บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    การบริหารเงินส่วนบุคคล
2.9K
1 นาที
29 สิงหาคม 2558
ใช้เงินผิด เสี่ยงธุรกิจเจ๊ง

เวลาที่ผู้ประกอบการมาขอสินเชื่อกับธนาคาร ธนาคารมักจะกำชับเรื่อง การใช้วงเงินสินเชื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์การขอกู้อยู่เสมอ ผู้ประกอบการหลายๆ ท่านอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ใช้เงินผิดประเภทคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผู้ประกอบการ SME รายหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือ ทำธุรกิจรับซื้อขายพืชไร่ ซึ่งต้องบอกว่าผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจนี้โดยส่วนใหญ่จะเติบโตจากเกษตรกรและผันตัวมาทำธุรกิจ จึงมีประสบการณ์โชกโชนในธุรกิจนี้

และทำให้ธุรกิจเติบโตมาเรื่อยๆ ธุรกิจนี้ทำมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ โดยสินค้าที่รับซื้อก็คือ ข้าวโพด ข้าวเปลือก และมันสำปะหลัง ซึ่งสินค้าจะสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลของพืชไร่ ลักษณะของการทำธุรกิจ คือ ผู้ประกอบการจะต้องรับซื้อพืชไร่จากเกษตรกรที่นำมาขายที่ลานตาก และต้องนำพืชไร่เหล่านั้นมาตากให้แห้ง ก่อนนำไปขายต่อให้กับพ่อค้ารายใหญ่ โรงสี หรือผู้ผลิตอาหารสัตว์

ผู้ประกอบการรายนี้ไม่มีโกดังเก็บสินค้า เมื่อตากเสร็จก็ต้องส่งขายทันที และต้องเผชิญกับปัญหาเมื่อถึงหน้าฝน จึงได้ไปเช่าโกดังและลานตากเพื่อเก็บสินค้าในอีกจังหวัดที่มีระยะทางห่างประมาณ 100 กิโลกว่าๆ ทำให้ธุรกิจนี้มีต้นทุนในการขนส่งเพิ่มมากขึ้น

เมื่อธุรกิจขยายตัวเจ้าของจึงได้ตัดสินใจสร้างโกดังเพื่อให้มีที่เก็บสินค้าและรองรับการซื้อสินค้าได้มากขึ้น โดยยอดการซื้อขายต่อเดือนอยู่ประมาณ 5-6 ล้านบาท เล่ามาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงรู้สึกว่าทิศทางการทำธุรกิจช่างสดใส เช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมีความสุขกับธุรกิจที่เติบโต จึงได้ตัดสินใจก่อสร้างโกดัง

โดยใช้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียนที่มีอยู่ ไม่รอผลการอนุมัติวงเงินกู้ที่อยู่ระหว่างการขอกับธนาคาร แต่เหมือนฟ้าจะไม่เข้าข้างเพราะวงเงินกู้ที่ขอไม่ได้รับอนุมัติ ทำให้เงินหมุนเวียนที่มีอยู่ต้องจมไปกับทรัพย์สินซึ่งก็คือโกดัง เมื่อไม่มีเงินทุนหมุนเวียนจึงทำให้ธุรกิจเริ่มเกิดปัญหาด้านการเงิน เพราะในการทำธุรกิจพืชไร่ต้องซื้อขายด้วยเงินสด และใช้เงินหมุนเวียนในแต่ละวันจำนวนมาก จนถึงขั้นต้องกู้เงินนอกระบบเพื่อมาใช้ในการซื้อสินค้าจากเกษตรกร แม้ว่าจะไม่มีเงินก็ตาม เพราะต้องการรักษาฐานคู่ค้าเก่าเอาไว้

สาเหตุที่เป็นอุปสรรคในการขอสินเชื่อก็คือ การไม่ทำรายรับรายจ่ายเงินของธุรกิจ ทุกอย่างใช้วิธีการจดและจำอยู่ในหัว ไม่รู้ว่าในแต่ละวันมีเงินเข้าออกเท่าไหร่ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าการทำธุรกิจของตนเองได้กำไรเท่าไหร่ และไม่มีการเดินบัญชีกับธนาคาร

เมื่อธนาคารได้พูดคุยจึงแนะนำให้เจ้าของธุรกิจเริ่มต้นทำบัญชีง่ายๆ โดยเริ่มจากการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายในแต่ละวัน จนถึงบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน รวมถึงการจัดเก็บเอกสารทางการค้าให้เป็นระบบ หลังจากที่ลูกค้าปฏิบัติตามคำแนะนำของธนาคารแล้ว ทำให้รู้ถึงรายรับ-รายจ่าย รวมถึงกำไรที่แท้จริง ซึ่งส่งผลดีต่อการวางแผนการลงทุนของธุรกิจต่อไปในอนาคต

ปัญหาที่เกิดขึ้นของธุรกิจนี้ เกิดจากการใช้วงเงินสินเชื่อผิดวัตถุประสงค์ การลงทุนในสินทรัพย์ สำหรับกรณีนี้ก็คือ การก่อสร้างโกดัง จะต้องใช้วงเงินกู้ระยะยาว ซึ่งจะมีการผ่อนชำระเป็นงวดๆ ส่วนวงเงินหมุนเวียน จะใช้สำหรับการซื้อวัตถุดิบ และจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ
เมื่อใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ "โอกาสที่ธุรกิจเจ๊ง" จะมีสูง เพราะโชคดีอาจจะไม่ได้เข้าข้างเราเสมอไป

อ้างอิงจาก ธนาคารกสิกรไทย
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
AI คลื่นลูกที่ 5 ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเพื่อนค..
848
เทรนด์การตลาดส่งท้ายปี 2025 เมื่อผู้บริโภค “คิดเ..
687
5 ปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ปรับสมดุลชีวิตเพื่..
555
สสปท. มอบโล่ Zero Accident ย้ำความปลอดภัยคือราก..
484
จักรวาลร้านสเต็ก ข้างทาง ใครเจ้าตลาด
468
ทำเลทองของ “คาเฟ่ร้านกาแฟ” เปิดที่ไหน กำไรดีที่..
444
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด