บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
1.5K
3 นาที
31 มกราคม 2562
Future of Digital Marketing
 

ภาพจาก goo.gl/qoiymL

การตลาดในยุคต่อไปจะอิงกับเทคโนโลยีมากขึ้น องค์ประกอบของเทคโนโลยีมีบทบาทมากในช่วงไม่กี่ปีนี้ เราจะพูดถึง internet of Things หุ่นยนต์ AR บล็อคเชนต่างๆ มากมายหรือเกี่ยว Big Data ฯลฯ หัวใจพื้นฐานการทำตลาดในยุคต่อไปคือ
 
Big Data 

หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว เราจะใช้ Big Data อย่างไรได้บ้าง อย่างเคสหนึ่งเป็นร้านอาหารตามสั่งซึ่งในเวลากลางวันคนจะเยอะมากและรอนาน เมื่อเจอปัญหานี้ก็ไปคุยกับเจ้าของร้านว่าเรามาทำให้การบริหารจัดการในของรื่อง data ให้ดีขึ้นดีกว่าไหม ก็เลยบอกให้ลองเก็บข้อมูลว่าอาหารจานไหนที่ถูกสั่งมากที่สุดปรากฏว่าข้าวผัดกระเพราไข่ดาวถูกสั่งมากที่สุด จึง Pre-cook เมนูนี้ไว้ก่อนทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้นมาก นั่นคือตัวอย่างในการเก็บ data เราเอา data ที่มีอยู่ในธุรกิจมาใช้แล้วหรือยัง เราต้องเอา data ที่มีในธุรกิจมาเรียนรู้ มาใช้ นี่คือตัวอย่างที่ทำให้รู้ว่า Big Data เป็นสิ่งที่สำคัญ
 
การตลาดที่มีองค์ประกอบด้านเทคโนโลยีด้านอื่นมาเกี่ยวข้อง
 
ภาพจาก goo.gl/apWy43

เรากำลังพูดถึง Sensor, Connectivity,  People & Processes การตลาดในยุคนี้เริ่มมีองค์ประกอบต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง อุปกรณ์ต่างๆ รอบตัวเราเริ่มเก็บข้อมูลของเราได้ดีมากขึ้น อย่าง Sensor ที่เก็บข้อมูลทุกอย่าง การตลาดยุคใหม่ต้องเอา data + sensor เอาเข้ามาวิเคราะห์ทุกอย่างให้ดีขึ้น 
 
การตลาดยุคใหม่จะเริ่มมี Connectivity เข้ามาเชื่อมโยงในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับใกล้ๆ รวมถึงการเชื่อมต่อโครงข่ายในระดับใหญ่ จุดนี้เองที่จะทำให้วิธีการคิด การ execution วิธีการวางกลยุทธ์จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

และสุดท้ายคือเรื่องของ Process จะเห็นได้ว่าการพัฒนาในเรื่องของการตลาดในเรื่องของเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าคุณยังคิดแบบเดิมๆ ทำแบบเดิมๆ คงได้ผลลัพธ์แบบเดิมๆ แต่ถ้าคุณเอาวิธีการใหม่ๆ เช่น เอา mobile เข้ามาใช้ เอา API เข้ามาใช้ เอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ คุณจะพบว่าการตลาดของคุณจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ฉะนั้นการตลาดยุคใหม่ต้องเอาทั้ง 3 ตัวนี้เข้าด้วยกัน 
 
Personalize

เมื่ออุปกรณ์ต่างๆเริ่มเข้ามามีบทบาทในการเก็บข้อมูลของลูกค้าได้ดีมากขึ้น ก้าวต่อไปของการทำการตลาดจะก้าวสู่การทำ Personalize คือการทำการตลาดให้เหมาะกับบุคคลต่อบุคคล เรามีบุคคล มี data มากมายที่เอามาวิเคราะห์ ในแง่ของการตลาดจะเริ่มมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างที่จะทำให้สำหรับบุคคลคนนั้นได้ไม่ยากเลยทีเดียว 

การตลาดเราคงไม่ทำแบบเดิมอีกต่อไป มันจะ Beyond มากกว่านั้น e-commerce จะเริ่มขยับเข้าสู่การทำ branding และ awareness มากขึ้น เช่นเดียวกันในโลกของเอเจนซี่ที่เป็น branding ก็เริ่มขยับเข้ามาสู่การทำ transaction ด้วยเช่นเดียวกัน สองโลกนี้กำลังถูกประสานเข้าด้วยกัน
 
Segmented Marketing
 
ภาพจาก goo.gl/V3TgaC

บางครั้งการทำการตลาดการทำสินค้า branding ให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องขายแบบพูดรวมๆ บางครั้งหนึ่งแคมเปญที่เราทำอาจจะถูกซอยย่อยลงไปได้ด้วยเหมือนกัน การตลาดในยุคต่อไปจะไม่เป็น mass อีกต่อไป จะเป็นการสื่อสารเฉพาะกลุ่มซึ่งแต่ละกลุ่มจะมี Key Message ที่สามารถเข้าถึง Insight ของแต่ละกลุ่มได้ และจะเกิด Conversion ได้สูงมากกว่า 
 
Smart Recommendation
 
ในยุคต่อไปเมื่อมี data มากขึ้นและเริ่มเอามาวิเคราะห์มากขึ้น จะเริ่มเกิดคำว่า Recommendation บางครั้งเมื่อเรามี data ที่มากเพียงพอ เราจะสามารถคาดการณ์และบอกลูกค้าได้ว่าคุณควรต้องการชิ้นใดต่อไป เริ่มเกิดระบบที่เรียกว่า Smart Recommendation เช่น เรามีข้อมูลว่าลูกค้าคนหนึ่งชอบของสิ่งนี้ คุณจะเริ่มหาสินค้ากลุ่มที่คล้ายๆ กันเพื่อนำเสนอ และยังรู้อีกว่าลูกค้าอีกคนก็ชอบสินค้าที่คล้ายๆ กัน 

นั่นคือการทำ Collaborative Filtering และ Content Filtering ฉะนั้น ถ้าคุณมี e-commerce มีเว็บไซต์อยู่ และด้วย data ที่มีมากมายมหาศาล หากคุณสามารถเอามาวิเคราะห์ต่อได้ คุณจะสามารถ Up Selling & Cross Selling และ recommendation ให้กับลูกค้าได้ไม่ยาก 
 
Wearable Device
 
ภาพจาก goo.gl/tdw7pL

กลุ่มข้อมูลในฝั่ง Wearable กำลังเริ่มเข้ามามากขึ้น เดี๋ยวนี้เราสามารถซื้อ smart watch หรือพวก Xiaomi ในราคาไม่ถึงพันบาท data เหล่านี้มีมากมายมหาศาลและบรรดาพวกอุปกรณ์หรือผู้ผลิตเหล่านี้มี API เปิดให้ นักพัฒนาเราสามารถดึงข้อมูลของแต่ละคนได้ ทำให้สามารถทำแคมเปญ ทำการตลาด ทำการวิเคราะห์และนำเสนอให้กับใครหนึ่งคนได้ทันที 
 
IoT

เราคือเรากำลังเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า  IoT อย่าง AIS มีบริการหนึ่งที่น่าสนใจเป็นบอร์ดเล็กๆ ชื่อว่า NB-IoT คือตัวที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ฉลาดขึ้นเพียงติดตั้งตัวนี้เข้ากับอุปกรณ์ มันมีคอนเซปต์ที่เรียกว่า M2M หรือ  Machine to Machine ซึ่งก็คืออุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งจะสามารถพูดคุยกับอุปกรณ์ตัวอื่นได้โดยตัวบอร์ดตัวนี้จะมีการฝังชิพใส่ซิมเข้าไป ซึ่งตอนนี้จะเห็นว่าอุปกรณ์ต่างๆ เริ่มมีนำมาใช้มากขึ้น ก้าวต่อไปก็ Operator จะ enjoy กับรายได้จากอุปกรณ์ ตอนนี้ตลาดของ M2M มันใหญ่โตมหาศาล เมื่อเรามีข้อมูลเหล่านี้และสามารถเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ในเชิงการตลาดซึ่งจะแม่นยำมากขึ้นเลยทีเดียว ถ้าเอามาใช้ได้ การตลาดที่คุณทำจะ Beyond กว่าที่เคยทำ
 
Face Recognition

ภาพจาก goo.gl/uTx4RR

อีกตัวนึงที่น่าสนใจเป็นเทคโนโลยีที่เริ่มมาแล้วก็คือเรื่อง Face Recognition การตลาดที่เริ่มเป็น personalize มากขึ้น เช่น ป้ายบิลบอร์ดหน้าร้านที่มีกล้องติดอยู่จะเปลี่ยนโฆษณาเพื่อให้เหมาะกับคนที่เดินเข้ามาในร้าน ทำให้โฆษณาในปัจจุบันจะเริ่มเข้าใจลูกค้ามากขึ้น การทำ API แบบนี้ไม่ยาก เดี๋ยวนี้ Google มีบริการ Google Cloud เรียกว่า Cloud Vision API ซึ่งสามารถเขียนต่อเชื่อมโยงหรือให้ Google ทำให้ได้เลย ฝั่ง Microsoft ก็มี Microsoft Azure ซึ่งเป็นตัว Face API แค่อัปโหลดรูปเข้าไปก็สามารถตรวจสอบใบหน้าได้ เราไม่ต้องไปลงทุนในเรื่องของ Face หรือเทคโนโลยีเรื่องใบหน้า ทุกอย่างมีพร้อมหมดแล้วและราคาถูกมาก 
 
