บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    การบริหารเงินส่วนบุคคล
3.5K
3 นาที
28 กุมภาพันธ์ 2562
7 วิธีเก็บเงินล้าน ที่มนุษย์เงินเดือนทำได้!
 

 
“เงิน” คือสิ่งที่คนเราต้องการ แต่ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้ได้มา ค้นหาในกูเกิ้ลขึ้นมาสารพัดวิธีมีเงินล้าน ภาพรวมแล้วก็มีทั้งบอกให้เก็บออมเอง สร้างวินัยทางการเงิน ลงทุนแบบเงินต่อเงิน แต่ทั้งนี้การจะได้เงินล้านจริงหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะจริงจังแค่ไหน ทุกอาชีพทุกการลงทุนมีโอกาสที่จะไปถึง “เงินล้าน” ด้วยกันทั้งนั้น
 
www.ThaiFranchiseCenter.com ได้รวบรวมเอาวิธีที่พอจะเป็นไปได้มากที่สุดใกล้เคียงกับคนทั่วไปที่น่าจะใช้เป็นวิธีสร้างเงินล้าน ซึ่งวิธีการเหล่านี้ไม่ได้แปลกใหม่เพียงแต่เรามาเน้นย้ำให้เห็นภาพว่านี่คือวิธีที่ทำแล้วได้ผลจริง ส่วนใครเอาไปลองทำแล้วไม่ได้ผลก็ต้องมาดูอีกทีว่าได้ลงมือทำกันจริงจังหรือเปล่า
 
1.มีเงินล้านด้วยการ “เก็บออม”


ภาพจาก goo.gl/images/oxLiGw
 
คนไทยมีรายได้เฉลี่ยที่ 9,350 บาทต่อคน ในขณะที่มีรายจ่ายเฉลี่ยที่ 7,350 บาทต่อคน ขณะที่คนในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลมีรายได้ที่ 15,183 บาทต่อคน โดยมีรายจ่ายเฉลี่ยที่ 11,435 บาทต่อคน ถ้าอีก 1 ปี จำเป็นต้องใช้เงินจำนวน 1 ล้านบาทเราต้องมีเงินเก็บหลังหักค่าใช้จ่าย วันละ 4,200 บาท ต่อวัน เฉลี่ยเดือนละประมาณ 84,000 บาท
 
เดือนนึงทำงาน 20 วัน ใน 1 ปีก็จะมี 4,200x20x12 = 1,008,000 บาท นั่นคือตรรกะความเป็นไปได้ แต่แน่นอนว่าจะเก็บเงินวัน 4,200 คือเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ยิ่งไม่ได้มีกิจการใหญ่โตด้วยแล้ว หาเช้ากินค่ำบางทีเดือนนึงยังเหลือเก็บไม่ถึง 4,200 ด้วยซ้ำ ก็เป็นที่มาของคำว่า “วินัยการเงิน” และ “การเก็บออม” คือวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราทำได้ มีแหล่งความรู้ในอินเทอร์เนตที่สอนให้เรารู้จักทำบัญชีรายรับ รายจ่าย แยกเงินใช้ เงินออม
 
แต่ปัญหาสำคัญคือตัวเราจะมีวินัยการเงินได้มากขนาดไหน ขอยืนยันว่าการเก็บออมสามารถทำให้เรามีเงินล้านได้ อาจจะไม่ใช่ภายใน 1 ปี ส่วนจะกี่ปีก็แล้วแต่แผนที่วางไว้แต่วิธีนี้ถ้าตั้งใจจริงคุณมีเงินล้านแน่นอน
 
2.ไปทำงานต่างประเทศ


ภาพจาก goo.gl/images/FuMpYo
 
งานในต่างประเทศที่คนนิยมไปทำกันส่วนใหญ่คือแรงงานในร้านอาหารเช่น ทำงานตามร้านอาหารไทย ทำงานตาม Fast food ซึ่งค่าแรงจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างที่นิวยอร์คจะอยู่ที่ประมาณ $8-$9 ต่อชั่วโมง สมมติว่าทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน รายได้จะได้ประมาณ $72 โดยส่วนใหญ่เขาให้ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ใน 1 เดือน เราจะมีรายได้  $72 x 5 day x 4 week เท่ากับ $1,500  ต่อเดือน
 
ในอเมริกาจะมีทิปให้พนักงาน สมมติได้ทิปเดือนละ $2,000 รวมรายได้ 3,500 ต่อเดือน ถ้าคิดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทที่ 35 บาทต่อ 1 ดอลล์หาสหรัฐ รายได้จะประมาณ 122,500 บาทต่อเดือน สมมติว่าค่าใช้จ่ายเราประมาณนี้ เราจะมีเงินเก็บเดือนละประมาณ $500-$700 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 17,500-24,500 บาทต่อเดือน ซึ่งบางคนอาจจะเก็บได้มากกว่านี้หรือเก็บได้น้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับอาชีพและการใช้ชีวิต 
 
3.ลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์


ถ้าเราไม่มีเงินทุนอะไรเลยแต่อยากมีเงินล้าน วิธีที่ง่ายที่สุดคือไปซื้อแฟรนไชส์และหาทำเลการขายที่ดี เดี๋ยวนี้มีแฟรนไชส์ราคาย่อมเยาว์จำนวนมากที่ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 5,000 บาท อย่างเช่น แฟรนไชส์ปิ้งย่างที่เขาจะมีวัตถุดิบแถมมาให้เราพร้อมขาย ขายหมดตรงนั้นมีกำไรทันที 2,000 บาท
 
หรือจะเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยจำพวกร้านกาแฟ เบเกอรี่ แฟรนไชส์เหล่านี้เบ็ดเสร็จ ค่าแฟรนไชส์ + ค่าแต่งร้าน ถ้าเลือกขนาดไม่ใหญ่มากการลงทุนไม่เกิน 50,000 บาทแต่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องหรือบางแฟรนไชส์ที่ลงทุนหลักแสนแต่มีกำไรต่อเดือนขั้นต่ำประมาณ 40,000-50,000 บาท ใช้เวลาไม่นานก็คืนทุนที่เหลือคือเงินสะสมที่เราจะเก็บให้ถึง 1 ล้านบาทได้ในเวลาไม่นาน
 
4.ลงทุนกองทุนรวม


ภาพจาก goo.gl/images/2jCq2K
 
กองทุนนั้นมีหลากหลายประเภท ความเสี่ยงและนโยบายการลงทุน ก็ไม่เหมือนกัน โดยปกติแล้วกองทุนรวมหุ้นจะมีความเสี่ยงสูงและให้ผลตอบแทน สูงเฉลี่ยปีละ 10-15% ต่อปี ในขณะที่กองทุนรวมตราสารหนี้จะให้ผลตอบแทน ต่ำกว่า เฉลี่ยปีละประมาณ 2-5% แต่ความเสี่ยงไม่มาก ก็มีโอกาสขาดทุน น้อยกว่า
 
สมมติว่าเรามีเงินเดือน 20,000 บาท ทำงาน 20 วันต่อเดือน แสดงว่าเรามีรายได้เฉลี่ย 1,000 บาทต่อวัน ถ้าเก็บสะสมเดือนละ 1,000 บาท (5% ของรายได้) เวลา 5 ปี ใส่เงินไว้ในกระปุกออมสินมีเงินรวม 60,000 บาท แต่ถ้าเราเปลี่ยนนำเงินมาสะสมไว้ในที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น
 
ยกตัวอย่างเลือกการลงทุนการลงทุนให้ผลตอบแทน 2% เงินของเราเติบโตขึ้นเป็น 63,047 บาท เงินเพิ่มขึ้น 3,047 บาท หรือเลือกกองทุนที่ผลตอบแทน 10% ก็จะทำให้เราเข้าถึงเป้าหมายเงินล้านได้ในเวลาไม่ถึง 10 ปี
 
5.ลงทุนกับการเป็นนายหน้า


ภาพจาก goo.gl/images/dcoi4L
 
นายหน้าอสังหา เป็นอาชีพจับเสือมือเปล่าทำเงินได้เร็ว รวยได้จริง สามารถรับเงินก้อนใหญ่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ด้วยผลตอบแทนที่สูงส่วนใหญ่รับกันอยู่ที่ 3% บางเคสอาจถึง10% เช่น หากขายบ้านได้ในราคา 3 ล้านบาทตัวแทนนายหน้าอสังหาจะได้รับผลตอบแทนในจำนวน 90,000บาท และถ้าขายได้ถึง 10 ล้าน จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 300,000 บาท
 
ลองคิดดูคราวๆ หากปิดจ๊อบได้ทุกๆ 1-2 เดือน จะมีรายได้มากกว่าพนักงานประจำถึง 10 เท่า แถมยังใช้เงินทุนอันแสนน้อยนิด ค่าใช้จ่ายของการเป็นนายหน้าส่วนใหญ่หมดไปกับช่องทางโฆษณา ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ เพื่อติดต่อหาผู้จะซื้อ และมีความเสี่ยงที่ต่ำ ไม่จำเป็นต้องซื้อทรัพย์เป็นเจ้าของทรัพย์เพียงแค่ทำการตลาดเอาทรัพย์ผู้อื่นไปประกาศหาผู้จะซื้อหรือจะขายที่มีความต้องการที่ตรงกัน เพียงแค่นี้ก็สร้างรายได้รับเงินล้านกันได้แล้ว
 
6.รับจำนำของ


ภาพจาก goo.gl/images/juWWQZ
 
วิธีนี้เราจำเป็นต้องมีเงินก้อนไว้เป็นทุนอยู่บ้าง ให้คนที่เดือดร้อนนำสิ่งของมาจำนำกับเราไม่ว่าจะเป็น ทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม  รถยนต์  บ้าน ที่ดิน ซึ่งมีสัญญาจำนำเป็นลายลักษณ์อักษร ตกลงจ่ายดอกเบี้ยตามแต่ตกลง ซึ่งสิ่งของเหล่านี้หากผู้จำนำมาไถ่ถอนคืนก็ต้องจ่ายเงินต้นที่เอาไปคืนกลับมาให้เรา
 
หรือในกรณีที่ยังไม่ไถ่ถอนก็ต้องมาจ่ายดอกเบี้ยให้เราทุกเดือน ในกรณีที่หลุดจำนำ ดอกทบต้น ต้นทบดอกจนจ่ายไม่ไหว เจ้าของต้องปล่อยสินทรัพย์นั้นให้เรายึดไป หรือในกรณีเป็นที่ดินก็อาจจะซื้อขาดในราคาที่ถูกแสนถูก ซึ่งผู้รับจำนำสามารถนำสินทรัพย์เหล่านี้ไปขายต่อในราคาที่ดีกว่าเดิมได้ แต่การจะเป็นผู้รับจำนำก็ต้องมีความรู้เรื่องกฏหมายและมีประสบการณ์ที่มากพอสมควร
 
7.ลงทุนโฮมสเตย์


ภาพจาก goo.gl/images/2WFfVh
 
สำหรับใครที่มีที่ดินเป็นของตัวเองและยิ่งอยู่ในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวด้วยแล้ว แนะนำว่า “โฮมสเตย์” เป็นตัวเลือกที่ดี การลงทุนอาจไม่ต้องถึงขนาดปลูกบ้านพักขึ้นมาใหม่ ถ้าบ้านเรามีขนาดใหญ่พอ ก็สามารถแบ่งให้คนเข้ามาอยู่ได้ โฮมสเตย์เป็นการลงทุนแบบค่อยๆเติบโต ควรเริ่มจากเล็กๆ เงินทุนน้อยๆ ถ้ามีลูกค้าดีก็ค่อยๆต่อเติมขยายให้ใหญ่ขึ้น
 
เดี๋ยวนี้มีตลาดออนไลน์เข้ามาช่วยในการทำธุรกิจโอกาสที่คนจะรู้จักโฮมสเตย์ของเราก็ง่ายขึ้น เสน่ห์ของโฮมสเตย์คือวิถีชีวิตแบบบ้านๆ ที่นักท่องเที่ยวต้องการจะสัมผัส แตกต่างจากโรงแรมห้าดาว หรือรีสอร์ทหรูที่ดูแลลูกค้าเหมือนราวกับเป็นเทวดา แต่โฮมสเตย์คือการอยู่กับวิถีชาวบ้าน มีกิจกรรมแบบชาวบ้าน อาหารการกินแบบชาวบ้าน จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ยิ่งโฮมสเตย์ไหนบริการดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีโอกาสแจ้งเกิดสร้างรายได้มหาศาลตามมาด้วย
 
คำว่า “มีเงินล้าน” คือสิ่งที่ใครๆก็อยากได้ แต่น้อยคนนักที่จะทำได้สำเร็จไม่ใช่เพราะทำยาก แต่เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทำจริงมากกว่า เงินล้านแรกมักหายากกว่าล้านที่สอง นี่คือคำกล่าวที่เราได้ยินมานาน เงินล้านแรกเรายังไม่รู้วิธีการ ต้องลองผิดลองถูกเรียนรู้อยู่นานกว่าจะได้มา แต่เมื่อได้เงินล้านแรกมาเราจะรู้วิธีหาล้านที่สองให้ตามมาได้ไม่ยาก อยู่ที่เราต้องพยายามหาล้านแรกให้ได้ก่อนเท่านั้น
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/sLSQeX
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
605
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
491
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
472
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
413
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
404
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
397
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด