บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.0K
2 นาที
26 ธันวาคม 2567
ยังวิกฤต! ธุรกิจร้านอาหาร ปี 68 "เศรษฐกิจทรุด - ต้นทุนเพิ่ม - กำลังซื้อลด" 
 

ภาพรวมธุรกิจปี 2568 ยังไม่ฟื้น เผชิญปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน เศรษฐกิจทรุด ต้นทุนค่าแรงและวัตถุดิบพุ่ง กำลังซื้อลด กระทบต่อตลาดธุรกิจร้านอาหารในไทย คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตลดลงเฉลี่ย 2-3% เหตุนโยบายภาครัฐไร้แผนกระตุ้นที่ชัดเจน ส่งผลกระทบทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหารราคาถูก ไปต่อไม่ไหว เพราะแบกรับต้นทุนเพิ่มไม่ได้ 
 
ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย ปี 2567 มีทั้งร้านปิดกิจการและร้านใหม่สลับหมุนเวียนกันไป สอดคล้องกับข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ร้านอาหารปิดตัวเร่งขึ้น โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 มีร้านอาหารจดทะเบียนยกเลิกธุรกิจสูงถึง 89% (YoY) ขณะที่การเปิดร้านใหม่ยังเท่าเดิมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 
 
ปัจจุบันมีจำนวนร้านมากกว่า 700,000 ร้านค้า แบ่งเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ 70,000 ร้าน สัดส่วน 10% ส่วนอาหารขนาดกลางและเล็ก เช่น ร้านสตรีทฟู้ด ร้านในปั๊มน้ำมัน มีกว่า 600,000 ร้าน สัดส่วน 90% 
 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าในปี 2568 ผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งรายใหญ่และเล็ก ยังให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเปิดร้านอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ของตลาดในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหารแนวเอเชีย ไทย จีนเกาหลี ญี่ปุ่น โดยเน้นเปิดตามห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงานเปิดใหม่ 
 
ทิศทางการลงทุนเปิดร้านอาหารใหม่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ คิดเป็นสัดส่วน 24% ของร้านอาหารทั้งหมด รวมถึงจังหวัดที่มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ชลบุรี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี เป็นต้น 
 
ส่วนภาพรวมการแข่งขันธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มยังคงมาจากการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติ สอดคล้องกับข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า มูลค่าทุนจดทะเบียนร้านอาหารและเครื่องดื่มจำแนกตามสัญชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2567 กลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มจากจีนมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นมากสุด และมีแนวโน้มเข้ามาลงทุนเพิ่มสูงขึ้น
 
แนวโน้มธุรกิจร้านอาหาร ปี 2568 
 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2568 มูลค่าตลาดธุรกิจร้านอาหารในไทยอยู่ที่ 572,000 ล้านบาท เติบโต 4.8% จากปี 2567ซึ่งการเติบโตของร้านอาหารแต่ละที่แต่ละรูปแบบมาจากปัจจัยที่ต่างกัน เช่น ทำเลที่ตั้งร้าน การแข่งขัน ราคา รสชาติ เมนูอาหาร คุณภาพ การบริการ เทรนด์การบริโภค เอกลักษณ์ของร้าน เป็นต้น 
 
ร้านอาหารเต็มรูปแบบ (Full Service) มีมูลค่า 213,000 ล้านบาท เติบโต 2.9% เติบโต 2.9% จากปี 2567 โดยร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ยังได้รับความนิยมเพราะความคุ้มค่า ส่วนร้านอาหารอะลาคาร์ท เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไทย ตะวันตก ราคาระดับกลางๆ จะเจอกับความท้าทายจากกำลังซื้อและการแข่งขันจากคู่แข่ง
 
ร้านอาหารให้บริการจำกัด (Limited Service) คาดว่ามีมูลค่า 93,000 ล้านบาท เติบโต 3.8% จากปี 2567 การขยายตัวมาจากกลุ่มร้านพิซซ่า และไก่ทอด รวมถึงร้านแบบ Full Service ปรับรูปแบบร้านเป็นแบบ Quick Service มากขึ้น

ส่วนร้านข้างทาง Street Food มีมูลค่า 266,000 ล้านบาท เติบโต 6.8% จากปี 2567 เหตุเพราะเมนูเข้าถึงง่าย ราคาไม่แพง กินง่าย ขายง่าย อีกทั้งเป็นกลุ่มร้านที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 

 
แนวโน้มธุรกิจร้านเครื่องดื่ม
 
ในปี 2568 คาดว่ามูลค่าตลาดร้านเครื่องดื่ม ไอศกรีม และเบเกอรี่ อยู่ที่ 85,320 ล้านบาท เติบโต 3.2% จากปี 2567 การขยายตัวมาจากหารเปิดสาขาใหม่ของผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และเล็ก รวมถึงการขยายสาขาแฟรนไชส์ของแบรนด์จากต่างชาติ ทั้งจีน อินโด เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป ตะวันตก เป็นต้น
 
ความท้าทายของร้านอาหารในปี 2568 
 

ความท้ายของการดำเนินธุรกิจร้านอาหาร นอกจากจะเผชิญกับต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในปี 2568 ทั้งค่าวัตถุดิบ ค่าแรง สาธารณูปโภค ค่าเช่า ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ 
  1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่กำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมยังฟื้นตัวช้า 
  2. การแข่งขันของแบรนด์ต่างชาติที่เข้ามาเปิดตลาดในไทยมากขึ้น เช่น แบรนด์จากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ 
  3. ต้นทุนวัตดิบ ค่าแรง ค่าสินค้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น
  4. ความหลากหลายของธุรกิจร้านอาหาร ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมาย 
  5. พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เช่น ความแปลกใหม่ ประสบการณ์ สุขภาพ ราคาคุ้มค่าสมเหตุผล กลายมาเป็นเทรนด์ใหม่ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน 
ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านร้านอาหารที่ต้องการเติบโตในปี 2568 จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้กับร้าน โดยเริ่มจากการนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า เพื่อจะได้เข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงจุด
 
 
รวมถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์ และการทำโฆษณาออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และออกแบบเมนูอาหารให้มีความน่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยแบ่งเมนูออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
  1. เมนูซิกเนเจอร์ เป็นเมนูเด่นของร้านที่สร้างความแตกต่างและจดจำ
  2. เมนูที่มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวงกว้าง
  3. เมนูที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
นั่นคือ แนวโน้มและทางธุรกิจร้าอาหารและเครื่องดื่มในไทย ปี 2568 คาดว่าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจหลายแห่ง โดยเฉพาะเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น จากทั้งผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งในและต่างประเทศ
 
แหล่งข้อมูล 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
645
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
597
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
538
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
489
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
482
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
457
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด