บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
272
2 นาที
23 ตุลาคม 2568
ไอเดีย “สร้างธุรกิจจากความเครียด” รวยเงินล้าน
 

คนไทยจำนวนมากเผชิญกับภาวะเครียดสะสมทั้งจากเศรษฐกิจชะลอตัว งานที่ไม่มั่นคง และชีวิตเมืองที่เร่งรีบ รายงานจากกรมสุขภาพจิต ระบุว่าคนไทยกว่า 32% มีความเครียดระดับปานกลางถึงสูง

จากข้อมูลการสำรวจประชากร (กลุ่มตัวอย่างจำนวน 6 ล้านราย) ของกรมสุขภาพจิตระหว่างปี 2020 – 2025 พบว่า
  • ผู้มีระดับความเครียดสูง 15.48 % คิดเป็นประชากรประมาณ 10 ล้านคน
  • ผู้มีภาวะเสี่ยงซึมเศร้า 9.14 % คิดเป็นประชากรประมาณ 560,000 คน
  • กลุ่มวัย 45-59 ปี เป็นกลุ่มที่มีระดับความสุขต่ำที่สุดประมาณ 13.4 ล้านคน
และคนไทยมีแนวโน้มความเครียดพุ่งสูงขึ้น 80.1% จากปีก่อนๆ โดยความเครียดเป็นปัจจัยหลักที่เชื่อมโยงกับปัญหาอื่น เช่น ภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงฆ่าตัวตาย ปัญหานี้เพิ่มขึ้นหลังโควิด-19 จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการทำงาน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ

คนไทยเครียดกับเรื่องอะไรมากที่สุด? 


ภาพจาก https://elements.envato.com
  • หนี้ครัวเรือน โดย 47 % ของคนวัยทำงาน (20-59 ปี) เป็นกลุ่มที่มีความเครียดเรื่องนี้มากที่สุด
  • รายได้ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท ซึ่งคิดเป็น 30% ของประชากร 
  • ประชากรกว่า 60% รู้สึกไม่มั่นคงทางการเงิน มีความเครียดจากค่าใช้จ่ายพื้นฐานเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ รายจ่ายในชีวิตประจำวัน
  • ความเครียดเรื่องการว่างงานและความไม่แน่นอนในการทำงาน โดย 40% ของคนวัยทำงานรู้สึกกังวลเรื่องอนาคตอาชีพ
  • 70% ของคนวัยทำงานกังวลและมีความเครียดเรื่อง “เงินเดือนไม่พอใช้”
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ความเครียดคนไทยพุ่งสูง เช่นเรื่องครอบครัวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25-30% และเรื่องการศึกษาประมาณ 15-20% ซึ่งยังมีรายงานอีกว่าไทยมีระดับความเครียดจากเศรษฐกิจสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก โดย 30% ของประชากรโลกเครียดจากเงิน ขณะที่ไทยสูงถึง 40-50%
 
เปลี่ยน “ความเครียด” เป็นไอเดียสร้างรายได้
 
เมื่อเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเครียดที่ต้องเจอ ถ้าเลิกไม่ได้ก็ต้องหาทางให้ “ระบาย” เพื่อลดความเครียดให้เหลือน้อยที่สุด มองในอีกมุมหนึ่งก็คือโอกาสทางธุรกิจที่หากจับการตลาดได้อย่างถูกจุดสามารถเปลี่ยนความเครียดให้เป็นรายได้ที่น่าสนใจ ซึ่งก็มีหลายธุรกิจที่ยกตัวอย่างได้ เช่น
 
1.ตู้ชกมวย
 
ภาพจาก https://citly.me/Z4y0J

คือเครื่องเล่นที่ให้คนต่อยวัดพลังหมัด คลายเครียด และอวดเพื่อนได้สนุกๆ ราคาตู้ชกมวย 1 ตู้ประมาณ 70,000 – 120,000 บาท (ขึ้นอยู่กับคุณภาพ) เบ็ดเสร็จเมื่อรวมค่าขนส่ง+ติดตั้ง+บำรุงรักษา งบลงทุนประมาณ 100,000 – 130,000 บาท ค่าบริการต่อย 1 ครั้ง = 20 บาท 
 
สมมุติว่าตู้ชกมวยตั้งในห้าง คนเล่น 70 ครั้ง/วัน
  • รายได้: 70 × 20 × 30 วัน = 42,000 บาท/เดือน
  • หักค่าเช่าพื้นที่ 15,000 + ซ่อมบำรุง 2,000 = 17,000 บาท/เดือน
  • กำไรสุทธิ = 25,000 บาท/เดือน คืนทุนภายใน 4–6 เดือน 
2.เครื่องนวดอัตโนมัติ (Massage Chair Machine)
 
 
ภาพจาก https://elements.envato.com

เก้าอี้นวดที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเครียด ผู้ใช้จ่ายเงิน 10-50 บาทต่อการนวดประมาณ 5-15 นาที โดยราคาเก้าอี้นวดประมาณ 30,000-100,000 บาทต่อตัว ขึ้นอยู่กับรุ่นและคุณภาพ มีข้อดีคือใช้ระบบรับเหรียญหรือชำระผ่าน QR Code ไม่ต้องมีพนักงานดูแล เป็น Passiveincome ได้อย่างดี สำคัญสุดคือการหาทำเลในการให้บริการ จุดที่สร้างรายได้ดีเช่นในห้างสรรพสินค้า , สนามบิน , สถานีรถไฟ เป็นต้น
 
3.เครื่อง VR ระบายความเครียด (VR Stress Relief Games)
 

ภาพจาก https://elements.envato.com

เป็นการใช้เทคโนโลยียุคใหม่มาสร้างรายได้ จุดเด่นของ VR ทำให้ผู้ใช้บริการสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง เช่น ต่อสู้ ผจญภัย หรือจำลองสถานที่ผ่อนคลาย เช่น เดินในป่า ลงทุนประมาณ50,000-200,000 บาทต่อชุด สามารถตั้งค่าให้ผู้ใช้จ่ายเงินผ่าน QR Code หรือแลกเหรียญเพื่อเล่น แต่ก็ต้องคำนึงถึงทำเลในการหาจุดติดตั้ง ทำเลที่ดีเช่นในห้างสรรพสินค้าหรือตามย่านวัยรุ่นต่างๆ 
 
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายไอเดียที่จะเปลี่ยนความเครียดให้เป็นรายได้ โดยที่ผ่านมาเราเห็นสินค้าหลายชนิดที่เจาะกลุ่มคนที่มีความเครียดเช่น ตุ๊กตาฮีลใจซึ่งเป็นเทรนด์ในกลุ่มคนวัยทำงาน ของประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ที่ได้นำตุ๊กตาตัวใหญ่มาให้ผู้ซื้อใช้นอนกอด ช่วยบำบัดความเหงา คลายเครียด วิตกกังวล และยังช่วยส่งเสริมการนอนหลับให้ดีขึ้น
 
หรือในญี่ปุ่นก็ได้ผลิตหมอนชื่อว่า Fufuly หมอนที่มีลักษณะรูปร่างคล้ายก้อนเมฆ และมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มฟูทำจากผ้ากำมะหยี่ตัวหมอนจะมีมอเตอร์ที่เต้นเป็นจังหวะอยู่ข้างใน เมื่อกอดหมอน จะทำให้รู้สึกคลายเครียด และลดความวิตกกังวลได้
 
รวมถึงธุรกิจอย่างสปาอโรมา /การนวดผ่อนคลาย , คาเฟ่สัตว์เลี้ยง , บริการรับฟังปัญหาสุขภาพจิต , ตู้คาราโอเกะ ฯลฯ สินค้าและบริการเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความเครียด ถ้าถามว่ารายได้ดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพในการให้บริการรวมถึงกลยุทธ์ด้านการตลาดและวิธีบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 
 
สำหรับใครที่อยากมีธุรกิจหรืออยากมีรายได้เพิ่มบางทีความเครียดที่เราพบเจอที่เราเคยมองว่าเป็นปัญหา และเราเคยคิดว่าเป็นโรคระบาดทางใจ ถ้าเราเปลี่ยน Pain point ดึงคนที่มีความทุกข์ให้มีความสุขเพิ่มขึ้นได้ อาจหมายถึงตัวเราเองที่จะมีกำไรจากธุรกิจได้ด้วย

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
AI คลื่นลูกที่ 5 ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเพื่อนค..
898
เทรนด์การตลาดส่งท้ายปี 2025 เมื่อผู้บริโภค “คิดเ..
768
Gong Cha(貢茶) กงชา ทวงความยิ่งใหญ่ 23 ประเทศ 2.1 ..
661
5 ปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ปรับสมดุลชีวิตเพื่..
573
สสปท. มอบโล่ Zero Accident ย้ำความปลอดภัยคือราก..
501
ทำเลทองของ “คาเฟ่ร้านกาแฟ” เปิดที่ไหน กำไรดีที่..
501
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด