ปัจจุบันต้องยอมรับว่า คนที่จะทำงานในบริษัทส่วนใหญ่ จะไม่ได้พิจารณาเพียงแค่เงินเดือนหรือสวัสดิการเท่านั้น

เรื่องของวัฒนธรรมองค์กรหรือธรรมเนียมปฏิบัติอื่นๆ ก็กลายมาเป็นแรงดึงดูดให้คนอยากจะมาทำงานด้วยเช่นกัน
 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีตัวอย่างบริษัทระดับโลก ที่มีวัฒนธรรมองค์กรแปลกๆ น่าสนใจอย่างมาก ที่มีส่วนสำคัญทำให้คนอยากเข้าไปร่วมงานมากที่สุด มาดูกันเลยว่า มีบริษัทอะไรบ้าง 

 

 

Zap pos แบรนด์รองเท้าชื่อดัง มีวัฒนธรรมองค์กร โดยพนักงานใหม่จะถูกเสนอให้รับเงิน 2 พันดอลลาร์ เพื่อให้ลาออกหลังจากทำงานไปในสัปดาห์แรก หากตัดสินใจแล้วว่างานที่ทำอยู่นี่ไม่เหมาะกับเขา
 

Zap pos ให้ความสำคัญกับการจ้างงาน โดยเลือกสิ่งที่เหมาะและเข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรตั้งแต่แรก โดยยังคงวัฒนธรรมองค์กรตั้งแต่เริ่มก่อตั้งไว้ได้ ถ้าส่งเสริมวัฒนธรรมที่ทำให้พนักงานมีความสุข ก็จะนำมาซึ่งความสุขของลูกค้า

 

Warby Parker ทำและขายกระจกออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2010 มีวัฒนธรรมองค์กรแบบ “culture crushes” ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มันประสบความสำเร็จเพราะได้รับความร่วมมือจากพนักงาน เช่น การจัดกิจกรรมสนุกๆ ระหว่างมื้อกลางวัน โปรแกรมอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อความเพลิดเพลิน

แต่บริษัทต้องแน่ใจว่าอีเว้นท์ที่จัดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ทั้งทีมตั้งตารอคอย ที่สำคัญคือเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งตรงจุดนี้ Warby Parker ทำได้อย่างน่าชื่นชม

 

 

อุตสาหกรรมการบินมักจะถูกมองว่าพนักงานหน้าบูดบึ้งและให้การบริการแย่ๆ กับลูกค้า แต่ Southwest Airlines ได้พยายามลบภาพนั้นทิ้งไป ลูกค้าส่วนใหญ่ล้วนมีภักดีกับแบรนด์ของ Southwest อย่างมาก เพราะนอกจากจะยิ้มแย้มเป็นกันเองแล้วพนักงานยังพยายามอย่างหนักที่จะเข้าช่วยเหลือลูกค้า
 

Southwest ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ในวงการนี้ แต่ดำเนินการมาเป็นเวลา 43 ปีแล้ว ระหว่างที่ให้บริการบริษัทก็ทำการสื่อสารภายในถึงเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของบริษัทให้กับพนักงานทราบ ด้วยวิธีการที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีม

Twitter เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีผู้คนอยากจะไปงานมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้คุณจะได้ยินเหล่าพนักงานของ Twitter โม้ไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมบนดาดฟ้า สภาพแวดล้อมที่ทำงานแบบ team-oriented ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่มีแรงผลักดันในการทำงานเพื่อเป้าหมายสูงสุดของบริษัท สร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำงาน 
 

พนักงาน Twitter ที่สำนักงานใหญ่ซานฟรานซิสโกยังได้รับประทานอาหารฟรีทุกมื้อ มีโยคะคลาส ไปพักร้อนแบบไม่มีจำกัด และยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อีก แทบจะไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน 

 

ในขณะที่บริษัทเกี่ยวกับน้ำมันและแก๊สตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีจากสาธารณชนเสียส่วนใหญ่ แต่พนักงาน Chevron กลับรักในวัฒนธรรมขององค์กรของเขาอย่างมาก พนักงาน Chevron เปรียบเทียบบริษัทตัวเองกับบริษัทอื่นที่ใกล้เคียงกันแล้ว ต่างก็ยอมรับใน “the Chevron way” ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเทอย่างหนักเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน 
 

การสนับสนุนการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของพนักงาน Chevron แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจในตัวพนักงานทุกคน โดยการจัดศูนย์สุขภาพและฟิตเนสบนไซท์งาน รวมทั้งการจัดสรรช่วงเวลาเบรกที่เหมาะสม พูดง่ายๆ ว่าบริษัททำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขานั้นมีค่าต่อองค์กรอย่างมาก

 

เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ และยังได้รับการโหวตว่ามีสถานที่ทำงานที่สุดยอดที่สุดในนิวยอร์กอีกด้วย นอกจากนี้ วัฒนธรรมองค์กรของที่นี่ ได้แก่ “เรียบง่าย เปิดกว้าง และสร้างสรรค์” คำว่า ‘เรียบง่าย’ สิ่งนี้หมายถึงระดับในการบริหารระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้บริหาร ที่สามารถใกล้ชิดกันและเข้าถึงได้ง่าย และที่สำคัญแม้ว่าบริษัทจะโตไปกว่านี้ แต่ก็ยังสามารถรักษารูปแบบนี้เอาไว้ได้อย่างดี
 

