ปัจจุบันการตัดสินใจลงทุนหรือทำการค้ากับกิจการใดๆ นักลงทุนหรือคู่ค้าจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ หลายประการ

โดยเฉพาะเรื่องของผลกำไร และการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ Growing Sustainable Business จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการจำนวนมาก หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างผลกำไร ควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน 
 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com อยากนำเสนอขั้นตอนการสร้างธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะใช้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถไปเป็นแนวทางปฏิบัติ การบริหารจัดการธุรกิจของตัวเองให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยไม่เอารัดเอาเปรียบสังคม

 

 

ขั้นตอนนี้น่าจะเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุด เพราะเป็นขั้นตอนที่เกิดจากความต้องการที่จะเริ่มต้นธุรกิจ หรือความอยากซึ่งอาศัยเพียงทุนทรัพย์ และความคิดสร้างสรรค์เท่านั้นก็สามารถทำได้ การริเริ่มของแต่ละคนอาจมีความแตกต่างกันไปตามแต่บุคลิกของคนๆ นั้น เช่น บางคนริเริ่มธุรกิจจากมโนภาพที่ได้ประเมินไว้แล้วว่า ตนเองมีศักยภาพพอที่จะประคับประคองธุรกิจให้ไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง

แต่บางคนริเริ่มธุรกิจเพราะเห็นว่าคนอื่นทำแล้วรวย จึงอยากทำตาม ซึ่งกรณีหลังนี้ ก็อาจใช้แค่เพียงทุนทรัพย์ ความคิดอยากจะทำธุรกิจ อยากประสบความสำเร็จ ถือเป็นการริเริ่มที่ดี

 

หากใครสนใจอยากริเริ่มธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ เราได้รวบรวมธุรกิจแฟรนไชส์ไว้หลากหลายประเภท แต่ละแบรนด์ล้วนประสบความสำเร็จมาแล้ว ผู้บริโภคนิยม ตลาดต้องการ สามารถเข้าดูรายละเอียดข้อมูลการลงทุนแฟรนไชส์ได้ที่  https://goo.gl/Cd1kxf

 

 

ถือเป็นความยากขึ้นมาอีกขั้น เพราะธุรกิจที่จะสามารถเดินต่อไปได้จะต้องไม่หยุดนิ่ง ตราบใดที่โลกยังหมุน หากคุณหยุดนิ่งก็เท่ากับว่าคุณกำลังเดินถอยหลัง ดังนั้น ธุรกิจที่จะหลุดรอดด่านนี้ไปได้ จะต้องรุกให้เป็น ถึงแม้ว่าอาจยังมีความจำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์หรือการลงทุนเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันอยู่บ้าง 

 

แต่ก็จำต้องอาศัยการมีกลยุทธ์ และการวางแผนการตลาดอย่างรอบคอบ และรัดกุม ควบคู่ไปด้วยเช่นกัน เพราะบ่อยครั้งที่พบว่า ธุรกิจที่มีทุนหนา แต่เมื่อปราศจากซึ่งการวางแผนธุรกิจที่ดี ขาดกลยุทธ์ที่เฉียบขาด ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการซื้อสื่อที่ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ปัจจุบันมีราคาค่อนข้างแพงมาก ดังนั้น ทุนที่มีจึงอาจร่อยหรอลงไปได้อย่างรวดเร็ว

 

ธุรกิจ SMEs ที่อยากประชาสัมพันธ์แบรนด์หรือองค์กรธุรกิจ สามารถเข้าดูรายละเอียดการลงโฆษณา คุ้มค่า ตรงกลุ่มเป้าหมาย ได้ที่ http://www.thaismescenter.com

หรือธุรกิจแฟรนไชส์แบรนด์ใด ที่กำลังมองหาลูกค้า อยากขายแฟรนไชส์ สามารถลงโฆษณาและข้อมูลการลงทุนธุรกิจ ได้ที่  https://www.thaifranchisecenter.com/home.php

 

 

ขั้นตอนนี้เชื่อว่าไม่น่าจะมีธุรกิจเกิน 50% ที่เข้าใจและทำได้ เพราะการตั้งรับในที่นี้ คือ การประเมินและบริหารความเสี่ยงของธุรกิจเอาไว้ล่วงหน้า เสมือนเป็นการซ้อมรับมือเพื่อจะได้คุ้นชินหากต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์นั้นจริงๆ

นอกจากนั้นยังรวมถึงการคงไว้ซึ่งเสถียรภาพของธุรกิจบนความโปร่งใสของการดำเนินงานด้วย ที่สำคัญมีควรที่จะเร่งรีบขายธุรกิจให้เติบโตมากจนเกินไป โดยปราศจากการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด  

 

ในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย หากบริษัทใดมีการบริหารแนวรับที่ดี ถึงแม้ว่ากิจการจะไม่เติบโตอย่างหวือหวา หรือก้าวกระโดดนัก แต่ผมก็เชื่อว่า บริษัทนั้นก็จะไม่เพลี่ยงพล้ำกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่มากจนเกินไป ขั้นตอนนี้เหมือนกับ ดำเนินธุรกิจตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์ในหลวง ร.9 เมื่อวิกฤตแล้วไม่เจ็บหนัก มีภูมิคุ้มกันที่ดี  

 

 
 

ส่วนปราการด่านสุดท้าย “รักษา” ถ้าหากธุรกิจนั้นก็จะกลายเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนและสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในทุกสภาวการณ์ ถือว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด และเชื่อว่าน่าจะมีธุรกิจน้อยกว่า 20% ในโลกนี้ที่สามารถทำได้ เพราะในขั้นตอนของการรักษา จะต้องมีทั้งการ ริเริ่ม รุก และรับ ไปในเวลาเดียวกัน

 

มิติของการรักษา คือ เจ้าของธุรกิจจะต้องเข้าใจ สร้างสมดุลให้ได้ ทั้งในเรื่องของการดำรงรักษาไว้ซึ่งธุรกิจเดิม ริเริ่มรุกในธุรกิจใหม่ และใส่ใจกับการสร้างแนวรับที่เข้มแข็งไปพร้อมๆ กัน กล่าวคือ จะต้องไม่ได้หน้าแล้วลืมหลังนั่นเอง โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นลักษณะของธุรกิจครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ จะต้องพยายาม “รักษา” ธุรกิจเอาไว้ให้ได้จากรุ่นสู่รุ่น 

 

จะเห็นได้ว่า การสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ล้วนแต่มีความยากและง่ายในแต่ละขั้นตอน โดยเฉพาะเรื่องของการ “รักษา” นั้น ความยากของทายาทธุรกิจที่จะเข้ามาบริหารธุรกิจของครอบครัวให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ จึงต้องอาศัยความเข้าใจในมิติของการรักษาก่อนเป็นอันดับแรก

แต่ทายาทธุรกิจส่วนใหญ่มักจะมองข้ามขั้นตอนนี้ และมองแต่เพียงมิติของการริเริ่ม จนบางกรณีอาจทำให้ธุรกิจที่มีการสืบทอดต่อๆ กันมาต้องมีอันสูญสลายไปในที่สุด