บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การหาลูกค้า วิจัยทางการตลาด
3.0K
2 นาที
21 พฤศจิกายน 2559
รู้ยัง! 5 เทคนิคทำตลาดจาก Facebook  ทำแล้วดี! ลูกค้าชอบ


 
การตลาดในปัจจุบันโดยเฉพาะโลกออนไลน์แม้จะเป็นตลาดที่รุ่งพุ่งแรง

แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามสำคัญคือความหลากหลายที่มากมายนี้จะนำมาซึ่งการภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างไร

และนี่คือยุทธศาสตร์สำคัญที่นักธุรกิจออนไลน์อาจมองข้ามหลายคนมุ่งเป้าทำยอดขายไม่สนใจว่าคนจะคิดอย่างไรกับสินค้าขอแค่เปิดลูกค้าใหม่ๆได้ตลอดเวลาก็เพียงพอ
 
แต่สิ่งที่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองเห็นนั้นคือสิ่งสำคัญที่ยิ่งกว่าการขายได้คือทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกได้ว่าสินค้าเราสามารถเป็นที่พึ่งพิงได้แน่นอนว่า

นั้นคือเรื่องความคิดแต่เชื่อหรือไม่ว่า Facebook ในฐานะเครื่องมือการตลาดที่นิยมที่สุดก็มีแนวคิดที่ต้องการให้ลูกค้าเกิดความภักดีต่อแบรนด์จนนำมาซึ่งการสำรวจและการค้นหาวิธีที่กำหนดเป็นกลยุทธ์การตลาดในสไตล์Facebook สำหรับSMEsคนไหนถ้าเลียนแบบทำได้ตามนี้โอกาสรุ่ง พุ่ง แรงมีสูงมากทีเดียว
 
จากการสำรวจของ Facebook IQ  ในสินค้าที่มีการโฆษณาบน Facebook มากที่สุดเช่นกลุ่มของธุรกิจประกันรถยนต์ สายการบิน โรงแรร้านอาหารต่างๆ

พบว่าจากจำนวนผู้ใหญ่กว่า 14,700 คนในอเมริกา มีกว่า 77 %ที่มีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าแบรนด์เดิมแบบซ้ำๆ และในจำนวนนี้มีถึง 37% ที่เรียกว่าภักดีต่อแบรนด์นั้นๆชนิดที่ไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้สินค้าจากยี่ห้ออื่น ส่วนอีก 40 % ก็ถือว่านิยมสินค้าใน Facebook นั้นๆแต่ยังมีการลองสินค้าใหม่ๆเข้ามาร่วมด้วย
 
ดังนี้จึงเกิดคำถามที่น่าสนใจว่าคนกว่า 37% มองเห็นอะไรในโฆษณาบน Facebook ถึงขนาดที่ใจรักและภักดีต่อแบรนด์ไม่ยอมเปลี่ยนไปไหนทั้งที่กลุ่มคนเหล่านี้ถือเป็นยุคคนหนุ่มสาวที่มีโอกาสพบปะสินค้าและบริการจำนวนมาก แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องมีทริคเล็กๆน้อยและนี่คือเหตุผล 5 ประการถ้าอยากให้สินค้าเราครองใจคนได้ดีในการโฆษณาบน Facebook

1. ความรักแบรนด์เกิดและเติบโตจากอารมณ์ล้วนๆ 
ถึงแม้ 77% ของคนทำสำรวจทั้งหมดมักจะซื้อแบรนด์ซ้ำๆบ่อยๆ แต่ก็มีสาเหตุต่างกันซึ่งสามารถแบ่งแยกได้ว่าคนที่ซื้อสินค้าแบบซ้ำๆนั้นเพราะการโฆษณาบน Facebook มีการตั้งราคาที่ดูสมเหตุสมผลบางชิ้นอาจแพงกว่า

แต่ก็มีที่มาว่าเพราะอะไรหรือคนที่ซื้อซ้ำแบบไม่มองราคาก็เพราะดูว่าสินค้าที่โฆษณานั้นมีคุณภาพต่อการใช้ชีวิตมากพอ เมื่อสะสมทั้งคู่ด้วยกันจึงก่อให้เกิดความภักดีที่มาจากการโพสต์แบบต่อเนื่องของสินค้า
 
2.การสกรีนลูกค้าด้วยการเลือกสินค้าที่ดีและมีคุณภาพในการโพสต์ขายเท่านั้น

จากการสำรวจของ Facebook IQ  พบว่าคนที่อายุ 18-34 ยังถือเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากลองต้องการทดสอบสิ่งต่างๆ รวมถึงสินค้า การโพสต์ใน Facebook จึงต้องมุ่งตอบสนองคนกลุ่มนี้เป็นหลักสินค้าหลายชนิดประสบความสำเร็จเพราะเลือกสินค้าที่โพสต์เป็นสินค้าคุณภาพซึ่งคู่แข่งไม่อาจเอามาเทียบเคียงได้

สินค้าสำคัญที่เห็นเด่นชัดว่าแตกต่างคือธุรกิจบริการอย่างโรงแรม รีสอร์ท หรือว่าสายการบิน ซึ่งทั้งราคา โปรโมชั่น และคุณภาพสินค้าเป็นตัวจูงใจที่ทำให้คนเลือกจะมองหาใน Facebook ก่อนเป็นอันดับแรก
 
3.ราคาก็สำคัญ แต่ประสบการณ์สำคัญกว่า

ในการสำรวจของ Facebook IQ  ครั้งนี้ มีข้อพิสูจน์ซ้อนกันมาอีกอย่างคือการที่คนมีรายได้สูงก็ยิ่งทำให้รักแบรนด์นั้นได้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งใน 32%ของคนกลุ่มนี้ถือว่ามีรายได้สูงในระดับหนึ่งแต่ก็ใช่ว่าคนที่มีรายได้ในระดับรองๆลงมาจะไม่ภักดีต่อแบรนด์ใดๆ สิ่งที่คนจะเห็นได้จากสินค้าที่โพสต์ผ่าน Facebook คือความสม่ำเสมอ

นั้นทำให้คนส่วนใหญ่มักเทเหตุผลไปที่เรื่องประสบการณ์สินค้านั้นหมายถึงอยู่ยิ่งนานยิ่งคุณภาพดีบางที่คนยอมจ่ายให้แบรนด์ที่จำง่ายกว่า หรืออาจเป็นรสชาติที่หาที่ไหนกินไม่ได้ หรือความสนุกสนานในครอบครัวที่เขาจำได้ตอลดไป เป็นต้น

4.สินค้าแนวครอบครัวยังมาแรง ถ้าใครรักแล้วจะรักกันไปนานๆ
 
เราพบว่าในยุคสมัยนี้พ่อแม่จำนวนมากเลือกดูข้อมูลสินค้าผ่านทาง Facebook หรือทางมาเกตติ้งออนไลน์เป็นหลักด้วยไม่มีเวลาไปช็อปปิ้งหรือสามารถใช้เวลาอยู่กับครอบครัวได้มากขึ้นก็ตามแต่นั้น

จึงเป็นผลให้สินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวกับเด็ก ครอบครัว มีกลยุทธ์ที่จะสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นกับคนกลุ่มนี้ให้ได้ เพราะการปักใจในสินค้าประเภทใดประเภทหนึ่งจะนำมาสู่ความมั่นใจที่จะไม่เลือกมองสินค้าจากแบรนด์อื่นอีกต่อไป

5.ยิ่งเล่น Facebook มากก็ยิ่งรักแบรนด์มาก

เรื่องนี้ถือว่ามีความชัดเจนมากว่าทำไมสินค้าที่ขายในเฟสบุ๊คถึงติดตลาดได้ดีจากการสำรวจเช่นกันที่พบว่าคนที่ใช้ Facebook มากกว่า 5 ครั้งต่อวันมีแนวโน้มจะสนใจเลือกซื้อสินค้าในเฟสบุ๊คได้มากกว่าคนที่ใช้ Facebook แค่เดือนละครั้งประมาณ 1.5-2 เท่า

แน่นอนว่าแพลตฟอร์มของการโฆษณาต้องสะดุดและดึงดูดรวมถึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพื่อให้ผู้เล่นเฟสบุ๊คได้ติดตามได้อย่างมีสีสันมากขึ้น
 
ดังนั้นข้อสรุปสำคัญที่จะทำให้การโพสต์ขายสินค้าผ่านเฟสบุ๊คเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ นั้นต้องเริ่มจากการบริการเพื่อสร้างความไว้วางใจ และพร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์และคุณภาพของสินค้าแบบดีที่สุดและข้อสุดท้ายคือทำให้ผู้ใช้เฟสบุ๊ครู้สึกว่าสินค้าที่เราโพสต์ขายเหมือนเป็นคลังส่วนตัวที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ตลอดเวลา

ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้แม้จะดูเป็นเรื่องฉาบฉวยแต่ก็แฝงไปด้วยความหมายสำคัญหากเราจับใจความจากความต้องการเหล่านี้ได้โอกาสที่การโพสต์ขายผ่านเฟสบุ๊คจะประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดีก็มีมากขึ้นด้วย
 
ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/mqQ3cB
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
519
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
436
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
423
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
419
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด