หากเอ่ยชื่อของ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ในนามของ “เจ้าพ่อเบียร์ช้าง” เจ้าของอาณาจักรทีซีซีคอร์ปอเรชั่น และไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ยิ่งการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บ ทำให้หลายคนทราบว่า เจ้าพ่อเบียร์ช้างเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศไทย มีทรัพย์สินโดยประมาณถึง 10,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณไปดูว่า “เจ้าสัวเจริญ” มีหลักการทำงานอย่างไร ถึงทำให้เขามั่งคั่งร่ำรวยได้ถึงเพียงดี เห็นทีจะต้องมาเจาะลึกกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่อยากให้คุณพิจารณา ก็คือ หลักคิดหรือหลักการในการดำเนินธุรกิจของเจ้าสัวเจริญ ที่นักธุรกิจรุ่นใหม่สามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้ครับ

 
1.สะสมทุนและรอคอยโอกาส

คำสองคำนี้ที่เจ้าสัวนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งทุกท่านลองนำไปขยายความเข้าใจกันดูได้ และอีกแนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจคือ “บุญคุณต้องทดแทน” ซึ่งเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจที่ท่านนำมาใช้

เราจะเห็นว่าเส้นทางในการทำธุรกิจของ เจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี” นั้นยังมีโอกาสที่จะต่อยอดธุรกิจไปได้อีกยาวไกลเลย โดยเฉพาะเรื่องการซื้อกิจการธุรกิจอื่นๆ เข้ามาบริหาร โดยไม่ต้องเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เพียงแต่เอาเงินหรือทุนใส่เข้าไป ก็เดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ 

2. ความอดทน การเสียสละ ความเงียบและความร่าเริง

คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เขาเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ไปได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หรือมีความวุ่นวายแค่ไหน เพราะเมื่ออดทนและไม่ย่อท้อแล้ว จะทำให้ประสบความสำเร็จในที่สุด ส่วนการเสียสละถือเป็นอาวุธสำคัญที่จะทำให้พ้นภัย ซึ่งการที่รู้จักเสียสละ ก็จะลดการแก่งแย่งแข่งขันไม่มีศัตรู 

ส่วนคำว่าเงียบ คือความสุขุม มีสติซึ่งทำให้เกิดปัญญา โดยบางคนเชื่อว่าเป็นหนทางนำไปสู่ความเป็นอรหันต์ และสุดท้าย ร่าเริง อันจะทำให้มีจิตใจเบิกบานมีความสุขและ อายุยืน

คนไทยอยู่เมืองไทยถ้ามีความขยัน หมั่นเพียรและอดทน เริ่มจากเรื่องเล็กขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าหากโอกาสและเวลาของเราล่วงเลยมาเยอะ ก็ควรจะอดทน อดกลั้น และสอนลูก สอนหลาน ให้เขาได้มีโอกาส ถ้าสมมติว่าปล่อยปละละเลยอาจทำให้คิดแต่ตัวเองว่าไม่มีโอกาส ซึ่งมันก็จะยิ่งไม่มีโอกาส

เราต้องไปหาโอกาส ไม่ใช่ให้โอกาสมาหาเรา เพราะเมื่อเรารู้จักหาโอกาสแล้ว โอกาสก็จะมาหาเราเรื่อยๆ ซึ่งการเป็นคนกล้าได้ กล้าเสีย จะทำให้เกิดการเรียนรู้ และมีโอกาสเติบโต ในการทำธุรกิจควรทำทั้งสองด้าน คือทั้งทางด้านรุกและด้านรับ จึงสามารถทำธุรกิจเฉพาะที่เน้นธุรกิจผูกขาดได้
 

เจ้าสัวเจริญ เป็นคนที่มีหัวการค้าตั้งแต่เล็ก คิดอยู่เสมอว่าหากคนเราจะรวยได้ก็ต้องทำการค้าเท่านั้น แม้ว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนก็รวยได้ แต่เมื่อไหร่จะมาถึง ซึ่งหากทำการค้า ก็อาจทำให้หาทางต่อยอดธุรกิจต่างๆ ได้ ดีกว่าเป็นลูกน้องใคร และยังเป็นคนที่ซื้อธุรกิจ เพื่อธุรกิจของตนเองจะได้ก้าวหน้า หรือสร้างฐานหรือสร้างผลกำไรมากขึ้น

เจ้าสัวเจริญเน้นเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน เวลาไปไหนมาไหน การพูดการเจรจา รวมถึงการติดต่องานกับผู้ใดก็จะดีไปหมด ต่อให้มีเงิน มีความ รู้ แต่ไม่มีความอ่อนน้อมก็อาจทำให้อยู่ยากในสังคม