Voice

ภาพจาก goo.gl/idwNsb

เป็นเรื่องที่กำลังมาแรง ในอเมริกาที่กำลังฮิตมากคือ Google Home คือสมาร์ทโฮมที่สามารถซื้อมาติดตั้งที่บ้านได้ ในฝั่งของ Apple ออกในตัว HomePod หรือ Amazon เริ่มใช้ voice สั่งซื้อสินค้าได้เลย เมื่อสามารถใช้เสียงสั่งได้ก็จะเริ่มมีการเชื่อมโยงมากขึ้น เพราะจะรู้ว่าคุณเป็นใคร จะสามารถจดจำเสียงได้ รู้ตัวบุคคลได้ด้วยเสียง

ฉะนั้น voice จะเปลี่ยนวิธีคิดของนักการตลาดด้วยเช่นกัน เพราะ Interface ของลูกค้าเปลี่ยนไปจะเริ่มเป็นการใช้เสียงแล้ว ต่อไปการใช้ voice จะอยู่ใน smart display ที่สามารถติดตั้งไว้ในบ้านและสามารถพูดคุยกับมันได้ ต่อไป Google Assistant จะเป็นคีย์สำคัญและจะอยู่ในทุกอุปกรณ์และจะทำให้อุปกรณ์ทุกตัวฉลาด พูดคุยกันรู้เรื่อง เป็นสิ่งที่เราสามารถใช้ AI ในชีวิตประจำวันได้ อยากให้ลองใช้ดู
 
Marketing automation
 
เมืองนอกมีมานานแล้ว Marketing automation คือการตลาดจากเดิมที่ต้องทำแบบ Manual ในทุกขั้นตอน แต่ตอนนี้เริ่มเกิดการทำให้ Connectivity มากขึ้น เช่น แอปที่เป็นพวก connectivity หรือเป็นพวก Middleware อย่าง IFTTT หรืออีกตัวหนึ่งคือ Zapier ที่เป็นเหมือนตัวกลางทำให้อุปกรณ์ต่างๆ และบริการต่างๆ บนโลกพูดคุยกันได้ เช่น เมื่อ Uber มาใกล้ๆ บ้านไฟจะเปิดอัตโนมัติ ฯลฯ

สามารถนำมาใช้ในด้านการตลาดได้ดีมากเลยทีเดียว เช่น เมื่อคุณสร้าง Landing Page ขึ้นและมีลูกค้าเข้ามากรอกแบบฟอร์มเกิด lead มันจะยิงไปที่อีเมล วิ่งเข้ามาที่ระบบ CM เป็นเหมือนตัวกลางที่เมื่อเกิดตรงนี้ปุ๊บมันวิ่งไปตรงนั้นต่อตรงนี้ นี่คือ Marketing Automation flow คือการวางโฟลว์ของการทำการตลาดในแต่ละช่วงเอาไว้ เมื่อเรามีโฟลว์ชัดเจนเราจะเริ่มเอา tools หรือ application ไปรองรับเพื่อคำให้เกิด flow automate ได้ การตลาดต่อไปจะเป็น automate มากขึ้น ไม่ต้องใช้คนอีกต่อไปแล้ว เราแค่เซต tools เซต policy ตั้งแต่ต้นให้ดี ทุกอย่างจะวิ่งเองโดยอัตโนมัติ
 
Social Media

ภาพจาก goo.gl/qoiymL

ต่อไปการตลาดจะไม่ได้ขายเฉพาะคนไทยอีกต่อไป คนจีนเองเริ่มมาใช้ Facebook ADS และมา target คนไทยแล้ว ตอนนี้เราอยู่ในยุคของการตลาดหรือการขายของที่คนขายไม่ได้อยู่ในประเทศเราอีกต่อไปและทำขายคนไทยโดยเฉพาะ ทำทุกอย่างเป็นภาษาไทยหมด มีระบบ Call Center เป็นภาษาไทยแต่ไม่มีตัวตนในประเทศไทย เพราะฉะนั้นการทำ Cross Border หรือการทำการตลาดที่มีลักษณะ Cross Border Marketing จะเริ่มมาแรงมากขึ้น คนทำธุรกิจถ้าหากไม่ปรับตัวก็จะเริ่มเจอคู่แข่งจากต่างประเทศที่จะมาเริ่มตักลูกค้าจากประเทศไทยออกไปนอกประเทศหมด 
 
บทสรุป
  • การตลาดแบบเดิมๆ เริ่มไม่ได้ผลแล้ว ต้องขายได้เลย 
  • Tools ใหม่ๆ มีมามากมาย เรียนรู้และหัดใช้ 
  • ต่างประเทศกำลังเข้ามา (ได้เวลาบุกกลับ) 
  • เมืองไทยเล็กเกินไปแล้ว คิดออกไปนอกประเทศ
  • Marketing + Devices + DATA 
  • ข้อมูลต่างๆ ที่มากมายเหล่านี้จะทำให้นักการตลาดเปิดโลกมากขึ้น
  • จงใช้! สิ่งเหล่านี้ มีโอกาสขอให้ใช้ หากใช้แล้วจะเข้าใจว่าจะสามารถเอามาเป็นใช้กับธุรกิจหรือการตลาดได้อย่างไร 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
792
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด