ปี 2560 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะมุ่งส่งเสริมตลาดในประเทศ เสริมสร้างความเข้มแข็ง จากภายในตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0 โดยมุ่งสร้างรายได้จากไทยเที่ยวไทยเชิงคุณภาพ สร้างสมดุลในเชิงพื้นที่และเวลา สมดุลในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้สามารถรักษาสัดส่วนรายได้จากในประเทศต่อรายได้การท่องเที่ยวรวม ไม่น้อยกว่า 33% 
 

ภายใต้นโยบาย “ปลุกพลังเที่ยวไทย ใส่ใจท้องถิ่นยั่งยืน” กระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ลดการเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้ตั้งเป้าหมายการขับเคลื่อนรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2560 ไว้ที่ 2.71 ล้านล้านบาท ขยายตัว 8.17% สอดคล้องกับการท่องเที่ยวฯ มองไว้ที่ 2.77 ล้านบาท 
 

แต่กระนั้น ก็อย่าลืมไปว่าตอนนี้ ภาคการท่องเที่ยวอาจจะซบเซาลงไปบ้าง เพราะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น ทำให้การเดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ของนักท่องเที่ยวอาจจะน้อยลงไปบ้าง ดังนั้น ทุกธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอาจจะต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นและดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวไม่ให้ตกต่ำลงไปในช่วงโลว์ซีซั่น 
 

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จึงอยากนำเสนอ 5 กลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจด้านการท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อที่จะโกยเงิน สร้างรายจากนักท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็ลองนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองดูครับ
 

จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน ถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงทำให้เราได้เห็นการทำการตลาดคอนเทนต์มีความดุเดือดและแข่งขันกันสูงมากบนโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ที่ต่างมีการโฆษณา ประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นต่างๆ ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งสายการบิน โรงแรมที่พัก แพ็กเกจท่องเที่ยว
 

หัวใจหลักของการตลาดแบบสร้างคอนเทนต์ คือ ความคิดสร้างสรรค์ที่ผู้ประกอบการ ต้องคิดหาการนำเสนอที่แปลกใหม่ และเป็นที่สนใจของผู้บริโภค เช่น การนำเสนอภาพเมนูอาหารจานเด็ดของที่พัก ที่มีการนำเสนอถึงวิธีการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นและนำเสนอวัฒนธรรมที่แปลกใหม่ผ่านอาหาร
 

รวมไปถึงการนำเสนอห้องพักผ่านบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดต่างๆ จะเป็นตัวช่วยในการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ ต้องมีการบริหารจัดการกลยุทธ์ของที่พักในช่วงโลว์ซีซั่น โดยสามารถสรุปเป็น 5 ข้อ ดังนี้
 

 

ศึกษาแนวโน้มความนิยมของกลุ่มลูกค้า พิจารณาคู่แข่งขันในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน และจัดทำแผนกลยุทธ์ของตนเอง โดยพิจารณาถึงการแบ่งส่วนของตลาด (Segmentation) และการกำหนดเป้าหมาย (Targeting) ในช่วงโลว์ซีซั่น รวมไปถึงการกำหนดตำแหน่งทางการตลาด (Positioning) เพื่อดึงศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจ
 

2. สำรวจตลาดและเก็บข้อมูลสม่ำเสมอ 
 

ผู้ประกอบการควรทำการเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น การขาย อัตราการใช้วัตถุดิบ วัตถุดิบคงเหลือ รวมถึงข้อมูลจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เคยมาใช้บริการ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ และวางแผนการตลาดในช่วงโลว์ซีซั่นในปีถัดไป
 

 

ผู้ประกอบการควรวางแผนการจัดโปรโมชั่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และธุรกิจต่างๆ ของท้องถิ่น เพื่อนำเสนอแพ็กเกจกิจกรรมที่น่าสนใจกว่าการขายที่พักเพียงอย่างเดียว เพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร
 

ผู้ประกอบการอาจต้องวางแผนในการเก็บเกี่ยวยอดจองล่วงหน้าก่อนช่วงโลว์ซีซั่น โดยหากธุรกิจของคุณมีศักยภาพในการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวปริมาณมาก อาจจะพิจารณาในการขายแบบกรุ๊ปทัวร์ เช่น นักท่องเที่ยวเดินทางเป็นกลุ่ม จัดงานจัดเลี้ยง รองรับการประชุม และสัมมนา อาจมีโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง 

 

ผู้ประกอบการอาจจะขอความร่วมมือจากรัฐบาล อนุญาตให้นักท่องเที่ยวในแต่ละประเทศต่างๆ ไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถยื่นขออี-วีซ่า หรือวีซ่าออนไลน์ได้ด้วย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจอาจมีบริการให้นักท่องเที่ยว สามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในเว็บไซต์อาลีบาบาได้ (ลูกค้าชาวจีนนิยม) ทั้งแพ็คเกจทัวร์ โรงแรม โดยมีส่วนลดสำหรับการช็อปปิ้งและเข้าร้านอาหาร ตั๋วเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวหรือตั๋วรถไฟ จะทำให้วางแผนท่องเที่ยวทำได้สะดวกขึ้น
 

ได้เห็นกันแล้วว่า 5 กลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการในช่วงโลว์ซีซั่น มีอะไรบ้าง ผู้ประกอบการที่รู้สึกว่าช่วงนี้นักท่องเที่ยวลดน้อยลง ก็สามารถที่จะนำกลยุทธ์ข้างต้นไปลองปรับใช้ดู ไม่แน่ในช่วงโลว์ซีซั่นของปีถัดไป อาจทำให้ธุรกิจของคุณไม่เงียบเหงาก็ได้นะครับ
 

อ่านบทความ SMEs goo.gl/V9mw2n