จะต้องมีน้ำใจ ไม่ว่าเรื่องการค้าหรือส่วนตัว ช่วยได้ก็ช่วยทันทีไม่รีรอ คนเราไม่จำเป็นที่จะต้องรอการช่วยเหลือจากใครก่อน ซึ่งหากเราสามารถช่วยใครได้ เราก็ช่วย ในเมื่อเรามีน้ำใจกับคนอื่น สักวันสิ่งดีๆ ก็จะกลับมา ขึ้นอยู่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น

7.ใช้วาทศิลป์ในการเจรจา

เรื่องนี้หลายคนอาจมองข้ามไป คือ การเป็นคนมีวาทศิลป์ เจ้าสัวเจริญบอกว่า เวลาพูดจาเจรจาใดๆ ให้มีศิลปะ มีกลยุทธ์และรู้จังหวะการเจรา เราจะนิ่งเมื่อเรารู้ว่าต้องนิ่งตอนไหน และเราต้องรู้ว่าควรพูดตอนไหน พูดอะไร ที่จะทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุดหรือผลเสียน้อยที่สุด และเป็นคนที่มีสายสัมพันธ์ดีเยี่ยมในวงการค้า การเมือง ข้าราชการ เอกชนทุกวงการธุรกิจ

เจ้าสัวเจริญเป็นคนที่มีพื้นฐานครอบครัวไม่รวย เป็นคนประหยัด ใช้เงินเป็น ทั้งในชีวิตส่วนตัวและธุรกิจ เขาเป็นคนมีหัวการค้ามีความคิด มีความขยัน อดทน และใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ รู้จักเรียนรู้และกล้าที่จะเสี่ยง เพราะเป็นคนที่ชอบวางแผน ก่อนจะทำและเมื่อลงมือทำแล้วก็จะมีการแก้แผนต่อเนื่องด้วย

เจ้าสัวเจริญ เป็นคนที่มีประสบการณ์ และมักจะนำประสบการณ์ที่ผิดมาเป็นครู เพื่อใช้ในการสู้แก้เกมต่อไป และเป็นคนที่รุกมากกว่ารับ คู่แข่งจะเกิดก็จะไม่ให้เกิด ตีตายได้ตีเลย เพราะถ้าเราไม่ทำเขา เขาก็อาจจะทำเรา ทุกอย่างย่อมมีการแข่งขัน ถ้ามัวแต่รอดูคู่แข่งว่าจะเอาอย่างไร เราอาจจะช้ากว่าเขาไปหลายก้าว แต่ถ้าเรารู้จักวางแผน และคิดว่ามันเวิร์ก ก็ทำไปเลยอย่ามัวแต่รอ แต่ก็มีความอดทน ทนเพื่อความสำเร็จถึงแม้จะต้องรอเป็นปี นับเป็นอีกหนึ่งความคิดที่น่าคิดมากๆ เลยครับ

10.ตัดสินใจรวดเร็ว

ท่านเป็นคนที่มีหัวนักการตลาด อะไรควรทุ่มเงินซื้อ ก็ซื้อเลยไม่รอช้าเพราะทุกอย่างมันผ่านมาและผ่านไปเร็วมาก โอกาสดี ไม่ได้มีบ่อยๆ โดยเป็นคนที่ซื้อของได้ในราคาถูกทำให้มีต้นทุนต่ำ และทำกำไรได้มากกว่า ซึ่งเป็นคนที่มีความคิดดี ทำอะไรจะคิด คิดแล้ว ก็จะสรุปลงมือทำตามขั้นตอน การคิดเร็วๆ มักจะทำให้ต้องตัดสินใจเร็ว ในการทำธุรกิจว่าจะเอาหรือไม่เอา เป็นคนที่ใช้ทีมงานน้อยมาก จึงไม่ชักช้า พูดง่ายๆ ไม่ควรลังเลในการทำธุรกิจ เห็นว่าธุรกิจนี้ดี ก็ทำเลย 

ทั้งหมดเป็นแนวคิดและหลักการทำงานของ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” เจ้าพ่อเบียร์ช้าง มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทย ซึ่งหลักการทำงานของเจ้าสัวเจริญ นับเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับนักธุรกิจหรือผู้ที่กำลังเริ่มทำธุรกิจได้มากทีเดียว การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ยากเสมอไป แต่จะต้องมีความพยายาม มีแนวทาง แนวคิด และการดำเนินธุรกิจที่ดี

สำหรับคำคม ข้อคิด สร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ ของคนเด่น คนดังระดับโลกมากมาย เข้าดูได้ที่ goo.gl/oe6s5k