7 สิ่งอย่างสร้าง email Marketing ให้ประสบความสำเร็จ


 

Email Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Email เช่น Email แจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น หรือส่วนลดพิเศษแก่สมาชิกหรือลูกค้าของบริษัท โดยที่ผู้รับ Email ได้ยินยอมในการรับข่าวสาร

นั่นหมายความว่าการทำ Email Marketing นั้นต่างจาก Spam Mail หรืออีเมล์ขยะอย่างชัดเจนซึ่งการที่เราจะทำ Email Marketing กับใครได้นั้น เราต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของ Email นั้นก่อน จึงจะส่งข้อมูลข่าวสารไปได้ ซึ่งดูเป็นมิตรกว่าการ Spam Mail อย่างมาก และผู้รับเองก็มีสิทธิ์ที่จะอนุญาตหรือยกเลิกการรับเมลล์ของเราได้ทุกเวลาเหมือนกัน 
 

การทำ Email Marketing เมื่อผู้คนมีความต้องการที่จะรับข้อมูลข่าวสารก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า สิ่งที่ธุรกิจกำลังมอบให้กับลูกค้ามีประโยชน์ มีคุณค่าถึงยินดีที่จะรับ และยิ่งเราให้คุณค่ากับลูกค้ามากเท่าไร

ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้าก็จะยิ่งมากขึ้น ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่จะนำไปสู่เส้นทางธุรกิจระหว่างกันในระยะยาวต่อไปทั้งนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มี 7 วิธีการทำ email Marketing ให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นมาฝากกันด้วย
 

1. มีกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
 

สิ่งแรกที่ต้องทำคือกำหนดเป้าหมายว่าเราต้องการทำเพื่ออะไร เช่น หากต้องการสร้างยอดขายให้กับสินค้าหรือบริการของก็ต้องเน้นการส่งอีเมลไปยังกลุ่มลูกค้าเก่าๆ ที่เคยซื้อสินค้าหรือบริการของเรามาแล้ว

โดยอาจจะใส่หัวอีเมลให้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นส่วนลด หรือการลดแลกแจกแถม จะทำให้ได้ผลที่ดีกว่าการส่งอีเมลแบบหว่านโดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าของอีเมลนั้นมีความสนใจในตัวสินค้าหรือบริการของเราจริงๆ หรือไม่ ซึ่งทำให้เสียเวลาเปล่า และไม่คุ้มค่าด้วย

 

2.จำแนกผู้รับอีเมลล์ออกเป็นกลุ่มย่อย
 

การแบ่งกลุ่มผู้รับอีเมลออกเป็นหลายๆ กลุ่มจะช่วยให้การส่งอีเมลถึงผู้รับได้อย่างตรงจุด และตรงกับความต้องการพื้นฐานเพิ่มมากขึ้น โดยอาจใช้เกณฑ์ในการแบ่งกลุ่มเป็น อายุ เพศ มีประวัติการซื้อหรือการตอบรับอีเมล ซึ่งกลุ่มเหล่านี้บางครั้งก็ต้องมีการอัพเดทข้อมูลอย่างต่อเนื่องด้วย

 

3. ตั้งชื่ออีเมลล์ให้น่าสนใจ
 

ชื่ออีเมลคือสิ่งแรกที่ผู้รับอีเมลจะมองเห็นจึงต้องให้ความสำคัญกับการตั้งชื่ออีเมลทุกครั้ง ทั้งนี้การตั้งหัวข้ออีเมลควรจะใช้คำที่เข้าใจง่าย สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน รวมถึงต้องกระตุ้นความสนใจให้คนอยากรู้อยากเห็นและอยากเปิดอ่านได้ด้วย นอกจากนี้ยังไม่ควรใช้ข้อความที่สั้นหรือยาวจนเกินไป หากอยู่ในระหว่าง 28-39 ตัวอักษร ก็จะดีที่สุด

 

4.มีกำหนดเวลาในการส่งอีเมลล์ที่แน่นอน
 

สำนักวิจัยด้านการตลาดอย่าง GetResponse ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คนจะให้ความสนใจเปิดอ่านอีเมลมากที่สุดในแต่ละวัน โดยจะอยู่ในช่วงเวลาระหว่าง 08.00-09.00 น. และอีกช่วงคือ 15.00-16.00 น. โดยเฉพาะวันพุธและวันพฤหัสบดี ดังนั้นผู้ส่งจึงควรจะส่งอีเมลก่อนเวลาดังกล่าวเพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

5.ต้องระบุตัวตนของผู้ส่งเมลล์ให้ชัดเจน
 

เป็นธรรมดาที่เมื่อคนเราได้รับอีเมลล์ก็จะดูว่าเมลล์นั้นส่งมาจากที่ไหน เพื่ออะไร ดังนั้นบนอีเมลที่ส่งก็ควรจะมีการระบุถึงตัวตนของแบรนด์ หรือเจ้าของสินค้าและบริการอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงโลโก้ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นแบรนด์ของเราอย่างชัดเจน

 

6.ใช้เทคนิคการเขียนเนื้อหาที่ไม่น่าเบื่อ
 

เรียกว่าเป็นการกระตุ้นการมีส่วนร่วมหรือ Call to action ข้อความด้านในควรเป็นประโยคคำพูดเพื่อกระตุ้นให้ผู้รับอีเมลรู้สึกอยากมีส่วนร่วมกับเนื้อหาในอีเมล รวมถึงการเลือกใช้ตัวอักษรที่มีความโดดเด่น เช่น ตัวหนา ตัวเอียง หรือตัวอักษรที่มีสีสันตัดกัน ก็ช่วยดึงดูดความสนใจเช่นเดียวกัน

 

การทำ Email Marketing จะไร้ความหมายหากเราไม่รู้ว่าอีเมลล์ที่เราได้ส่งไปแล้วมากมายมีผลตอบกลับมาอย่างไร ด้วยเหตุนี้เราจึงควรมีระบบติดตามผล ไม่ว่าจะเป็นการเก็บสถิติ อัตราการคลิ๊กอ่าน  อัตราการซื้อสินค้า ฯลฯ ข้อดีของการจัดทำสถิติเหล่านี้จะทำให้เรามีแนวทางว่าควรทำ Email Marketing แบบไหนอย่างไรที่ธุรกิจจะได้ผลดีที่สุด

 

กลยุทธ์อย่าง Email Marketing จัดว่าเป็นการตลาดแนวหนึ่งที่ธุรกิจเลือกเอามาใช้ร่วมกับวิธีอื่นได้ ซึ่งในยุคที่ทุกคนมีอีเมลล์เป็นของตัวเองมีการเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ง่าย วิธีนี้จึงน่าสนใจหากใครที่ยังไม่เคยลองทำตลาดแนวนี้ก็ลองดูได้ไม่เสียหายเพราะว่าไม่มีต้นทุนเพิ่มมากมายแต่อาจได้ผลเพิ่มยอดขายให้กับเราได้ดีขึ้นด้วย

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S