บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    การบริหารเงินส่วนบุคคล
8.9K
3 นาที
26 มีนาคม 2562
6 วิธีเปลี่ยนเงิน 5,000 ให้เป็น 50,000 ในเวลา 6 เดือน


 
ฟังดูแล้วอาจจะหัวเราะพร้อมบอกเลยว่า “เป็นไปไม่ได้” กับการที่มีเงิน 5,000 จะทำให้เป็น 50,000 ได้ในเวลาแค่ 6 เดือน หลายคนบอกพูดได้แต่ทำไม่ได้ แต่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองเรื่องนี้ว่าทำได้ แต่สิ่งสำคัญกับการเริ่มต้นที่เงินหลักพันแต่จะไต่ไปถึงครึ่งแสนในเวลาจำกัด 6 เดือน ถ้าตัดเรื่องโชค เรื่องดวงทิ้งไป เรื่องนี้จำเป็นต้องใช้ความอุตสาหะและตั้งใจ มีระเบียบวินัยในตัวเองแบบสุดๆ
 
ซึ่งทั้ง 6 วิธีการนี้มีหลายคนที่เคยลองทำและก็มีคนทำสำเร็จ ในทางกลับกันก็มีอีกจำนวนมากที่ทำไม่สำเร็จ ความแตกต่างคือ คำว่า “พยายาม” ที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างกันด้วย

1.สร้างแบรนด์สินค้าตัวเอง


ภาพจาก goo.gl/images/kmgQ2W
 
อย่าเพิ่งบอกว่าเพ้อเจ้อ อย่าเพิ่งพูดว่าเป็นไปไม่ได้ เงินแค่ 5,000 จะมาทำแบรนด์สินค้าตัวเองได้ไง เรื่องนี้มีตัวอย่างให้เห็น มีคนทำได้และมีคนทำแล้ว อย่างแบรนด์ “ข้าวเม่ามิกซ์” ที่เจ้าของชื่อ “พี่กาย” อดีตเคยเป็นนักวาดการ์ตูน เมื่อสื่อสิ่งพิมพ์เริ่มถดถอยอาชีพนักวาดการ์ตูนก็เลยไม่ค่อยมีรายได้ พี่กายลองพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับตัวเอง 5,000 เล่ม ปรากฏว่าขายได้น้อยมาก เสี่ยงอดตาย งานก็ไม่มี หนังสือก็ขายไม่ออก นำเงินที่มีน้อยนิดแค่ 5,000 มาลงทุนกับข้าวเม่า ทำเอง ทอดเอง หาตลาดเอง
 
แต่ใช่ว่าจะดีในทันที โดนปฏิเสธมากกว่า กลับมาคิดอีกครั้งคราวนี้เป็นสินค้าข้าวเม่าเหมือนเดิมแต่สอดแทรกการวาดการ์ตูนอ่านฟรีใน Facebook และ Pantip เนื้อเรื่องก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายสู้ชีวิตผู้ผจญภัยตามหาวัตถุมาทำขนมก็สร้างปรากฏการณ์คนอ่าน Follow จำนวนมาก ระหว่างนั้นก็คิดสูตรข้าวเม่าทอดใหม่ๆออกมาด้วย ทอดเอง กินเอง เรียกว่ากินแทนข้าวก็ว่าได้ สุดท้ายเงินทุนหมด ของยังขายไม่ได้


ภาพจาก goo.gl/images/a35Egv
 
กลยุทธ์สุดท้ายคือ เฉลยในการ์ตูนว่าข้าวเม่าที่ตัวการ์ตูนกำลังตามหาคือ “ข้าวเม่ามิกซ์” ใครสนใจสั่งซื้อได้ห่อละ 49 บาท รับออร์เดอร์ทีแรกได้เงิน 30,000 บาท แต่ก็ยังไม่วายโดนด่าเพราะข้าวเม่าที่ส่งให้ลูกค้ามันไม่กรอบเหมือนตอนทอดใหม่ๆ ต้องมาสอบถามผู้รู้และได้เทคนิคว่าต้องซื้อเครื่องอบสินค้าจะได้กรอบนานเป็นเดือน
 
ปัจจุบัน ข้าวเม่ามิกซ์ ของพี่กายกลายเป็นธุรกิจครอบครัวสร้างยอดขาย 30,000 - 50,000 ต่อเดือน เขาใช้เวลาในการก้าวมาถึงจุดนี้ประมาณ 5-7 เดือน แต่เป็น 5-7 เดือนที่สู้แบบถวายชีวิต
 
2.กัดฟันเก็บเงินวันละ 300 บาท


ภาพจาก goo.gl/images/favkAm
 
ต้องเรียกว่ากัดฟันกันเลยทีเดียว เพราะค่าแรงขั้นต่ำตอนนี้ก็แค่ 300 บาทเท่านั้น ไหนจะค่ากิน ค่าน้ำค่าไฟ ค่านมลูก ค่ารถ ค่าจิปาถะ อย่าว่าแต่วันละ 300 เลย บางคนแค่วันละ 30 ยังเก็บไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่พอจะมีแรงและมีกำลังเช่นคนที่มีเงินเดือนประมาณ 20,000 บาท จะมีรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 666 บาท และหากต้องการเงินจำนวน 50,000 ก็ต้องแบ่งมาเก็บวันละ 300 จะเหลือกินเหลือใช้อีกประมาณ 366 บาท
 
หมายความว่าก่อนจะทำแบบนี้ได้เราต้องมีเงินทุนอีกสักก้อนเอาไว้สำรองตอนที่กำลังกัดฟันเก็บเงินก้อนใหม่นี้ แต่วิธีนี้ไม่แนะนำสำหรับคนรายได้น้อยเพราะไม่มีทางทำได้แน่ ที่สำคัญต้องมีวินัยในการเก็บเงินแบบสุดๆ วันแรกๆ อาจไม่เป็นอะไรเท่าไหร่ แต่พอไปกลางเดือน ท้ายเดือนนี่แหละปัญหาว่าจะเก็บได้ไหม วันละ 300 บาท

3.ฝากธนาคารเดือนละ 8,333 บาท


ภาพจาก goo.gl/images/HfCHi8
 
คล้ายกับการเก็บเงินรายวัน แต่มาเปลี่ยนเป็นรายเดือน จะทำให้ดูลดความกดดันสำหรับบางคนได้ ยิ่งบางคนอาจจะทำงานหลายอย่างมีรายได้หลายทาง นอกจากงานประจำอาจจะขายของตลาดนัดตอนเย็น เป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รับงานฟรีแลนด์
 
สิ่งที่ควรทำคือ ต้องรู้ว่าแต่ละเดือนตัวเองมีรายรับเข้ามาเท่าไหร่ มีรายจ่ายออกไปเท่าไหร่ ทางไหนบ้าง และในจำนวนรายรับที่เข้ามาทั้งหมดจะเป็นไปได้ไหมหากจะหักเก็บฝากธนาคารเดือนละ 8,333 บาท พอครบ 6 เดือนเราจะมีเงินในบัญชี 50,000 บาท ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเงินตัวเองเป็นสำคัญ ซึ่งหากวิธีนี้บอกว่าคงไม่ได้ ก็ต้องมาลองดูวิธีอื่นกันต่อไป
 
4.วิธีเปลี่ยนเหรียญเป็นเงิน 50,000

ภาพจาก goo.gl/images/giVz3R

ยังอยู่ที่การออมนี่แหละ คราวนี้ลองลดความกดดันลงไปอีกหน่อยมาลองเก็บเหรียญกันดูบ้าง วิธีการคือ ไม่ใช้เงินเหรียญที่ได้จากการทอนค้าสินค้า จากการขนรถประจำทาง จากการใช้จ่ายในแต่ละวัน เรียกว่าได้เหรียญมาเท่าไหร่ก็เก็บเหรียญไว้ทั้งหมด ถามว่าแล้วจะได้ผลไหม คำตอบคือได้แต่ “นานหน่อย”
 
สมมุติทุกวันเราจะได้เงินเหรียญต่างๆ จากการซื้อสินค้า โน่นนี้นั่น และขึ้นรถลงเรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกวันจะต้องมีเหรียญ 10 เหรียญ 5 เหรียญ 2 บาท เหรียญ 1 บาท เชื่อหรือไม่ว่าบางทีเงินเหรียญที่ได้มีค่าเกือบ 100 บาท ซึ่งมันก็ไม่แน่นอนแล้วแต่รายบุคคล
 
สรุปคือถ้าเราเก็บเหรียญทั้งหมดนี้ในแต่วันคร่าว สัก 70-80 บาทต่อวัน ในระยะเวลา 6 เดือนเราจะมีเงินเหรียญเหล่านี้ประมาณ 15,000 บาท เอ้า! หมื่นห้าไม่ใช่ห้าหมื่น แม้จะดูห่างไกลจากเป้าที่ตั้งใจ ลองตัดเรื่องเวลาออกไปบางคนที่คิดการณ์ไกลเริ่มเก็บเงินแค่วันละ 10 บาทตั้งแต่เรียนปี 1 พอจบ ปี 4 เขาก็มีเงินทุนสำรอง 50,000 บาท ไม่รวมกับเงินก้อนอื่นที่อาจจะมีเก็บเพิ่มไว้ในบัญชีอื่นอีกด้วย
 
5.ซื้อแฟรนไชส์ราคาไม่เกิน 5,000
 
แฟรนไชส์ไหนบ้างที่มองดูแล้วน่าจะมีรายได้ 50,000 ในเวลา 6 เดือน โฟกัสไปที่แฟรนไชส์อาหารปิ้งย่างเพราะขายง่าย ขายดีและลงทุนไม่แพงด้วย ยกตัวอย่างคือ


ภาพจาก goo.gl/images/Hv75bA

ต.เนื้อย่าง มีชุดทดลองขายงบลงทุน 3,000 บาท ได้เนื้อโคขุนติดมัน 500 ไม้ ขายไม้ละ 10 บาท รายได้ 5,000 กำไร 2,000 บาท และคำนวณเล่นๆ ถ้าในแต่วันเราขายเนื้อย่างได้ 100 ไม้ รายได้ 1,000 บาท ใน 1 เดือนมีรายได้ 30,000 บาท หักลบกับต้นทุนวัตถุดิบ ค่าเช่าที่ ค่าจิปาถะก็น่าจะเหลือเดือนละกว่า 10,000 บาท ในเวลา 6 เดือนก็ต้องมีเงินเก็บไม่น้อยกว่า 50,000 ได้แน่


 
หรือจะลองขายหม่าล่า กับแฟรนไชส์ หม่าล่า ซะป๊ะกริลล์ ที่เลือกเซตลงทุนได้ตั้งแต่ 3,000 – 4,000 บาท ได้พริกหม่าล่า และอุปกรณ์เบื้องต้นในการขาย ราคาขายหม่าล่าก็เริ่มต้นไม้ละ 10 บาท รายได้เฉลี่ยก็ใกล้เคียงกับเนื้อย่างและน่าจะเป็นเมนูกินง่าย ขายง่าย ที่รายได้ดีด้วย
 
6.หารายได้เพิ่มจากการทำงานเพิ่ม


ภาพจาก goo.gl/images/8C7aG4
 
ถ้าวิธีการออมแบบต่าง การลงทุนเทรดหุ้น การซื้อแฟรนไชส์ยังไม่เหมาะกับตัวเรา วิธีที่ง่ายและตรงตัวที่สุดคือ ถ้าอยากมีรายได้เพิ่ม ก็ต้อง “ทำงานเพิ่ม” เหตุผลง่ายๆ ถ้าสมมุติเรามีเงินเดือน 15,000 บาท เงินก้อนนี้ต้องใช้กิน ใช้จ่าย จิปาถะ เรียกว่าเดือนชนเดือนหรือบางทีก็ไม่พอใช้ใน 1 เดือนด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินเก็บ แค่จะกินเข้าไปยังไม่พอ
 
แนะนำว่าไปหางานทำเพิ่ม ซึ่งเราต้องแลกกับความเหน็ดเหนื่อยที่มากขึ้น ถามว่าทำงานอะไรได้บ้าง หลังจากเลิกงาน ถ้าไม่เลือกเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ลองไปขายของออนไลน์ หรือไปสมัครตัวแทนประกัน หรือถ้ามีความรู้มากหน่อยรับเป็นติวเตอร์ หรือใครมีความสามารถด้านร้องเพลง เล่นดนตรีก็อาจรับงานพิเศษกลางคืน รายได้จากการทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนี้จะช่วยให้เรามีเงินในแต่ละเดือนเพิ่มมากขึ้น
 
สมมุมติว่าเพิ่มขึ้นมาอีกเดือนละ 10,000 บาทนั้นหมายความว่าเราอาจใช้เงินก้อนนี้สำหรับการเก็บออม และใช้เงินเดือนสำหรับการจับจ่ายใช้สอย ก็จะทำให้เรามีเงิน 50,000 ในเวลาไม่เกิน 6 เดือนได้ แต่ขอบอกว่าวิธีนี้เหนื่อยและทำให้เวลาพักผ่อนเราน้อยลง ก็ควรบริหารจัดการเวลาให้ดีๆ เพราะเสี่ยงที่เงินเก็บของเราอาจต้องใช้จ่ายเป็นค่าหมอรักษาอาการเจ็บป่วยที่พักผ่อนไม่เพียงพอได้
 
อันที่จริงก็ยังมีวิธีแบบไม่ต้องออม ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเสี่ยงเล่นหุ้น แต่เน้นเรื่องโชคและดวงล้วนๆ อย่างการซื้อลอตเตอรี่หรือฉลากออมสิน ที่ลงทุนน้อย แต่โอกาสได้รางวัลใหญ่ๆก็น้อยตามไปด้วยเฉลี่ยโอกาสได้รางวัลใหญ่มีไม่ถึง 1 %
 
วิธีที่ดีที่สุดคือทำงานเพิ่ม เก็บออมไปด้วย และแบ่งเงินเล็กๆน้อยสักเดือนละ 100 มาลองเสี่ยงโชคคู่กันไป ใครจะรู้ว่าถ้าเราดวงดี งานรุ่ง โชคลาภดี อาจได้เงินทั้งจากงานที่ทำ เงินที่เก็บอม และเงินที่เกิดจากการเสี่ยงโชค ถ้า 3 อย่างมาพร้อมกันคำว่าเศรษฐีย่อมๆ อยู่ในกำมือของเราแน่นอน
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/fYVBHQ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
791
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด