ภาพจาก goo.gl/uYL70M

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซากันถ้วนหน้าและดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาที่สะสมมานานไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยแต่นี่คือปัญหาระดับโลกทั้งการเงินที่ไม่คล่องตัวประกอบกับภาวะการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เข้าสู่ยุคไฮเทคโนโลยีกันมากขึ้นส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกดูจะได้รับผลกระทบกันไปเต็มๆ

สังเกตได้จากยอดขายและการสั่งซื้อสินค้านั้นน้อยลงอย่างน่าใจหายจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พักนี้เราจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีกจำนวนมากที่ทยอยปิดสาขาตัวเองให้เหลือน้อยลงหรือบางทีถึงกับปิดกิจการส่วนที่ยังอยู่ต่อก็ต้องพยายามปรับปรุงโครงสร้างและพัฒนารูปแบบการค้าให้สอดคล้องกับภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจมากขึ้น 
 

 

ถ้าเรามองไปที่ตลาดค้าปลีกของอเมริกาจะพบว่าปัญหานี้ค่อนข้างรุนแรงทีเดียวดูจากข่าวใหญ่ที่ได้ยินได้ฟังกันไปไม่นานนี้อย่างห้าง Walmart ที่เจ้าของกิจการได้เทขายหุ้นให้กับผู้ที่สนใจรวมถึงร้านค้าปลีกแบรนด์ชั้นนำอีกจำนวนมากที่ปิดกิจการกันไป

ในจุดนี้ทำให้ดูเหมือนกับว่านี่คือจุดจบของวงการค้าปลีกแต่ www.ThaiFranChisecenter.com  พบข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจและน่าจะเป็นการจุดประกายให้คนทำธุรกิจนี้ได้มองเห็นภาพว่าแท้ที่จริงแล้วตลาดค้าปลีกนั้นยังน่าสนใจเพียงแต่ต้องเข้าใจและปรับตัวให้ได้เท่านั้น

 

ภาพจาก goo.gl/RharvK

Dollar General ภายใต้การบริหารงานของ Dollar General Corporation ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกสัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งมานานกว่า 78 ปี ปัจจุบันมีร้านสาขาทั่วอเมริกากว่า 12,500 แห่ง เป็นการเติบโตที่น่าสนใจหลังจากที่ในยุคแรกนั้นเริ่มต้นกิจการด้วยจำนวนสาขาแค่ 280 แห่งทั่วอเมริกาเท่านั้น Dollar General เป็นแบรนด์ค้าปลีกที่นำเสนอสินค้าหลากหลายแบรนด์ครอบคลุมทุกความต้องการของบรรดาลูกค้า

และการขยายฐานลูกค้านั้นถือเป็นไม้เด็ดของ Dollar General ที่เข้าตีตลาดตามเมืองเล็กๆได้เป็นอย่างดีซึ่งพื้นที่เหล่านี้แม้กระทั่ง Walmart คู่แข่งคนสำคัญก็ยังไปช่วงชิงพื้นที่ค้าขายมาไม่ได้ และเพื่อเป็นการปรับตัวให้สอดคล้องกับผู้คนได้มากขึ้นรูปแบบการดำเนินกิจการจึงมีการพัฒนาไม่หยุดยั้งเช่นในปี 2543 ที่ Dollar General ได้ทดลองเปิดร้านค้าสไตล์ใหม่ภายใต้ชื่อ Dollar General Market ที่ทำให้ผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยเข้าถึงสินค้าและบริการของ Dollar General ได้มากขึ้นด้วย
 

 

มาถึงในยุคปัจจุบันที่ธุรกิจค้าปลีกจำนวนมากโดนพ่นกระทบจากสื่อโซเชี่ยลเล่นงานอย่างหนักที่ Dollar General กลับสวนกระแส ประกาศเพิ่มร้านค้าอีกกว่า 1,000 แห่ง และหากทำสำเร็จได้ตามที่ประกาศไว้เท่ากับว่า Dollar General จะมีหน้าร้านทั้งหมด 14,300 แห่งทั่วอเมริกา ในทั้งหมด 43 รัฐ และยังไม่รวมที่ได้เปิดเพิ่มไปในปี 2016 ที่ผ่านมาอีกกว่า 900 แห่ง และหากไปดูที่ยอดขายพบว่ามีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบ 14% ในไตรมาสแรกของปีนี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 200,000 ล้านบาท เลยทีเดียว

 

และต่อไปนี้คือ 5 ปัจจัยความสำเร็จของ Dollar General ที่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างน่าทึ่ง

 

 

หากใครได้เดินไปสำรวจร้านค้าของ Dollar General จะพบว่ามีหลายสาขาที่เรียกลูกค้าด้วยวิธีพื้นฐานธรรมดาๆแต่ว่ามีผลต่อการตัดสินใจซื้อ นั้นคือแคมเปญลดราคา ยกตัวอย่าง Dollar General ในริชมอนด์ มลรัฐเวอร์จิเนียร์ พอเข้ามาในร้านจะพบกับโต๊ะขายสินค้าลดราคากระหน่ำ โดยแปะป้ายไว้ว่า “โอกาสสุดท้าย” ของสินค้าลดราคา เชิญหยิบได้เลย
 

แม้จะดูว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำกันแต่ในยุคนี้คนที่จะเล่นเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจังก็ต้องสุ่มเสี่ยงต่อผลกำไรที่น้อยลงและหากขาดวิธีบริหารจัดการที่ดีการลดราคาก็ไม่ใช่ผลดีกับธุรกิจทั่วไปแต่นั้นไม่ใช่ข้ออ้างของ Dollar General ที่ทำเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

 

แม้แต่ในบ้านเราเองทุกวันนี้เรายังเห็นร้านค้าประเภทสินค้าราคาเดียวเปิดกันมากขึ้น และดูเหมือนว่าเชนร้านค้าแบบนี้จะถูกต้องถูกใจกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้อย่างดี ซึ่ง Dollar General ก็เข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคอย่างดีเช่นกัน จึงไม่แปลกใจที่ Dollar General จะผสมผสานแนวคิดนี้กับการทำธุรกิจด้วยการจัดโซน “ทุกอย่างราคา 1ดอลลาร์” ที่สามารถเรียกลูกค้าได้มากขึ้นและปากต่อปากกันทำให้มีคนสนใจเพิ่มขึ้นรวดเร็วและแน่นอนเช่นกันว่าเราจะไม่เห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคู่แข่งอย่าง Walmart หรือ Kroger แน่นอน

 

ในขณะที่ห้างค้าปลีกรายอื่นต่างมุ่งเน้นกับสินค้าแบบทั่วไปชนิดที่เรียกว่าเป็นของดีและเป็นที่ต้องการแต่ในบางครั้งสินค้าเล็กน้อยๆ เฉพาะกลุ่มเฉพาะคนนั้นกลับหาใช้ไม่ค่อยได้แต่แนวคิดของ Dollar General กลับแตกต่าง ที่นี่เราจะเจอสินค้าประเภทเสื้อผ้า รองเท้าแตะ  แม้กระทั่งชุดชั้นใน ที่ห้างค้าปลีกอื่นๆ อาจเน้นแค่เรื่องสินค้าบริโภคเป็นหลักแต่สำหรับ Dollar General แล้วทุกความต้องการของลูกค้าสามารถแปรเปลี่ยนเป็นสินค้ามาขายในร้านได้ทั้งสิ้น

 

 

ภาพจาก goo.gl/J9PVqF

ต่อเนื่องกันมากับความหลากหลายซึ่งการพูดคุยกับลูกค้าของ Dollar General ต่างบอกว่าเสน่ห์ของร้านค้าปลีกเชนนี้คือไม่ว่าเราต้องการอะไรไม่ต้องเดินไปหาที่ร้านไหนให้เดินเข้ามาที่ Dollar General แล้วจะเจอกับทุกสิ่งที่ต้องการและด้วยสาขาที่มากมายก็ทำให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคได้รวดเร็วกว่าการสั่งซื้อออนไลน์และเราสามารถเลือกสินค้าได้เองเห็นกับตาและใช้งานได้เร็วขึ้น

โดยสินค้าที่หลากหลายนั้นก็เช่นของเล่นเด็ก อุปกรณ์ทำครัว อุปกรณ์กีฬา เครื่องมือในห้องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก อุปกรณ์ตกแต่งภายในบ้าน อุปกรณ์งานฝีมือ บอกเลยว่ามีครบ จบทุกอย่างจริงๆ

 

 

ภาพจาก goo.gl/kyY098

ไม่ใช่ว่า Dollar General จะไม่เจอผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ซบเซาแต่ Dollar General เลือกที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในเรื่องการบริการ สินค้าก็เป็นส่วนหนึ่งแต่ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือบุคลากรที่ Dollar General ใช้พนักงานเพียง 2-4 คนภายในร้านที่ทำหน้าที่ตั้งแต่คิดเงินไปจนถึงจัดสต็อคสินค้า

ซึ่งการใช้คนน้อยก็ทำให้ประหยัดรายจ่ายได้มากซึ่งเป็นจุดแตกต่างจากห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่การลดจำนวนคนมีผลทำให้งานเกิดความล่าช้าสุดท้ายต้นทุนบุคลากรกลายเป็นตัวกแปรที่ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นเดินหน้าไม่ได้ซึ่งต้องยอมรับว่า Dollar General จัดการเรื่องนี้ได้ดีจริงๆ

 

โดยสรุปแล้ว กลยุทธ์ของ Dollar General ที่ทำให้ราคาสินค้าไม่สูง มาจากการที่ลดการจ้างแรงงานและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ภายในร้าน ดูได้จากการที่มีผลิตภัณฑ์แทบทุกชนิด แต่อัดแน่นอยู่ในร้านเล็กๆ จุดนี้น่าจะเห็นได้ชัดว่า ทำไม Dollar General จึงเติบโตท่ามกลางร้านค้าปลีกรายอื่นที่กำลังทยอยปิดตัวลงไปเรื่อยๆ

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก goo.gl/EgdBDx