Square Space นอกจากจะให้ผลตอบแทนที่ดีแล้ว ยังเพิ่มผลประโยชน์อื่นๆ ให้อีก เช่น ประกันสุขภาพระดับพรีเมี่ยม การพักร้อนที่ยืดหยุ่น สถานที่ทำงานที่น่าดึงดูด บริการอาหาร ห้องครัว การเฉลิมฉลองทุกเดือน พื้นที่สำหรับพักผ่อน และยังมีการเชิญแขกมาช่วยแลคเชอร์เพิ่มเติมความรู้ให้ในบางครั้งอีกด้วย

 

ถ้าพูดถึงองค์กรที่ดีล่ะจะไม่พูดถึง Google คงไม่ได้ เพราะที่นี่ติดรายชื่อบริษัทที่มีวัฒนธรรมดีเยี่ยมอยู่ในระดับต้นๆ เสมอ และมีชื่อเสียงเรื่องนี้มาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลตอบแทนหรือสวัสดิการ เช่น อาหารฟรี จัดทริปเที่ยวให้พนักงาน ปาร์ตี้ โบนัส ยิม สิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร และอื่นๆ อีกมากมาย และทราบกันดีว่าคนทีทำงานที่นี่มีทั้งรถขับ มีพรสวรรค์ 
 

ขณะที่ Google ได้รับคำชมเรื่องผลตอบแทนและเรื่องสวัสดิการว่าดีมาก ก็ยังคงมีพนักงานบางส่วนที่รู้สึกว่าเจ็บปวดจากการถูกคาดหวังสูงมากจากบริษัท การจัดการกับความเครียดภายใต้สภาพแวดล้อมที่แข่งขันกัน

ความคาดหวังความเป็นที่สุดจากพนักงานกลายมาเป็นตัวกระตุ้นความเครียดได้อย่างง่ายๆ ดังนั้น วัฒนธรรมองค์กรจะต้องดีเยี่ยมและมีความสมดุลได้ดี ระหว่างการทำงานที่ดีและชีวิตที่ดี ซึ่ง Google ทำได้อย่างดีมาก

 

 

พนักงานของ REI มีทัศนคติว่า บริษัทของตนนั้นมีแต่สินค้าดีๆ สำหรับคนรักการแคมป์ปิ้ง และกิจกรรมกลางแจ้ง ภารกิจของ REI คือการจัดหาอุปกรณ์สำหรับจัดกิจกรรมกลางแจ้งดีๆ มาให้ทั้งกับลูกค้าและพนักงานของเขาเอง และไม่ใช่เพื่อให้เกิดความสนุกเพียงอย่างเดียวแต่จะต้องดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย
 

อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจคือ ซีอีโอของ REI หลักแหลมตรงที่ทราบดีว่า อนุญาตให้พนักงานได้ไปOutdoors-Oriented ซึ่งพนักงานเองก็ปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทำให้วัฒนธรรมองค์กรมีเอกลักษณ์โดดเด่น 
 

 

Facebook คือบริษัทที่ระเบิดเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ผลตอบแทนมากมาย อาทิ อาหาร หุ้น พื้นที่พักผ่อนในออฟฟิศ ทีมเวิร์กที่ดี การเปิดเผย บรรยากาศการแข่งขัน ฯลฯ เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่ ก็คือบริษัทนี้เป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้น จึงนำมาซึ่งความเครียดและการแข่งขันในที่ทำงานอย่างง่ายดาย
 

เพื่อจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ Facbook ก็พยายามจัดสรรสถานที่ให้เกิดความเหมาะสม มีพื้นที่ Outdoor เพื่อพักผ่อน และยังสถานที่ทำงานแบบเปิด และพยายามสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบแบนที่เข้าถึงระดับผู้บริหารให้ง่ายขึ้น ด้วยการสร้างตึกและเพิ่มพื้นที่เพื่อสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวด้วย

 

 

Adobe คือบริษัทที่ค่อนข้างออกนอกกรอบ โดยการท้าทายพนักงานด้วยโปรเจ็คต์ใหม่ๆ อยู่เสมอ และยังแบ่งปันความซื่อสัตย์และสนับสนุน เพื่อช่วยให้พนักงานทำภารกิจที่ท้าทายนั้นๆ ให้สำเร็จ ในขณะที่ยังให้ข้อเสนอผลตอบแทนที่มากมายเช่นเดียวกับบริษัทครีเอทีฟที่ทันสมัยที่อื่น 
 

นอกจากนี้ Adobe หลีกเลี่ยงอะไรที่มันจู้จี้จุกจิก และให้ความไว้วางใจแก่พนักงานอย่างที่สุด เมื่อสินค้า Adobe เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น หากก้าวข้ามอะไรที่มันจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ ไปได้ พนักงานที่จะต้องใช้หัวคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ก็จะรู้สึกเป็นอิสระและสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างดี 
 

บริษัทยังให้หุ้นแก่พนักงานอีกด้วย เพื่อที่จะทำให้รู้สึกว่าการทำงานของเขามีทั้งการเดิมพัน และได้รับรางวัล อีกทั้งวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้ลองกับความเสี่ยง โดยปราศจากความกลัวเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม Adobe ที่น่าสนใจมาก

 

ได้เห็นหรือยังว่า ทั้ง 10 บริษัทที่กล่าวไปนั้น ถือเป็นองค์กรที่มีความน่าสนใจ มีความคิดนอกกรอบ แตกต่าง แม้ว่าบริษัทในเมืองไทยจะมองว่า ยังไม่สามารถก้าวไปถึงจุดนั้นได้ แต่ก็สามารถนำเอาบางจุดมาปรับใช้ได้ โดยเฉพาะเรื่องของการให้พนักงานมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น การปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำงาน การจัดกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น