บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    เรื่องราวความสำเร็จ
4.5K
2 นาที
27 กันยายน 2554

ตีโจทย์ "ผู้นำ" ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ

ความรักในงาน จะทำให้คนเกิดความกระตือรือร้น ที่จะพัฒนาความรู้ พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง กระทั่งซีอีโอก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

มนุษย์ทองคำแห่งวงการโบรกเกอร์หุ้น และซีอีโอ ค่าตัวแพงที่สุดติด 1 ใน 10 ของประเทศไทย คือ ฉายาของ ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ซึ่งปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ถือว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดในทางโลกสำหรับผู้ชาย ซึ่งเกิดในครอบครัวที่ไม่มีเส้นสาย มีชีวิตเรียบง่ายไม่ต่างอะไรกับคนต่างจังหวัดทั่วๆ ไป เพราะโชคชะตา หรือ ฟ้าประทานหรือไม่

แม้ว่า ดร.ประสิทธิ์เองจะเชื่อเรื่องของกฏแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หากแต่ที่สอดคล้องและถูกต้องที่สุดน่าจะเป็นพุทธพจน์ "ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน" เสียมากกว่า เท่านั้นยังไม่พอ ความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีใจรัก ไม่มีใครเลือกเกิดได้ และก็คงไม่มีใครเลือกทำงานที่รักได้ แต่จงแสวงหางานที่รักให้เจอ

" ผมรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กว่าตัวเองชอบเป็นผู้นำ นั่นไม่ได้หมายถึง ผมเป็นคนชอบบงการ ในความเป็นจริงผมชอบช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งคำว่าผู้นำ ในที่นี้หมายถึง สิ่งที่จะช่วยจัดการปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้นต่างหาก"

ดังนั้นเมื่อชีวิตมีคำว่า "ผู้นำ" เป็นธงให้ไขว่คว้า เขาก็ไม่เคยลดละความพยายาม

แน่นอนต้องมีเฟล ล้มลุกคุกคลานบ้าง แต่หลักการของดร.ประสิทธิ์ก็คือ ลุกขึ้นแล้วลองถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อพิจารณาหาวิธีที่จะก้าวต่อไปอย่างไม่ผิดพลา

ดร.ประสิทธิ์ นั้นเรียนปริญญาตรีมาทางด้านบัญชี และเมื่อค้นพบว่าคงเอาดีไม่ได้ทางนี้ เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อในศาสตร์อีกหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นรัฐศาสตร์ เอ็มบีเอ กระทั่งไอที

"เรื่องจริง ที่ทุกวงการเป็นเหมือนกัน คือ เด็กรุ่นใหม่ มักนึกฝันว่าฉันต้องทำงานแกรมมี่ หรืออีกหน่อยต้องเป็นซีอีโอ ทำงานแค่เซ็นเอกสารดูแล้วสุดโก้ ซึ่งมันเป็นเพียงความฝัน แต่เอาเข้าจริงคนที่ฝันอยากเป็นดีเจก็ไม่เช็คเสียง คนที่ฝันอยากเป็นนางแบบไม่เช็คหน้า คนที่ฝันอยากเป็นผู้บริหารก็ขี้เกียจ คนที่อยากเป็นนักการตลาดก็ไม่ซื่อสัตย์ ทำนองนี้ "

คุณสมบัติ หรือ สเป็ค ที่คู่ควรกับตำแหน่งงาน กลายเป็นกับดักที่ทำให้หลายคนจนมุม

อย่างไรก็ดี เคล็ดลับของดร.ประสิทธิ์ก็คือ ชีวิตมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้ เมื่อได้ทดลองทำแล้วไม่ชอบ ภายหลังที่เขามีโอกาสทำงานในตลาดทุนซึ่งได้พบปะคนเยอะ มีรายได้แยะ ทำให้ ดร.ประสิทธิ์ รู้ได้ทันทีว่างานนี้ใช่

" ชีวิตผมก็เลยสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่คนอื่นไม่ได้โบนัส แต่ผมได้ตลอด ถ้าเราทดลองทำในสิ่งที่คิดว่าชอบแต่กลับพบว่าไม่ใช่อย่าทำต่อ แก้ไขได้ ลองเลือกเรียนปริญญาโทในสาขาที่รัก อย่าเรียนตามเพื่อน ถ้าได้ทำในสิ่งที่รักจะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน"

ถึงบรรทัดนี้ต้องลองหันมาถามตัวเองว่า เรารักงานที่ทำอยู่หรือไม่

ดร.ประสิทธิ์ยืนยันว่า ความรักในงาน จะทำให้คนเกิดความกระตือรือร้น ที่จะพัฒนาความรู้ พัฒนาตัวเอง อย่างต่อเนื่อง กระทั่งตัวเขาเองในบทบาทซีอีโอทุกวันนี้ ก็ต้องพยายามพัฒนาหาความรู้ให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา

" ซีอีโอไม่ใช่ทำหน้าที่แค่เซ็นเอกสารเท่านั้น ทุกวันนี้ผมจะเซ็ทเวลาที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อบริษัท คือในแต่ละวันก่อน 11 โมงเช้าหลังจากเซ็นเอกสารเสร็จ ผมก็จะ ไปคุยกับพนักงาน กับลูกค้า ไปหาตลาด " เพราะนอกจากจะได้แชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์นำมาต่อยอดเพื่อให้เกิดผลงานดีๆ ยิ่งขึ้น แล้ว ยังได้สานสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูกน้อง เขากับผู้ใหญ่ เขากับลูกค้า ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

อีกทั้งการพัฒนาก็ไม่ควรจะหยุดนิ่ง ซึ่งตำแหน่งซีอีโอ ก็ไม่ใช่ที่สุดของคำว่าผู้นำ เพราะยังมีคำว่าเหนือผู้นำ

"ในตำแหน่งที่ผมยืนอยู่ ความท้าทายก็คือ เราจะเดินไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิมได้อย่างไร วิธีของผมก็คือ ผมจะมองผู้นำที่เหนือกว่าเราว่า เขามีหลักการบริหารงาน มีหลักการทำงานเป็นอย่างไร และเราจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ดีกว่าเขาให้ได้"

คำว่าผู้นำของดร.ประสิทธิ์ ก็คือ บุคคลๆ นั้นต้องเก่ง มีความรู้ความสามารถที่เหนือชั้นกว่าลูกน้องเสมอ

คำว่าผู้นำของดร.ประสิทธิ์ ก็คือ หากยังอ่อนอาวุโสกว่าผู้บริหารท่านอื่นๆ ในองค์กร จำเป็นต้องมีคุณวุฒิที่สูงกว่าเสมอ เป็นเหตุผลที่ว่าซีอีโอท่านนี้จึงมีด็อกเตอร์เป็นคำนำหน้า

และเขาเตือนว่าที่ต้องพึงระมัดระวังก็คือ อย่าพยายามเหยียบเพื่อก้าวข้ามตำแหน่งของคนอื่น

" ผมว่าการก้าวเป็นผู้นำ ไม่ยากและไม่ง่าย ก่อนจะเป็นผู้นำเราต้องเป็นผู้ตามที่มีความตั้งใจ ขยัน พัฒนาคุณสมบัติเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ที่สุดเราก็จะได้รับการโปรโมท แต่อย่าเหยียบใครขึ้นมา เราต้องมองทุกคนเป็นพื่อนไม่ว่าจะเป็นหัวหน้า ลูกน้อง ลูกค้า ทุกคนสำคัญ ลูกค้ารายเล็กก็ต้องดูแลเหมือนรายใหญ่"

เขาบอกว่า การกระทำนี้จะก่อให้เกิดลมใต้ปีก อีกทั้งจะเกิดเป็นฟูกที่อ่อนนุ่มรองรับหากวันใดวันหนึ่งที่ผู้นำเกิดพลาด พลั้งตกลงมา การตกลงจากที่สูงส่วนใหญ่ก็มักเจออาการบาดเจ็บ ทว่าถ้สมีอะไรรองรับจะยังคงความสง่างามไว้ได้ แฮบปี้ -แฮบปี้ และ แฮบปี้

นี่คือสูตรสำเร็จการบริหารองค์กรของผู้นำ ที่ ดร.ประสิทธิ์บอกว่าต้องท่องจำให้ขึ้นใจ

เพราะถ้าองค์กรหรือผู้นำจะรักษาพนักงานเก่งได้ หากทำให้พวกเขาแฮบปี้ การทำให้องค์กรแฮปปี้ก็เพื่อให้ทำให้เกิดความแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้ผู้ถือหุ้นมีความแฮบปี้ด้วยพวกเขาจึงจะไม่ตีจาก

ที่แน่ๆ ในวันนี้พนักงานส่วน Back Office ของคันทรี่กรุ๊ป อาจจะไม่แฮบปี้ นั่นเป็นเพราะนโยบายของ ดร.ประสิทธิ์ที่ให้มองว่า ฝ่ายมาร์เก็ตติ้ง (Front Office) คือพระเจ้า

เขาบอกนี่ไม่ใช่เป็นเพราะความเกลียดชัง หรือการกดขี่ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนเขาว่า ผู้นำ กำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงจากความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วบนโลกใบนี้

ดร.ประสิทธิ์บอกว่า ธุรกิจอยู่ได้ก็เพราะลูกค้า ดังนั้นลูกค้าคือพระเจ้า และผู้ที่ดูแลลูกค้าก็คือมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งต้องทำหน้าที่สนองความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ดังนั้นพนักงานส่วนที่อยู่หลังบ้านต้องให้การสนับสนุน และต้องมองพนักงานมาร์เก็ตติ้งเป็นพระเจ้า เช่นเดียวกัน

"ถ้าทุกคนยอมรับที่สุดจะเกิดการทำงานเป็นทีม และถ้าใครไม่เปลี่ยน ก็คือผู้แพ้ "

อ้างอิงจาก ชนิตา ภระมรทัต

บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,789
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,395
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด