีรายได้ 1,120 ล้านบาท กำไรสุทธิ 113.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 มีรายได้ 1,085 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.2 ล้านบาท นับว่าเป็นการปูรากฐานรายได้ไปสู่หลักพันล้านบาท ก่อนที่จะ IPO ในปี 2570 
 

จุดเริ่มต้น...ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว
 

ภาพจาก ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว

จุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” เริ่มขึ้นเมื่อปี 2535 “คุณพันธ์รบ กำลา” ได้ขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสพร้อมกับขายบะหมี่เกี๊ยว ขายไปได้สักระยะหนึ่ง เห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบกินบะหมี่มากกว่า 
 

ในระหว่าง 2 ปีที่ขายนั้น ได้พบกับปัญหาสำคัญ เช่น เส้นบะหมี่ขาด เส้นลอย แผ่นเกี๊ยวที่ได้ขนาดไม่เท่ากัน เป็นต้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดที่จะผลิตเส้นบะหมี่-แผ่นเกี๊ยวเอง
 

ต่อมาในปี 2537 คุณพันธุ์รบ ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรผลิตเส้นบะหมี่-แผ่นเกี๊ยว และทดลองสูตรการทำเส้นบะหมี่-แผ่นเกี๊ยวจนเป็นที่น่าพอใจ และได้ตั้งชื่อร้านบะหมี่ที่ขายอยู่ว่า “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ก่อนจะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ไปทั่วประเทศ 

พัฒนาคุณภาพมาตรฐาน

ภาพจาก ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว

 

ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์สตรีทฟู้ดของคนไทย มีสาขาอยู่ราวๆ 4,500 สาขา กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงในเรื่อง “คุณภาพมาตรฐาน” ให้เหมือนกันทุกสาขา ถือเป็นเรื่องเซนซิทีฟ โดยในอนาคตชายสี่จะเข้มงวดในเรื่องมาตรฐานกับแฟรนไชส์ซีแต่ละสาขามากขึ้น รวมถึงพยายามทำให้ต้นทุนถูกลง ทำให้คนซื้อแฟรนไชส์มีกำไรขึ้น 
 

ชายสี่ฯ วางเป้าหมายกับการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการของแฟรนไชส์ โดยมีแผนที่จะปรับปรุงมาตรฐานของแฟรนไชส์ทั้งหมดให้มีความสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เป็นหนึ่งเดียวกันทุกสาขา

แบรนด์ในเครือชายสี่ฯ 
 

ส่วนธุรกิจชายสี่ คอร์ปอเรชั่นตอนนี้มีร้านอาหารอยู่ 11 แบรนด์ แบ่งเป็นแบรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์หลักๆ 6 แบรนด์ อาทิ 
 

ส่วนอีก 4 แบรนด์ ชายสี่ฯ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในนั้น ก็คือ 

• ชายสี่พลัส
• แบรนด์ขนมหวานพรีเมียม BRIX Dessert Bar
• แบรนด์ “หมูสองชั้น หมูกระทะ”
• ก๋วยเตี๋ยวเรือ เสือร้องไห้ มีต้นกำเนิดจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการขยายสู่การเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ชูคอนเซปต์ก๋วยเตี๋ยวเรือพรีเมียมที่มี “เนื้อวัวพันธุ์ไทย” มุ่งออกแบบร้านและนำเสนอในสไตล์ใหม่ เน้นเปิดทำเลในศูนย์การค้า 

รวมทุกแบรนด์ในเครือชายสี่จะมีสาขารวมกว่า 5,000 สาขา 
 

 

ปี 2568 บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนไว้ 300 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านที่เป็นหุ้นส่วนเพิ่ม15 สาขา เน้นขยายแบรนด์ร้านอาหารในเครือ ทั้งแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวเรือ เสือร้องไห้ เปิดใหม่ 4 สาขา จากปัจจุบันมี 1 สาขา, แบรนด์ BRIX Dessert Bar เปิดใหม่ 7 สาขา จากปัจจุบันมี 5 สาขา และ หมูสองชั้น หมูกระทะ เปิดใหม่ 4 สาขา จากปัจจุบัน 2 สาขา
 

นอกจากนี้ ชายสี่ฯ เตรียมแตกไลน์ธุรกิจ “อาหารพร้อมทาน” โดยให้ธุรกิจเทรดดิ้งนำอาหารพร้อมทานไปขายผ่านร้าน CJ เพื่อให้คนเข้าถึงได้มากขึ้น โดยปัจจุบัน CJ มีสาขาทั้งหมด 1,100 สาขา แบ่งเป็น ซีเจมอร์ ซีเจซูเปอร์มาร์เก็ต และซีเจเอ็ก
 

ชายสี่ฯ ยังมีแผนลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยวางเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปี 2568 อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
 

 

สำหรับพอร์ตโฟลิโอของชายสี่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ แฟรนไชส์ถือเป็นรายได้หลักถึง 90% ตามมาด้วยร้านอาหาร 7% และเทรดดิ้ง 3% และบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจแฟรนไชส์ให้มากขึ้นในปี 2568 โดยอาจมีการนำแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งคาดว่าจะเป็นแบรนด์อาหารไทยที่คุ้นเคย เช่น ร้านยำ หรือร้านอาหารอีสาน ด้วยงบลงทุน 300 ล้านบาท 
 

ส่วนแบรนด์ชายสี่โกลด์ แบรนด์หลักของบริษัทจะมีการขยายตลาดไปยังช่องทางโมเดิร์นเทรดมากขึ้น โดยจะเน้นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานและอาหารพร้อมปรุง อาหารแช่แข็ง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของชายสี่ได้ง่ายขึ้น

งบลงทุนแฟรนไชส์ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” (รถเข็น) 
 

1.ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว รุ่นไฮคลาสโมเดิร์น (ราคาไม่รวม vat 7% และ ส่วนลดเพิ่ม 10%)

ต้องดูกันต่อไปว่า ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวจะสามารถทำรายได้แตะ 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2570 ก่อนที่จะเข้า IPO ในตลาดหุ้นได้หรือไม่ เพราะการแข่งขันในตลาดสตรีทฟู้ดมีสูง อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังไม่สัญญาณฟื้นตัว แต่มีอาวุธอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ฝ่ามรสุมต่างๆ ไปได้ ก็คือ...มาตรฐานเรื่องรสชาติ นั่นเอง 

 

แหล่งข้อมูล

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)