บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    Startups    แอพพลิเคชั่นและซอฟต์แวร์
2.9K
2 นาที
6 ธันวาคม 2559
7 กลยุทธ์ Mobile Marketing ปี 2560 รู้ก่อน ได้เปรียบ!

 
อย่างที่เรารู้กันว่าปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เป็นมากกว่าเดิม

ยิ่งเราผูกพันกับสมาร์ทโฟนของเรามากขึ้น การทำ Mobile Marketing ก็ยิ่งสำคัญมากสำหรับแบรนด์ที่ทันสมัย ยิ่งเราเริ่มเร็วมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งดีต่อธุรกิจมากเท่านั้น

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่า Mobile Marketing มีการเติบโตที่รวดเร็วมาก และทั้ง 7 สิ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในการตลาดปี 2560 เป็นแน่
 
1. Mobile Apps จะเป็นส่วนหนึ่งในผลการค้นหาบน Google

Google เพิ่มผลการค้นหาโดเมนโดยรวมเอา Mobile apps เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผลการค้นหาบน Smartphone หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่า มีการเปลี่ยนให้เว็บไซต์ของธุรกิจกลายเป็น Mobile Friendly มากขึ้นเพราะจอมือถือเป็นหน้าจอหลักที่คนทั่วไปใช้มากที่สุด

และในตอนนี้ถ้าธุรกิจของเราคิดจะสร้างแอพขึ้นมาก็ถือเป็นเวลาที่ถูกต้องที่เพราะมันจะส่งผลให้ผลการค้นหาอยู่ในลำดับต้นๆ ของ SEO นั้นหมายถึงโอกาสของธุรกิจเราจะเป็นที่รู้จักมีมากขึ้นจากคนทั่วโลกที่กว่า 80 % มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือ จึงถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่ใครยังไม่รู้ควรทราบและเมื่อทราบรีบลงมือทำรับรองดีต่อธุรกิจของคุณแน่
 
2. การโฆษณาบน Instagram

Instagram แอพแชร์ภาพถ่ายชื่อดังที่เริ่มต้น จาก Mobile only และมีการเติบโตอย่างมากโดยในขณะนี้ประเทศไทยมี ผู้ใช้เครือข่ายนี้มากกว่า 7.8 ล้านคน/เดือนโดยมีการกดไลน์ไม่ต่ำกว่ามี 74 ล้านครั้ง/วัน

รวมถึงมีรูปอัพผ่าน Instagram กว่า 1.8 ล้านรูปต่อวัน และจากตัวเลขความนิยมที่พูดถึงนี้ทำให้แบรนด์สินค้าจำนวนไม่น้อยเริ่มหันมาสนใจในการโฆษณาผ่าน Instagram มากขึ้น จึงถือเป็นจุดเริ่มที่ดีหากธุรกิจของคุณเองมีช่องทางของโซเชี่ยลมีเดียทุกอย่างยกเว้นอินสตราแกรม ควรใช้โอกาสนี้สมัครเข้าร่วมเครือข่ายแล้วสร้าง Mobile Marketing ให้สำเร็จกันบน Instagram นี้เลย
 
3. Multi-Device Mobile Marketing

ถ้ากำลังคิดว่า Mobile Marketing คือแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น นั่นแสดงว่าตัวคุณเองกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Mobile Marketingอย่างสิ้นเชิงเพราะแท้ที่จริงแล้วMobile Marketing นั้นมีหลายช่องทางกว่านั้นรวมถึง Smartwatches กับ Tablet ด้วยก็ถือเป็น Mobile Marketing อีกอย่างหนึ่งด้วย โดยลูกค้าอาจเห็นสินค้าของเราบน Smartphone แล้วทำการหาข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อในช่องทางโซเชี่ยลอื่นๆ

ในบทความของ Forbes.com เรื่อง Consumers Take A Multi-Device Path To Purchase อธิบายพฤติกรรมของลูกค้าว่าเริ่มต้นจากจอที่หนึ่งแล้วย้ายไปยังอีกจอหนึ่ง โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ได้หลายอย่างแต่ที่แน่ๆ คือมันไม่ได้จบที่หน้าจอเดียวเท่านั้น

4. Video Content

ในปีที่ผ่านมา การทำโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ วีดีโอนั้นถือว่ามีการขยับตัวค่อนข้างมาก หลายๆแบรนด์ทั้งใหญ่ทั้งเล็กเรียงแถวปล่อยโฆษณาทางวีดีโอออกมามากมาย

เหตุผลหลักเนื่องมาจากเทรนด์ของผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันผ่านเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์มากขึ้น จากตัวเลขสถิติในปีที่ผ่านมา ผู้ใช้งานใช้อินเทอร์เนตมากถึง 55% ในการดูคอนเทนท์วีดีโอ และ 68% ของวีดีโอถูกแชร์ เมื่อดูบนสมาร์ทโฟนและน่าจะมากขึ้นอีกในปีนี้และปี 2017  ด้วยเหตุนี้นักการตลาดจึงต้องปรับกลยุทธ์ในใช้วีดีโอคอนเทนท์มากขึ้นในการเข้าถึงผู้บริโภค
 
5. การรวมกันระหว่าง Ecommerce และ Social Media

อาจจะฟังดูไม่ใหม่นักสำหรับคนไทย ที่ใช้ช่องทางอย่าง Facebook ขายสินค้ามานานแล้ว แต่การสร้างระบบรองรับอย่างเป็นทางการของ Facebook น่าจะทำให้ช่องทางนี้เติบโตขึ้น มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าโอนเงินแล้วจะไม่ได้ของ เพราะมันจะมาพร้อมกับการคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์ของ Facebook
 
นอกจากนี้ยังเป็นการทำลายเส้นแบ่งระหว่างร้านค้าและสื่อออนไลน์ โดยคนส่วนใหญ่มักจะเข้าไปอ่านรีวิวสินค้าใน Facebook Page ก่อนทำการตัดสินใจซื้อ ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องที่ง่ายและเร็วขึ้นด้วย
 
6. ระบบจ่ายเงินผ่าน Smartphone

Apple pay และ Samsung Pay อาจเป็นเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการทำ Mobile Marketing ด้วยการจ่ายเงินผ่าน Smartphone ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นปลอดภัยกว่าการใช้บัตรเครดิตเพราะไม่มีการแสดงเลขบัตรเครดิตและยังต้องยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือเท่านั้น

ซึ่งปลอดภัยจากการปลอมลายเซ็นต์ ไม่ต่างจากยุคที่เปลี่ยนการใช้เงินสดมาเป็นบัตรเครดิตและในอนาคตอันใกล้ก็จะเป็นเรื่องปกติของคนทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เราไม่สามารถมองข้ามสิ่งนี้ไปได้เลย
 
7. App สำหรับคนรักสุขภาพ
 
เทรนด์ของการดูแลสุขภาพยังอยู่ในช่วงขาขึ้น สังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลง positioning ของ Apple watch จากที่เคยวางตำแหน่งให้เหมือนเป็นเครื่องประดับที่แสดงถึงความสำเร็จ เหมือนนาฬิกาแบรนด์เนมอย่าง Rolex

เห็นได้ชัดว่าล่าสุดได้เปลี่ยนมาเป็นเครื่องมือ Fitness Tracking อย่างเต็มรูปแบบ เพราะการแชร์ระยะทางที่เราวิ่งล่าสุด หรือแคลเลอรี่ที่ถูกเบิร์น กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Lifestyle และเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนที่แชร์มีชีวิตความเป็นอยู่ดีแค่ไหน และคาดว่าเราคงได้เห็นสิ่งนี้บ่อยมากขึ้นในปีหน้า
 
ทั้งหมดนี้คือ 7 แนวโน้มที่เรานำมาเป็นแนวทางในการนำไปปรับใช้กับการทำการตลาดบนสามาร์ทโฟนในปี 2017 หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเพิ่มช่องทางในการติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้ใกล้ชิดมากขึ้น เพราะปัจจุบันการพัฒนาบนมือถือเดินทางมาไกล และคาดว่าจะไปได้อีกจนเราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อม และรับมือให้ทันเท่านั้นเอง
 
ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/6UvHgK
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
428
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
413
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
408
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด