“พ่อ” ส่งไม้ต่อ “ลูก” สานต่อธุรกิจ
 

หากวิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จของมหาเศรษฐีไทยหรือธุรกิจที่เติบโตและอยู่มายาวนานหลายทศวรรษ ส่วนใหญ่มักมีพื้นฐานของ “การสืบทอดทายาททางธุรกิจ” พวกเขาสร้างธุรกิจขึ้นมาเพื่อส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานกันทั้งนั้น นั่นเป็นเหตุผลให้ผมคิดถึงเรื่องราวของเอสเอ็มอีไทยที่สานต่อธุรกิจจากรุ่นพ่อถึงรุ่นลูก วิถีความเป็นทายาทธุรกิจ มักมีความเปลี่ยนแปลงทางความคิดจากรุ่นสู่รุ่น

 

ผมจึงตั้งใจเดินทางมาพบ คุณสุเทพ สิมะวรา ประธานกรรมการ บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาอมแก้ไอตะขาบ 5 ตัว ทายาทรุ่น 2 ผู้กุมบังเหียนทำตลาดมายาวนานกว่า 80 ปี แล้วกำลังจะส่งไม้ต่อให้นักบริหารรุ่นลูก (รุ่น 3) ในขณะที่ตราสินค้าที่มีใบหน้าชายสูงวัยชาวจีนกับตะขาบ 5 ตัวล้อมรอบก็ยังเป็นที่จดจำ ไม่จางหายไปจากท้องตลาด ยังมีทั้งคนรุ่นเก่าและเด็กรุ่นใหม่ใช้สินค้าแบรนด์นี้อยู่ และกำลังพัฒนาสานต่อไปในรุ่นที่ 4 เพื่อก้าวสู่ความเป็นอินเตอร์แบรนด์

 

ยุคสมัยก่อให้เกิดความคิดที่แตกต่าง คุณสุเทพเล่าว่า รุ่น1 คือรุ่นเตี่ย ซึ่งเป็นหมอยาจึงริเริ่มทำ “ยาสำเร็จรูป” เลือกโฟกัสเฉพาะยารักษาช่องปากเท่านั้น และเป็นผู้ค้ายารายแรกๆที่พึ่งพาระบบฝากขายในร้านยา พอมาถึงรุ่นของเขาคือรุ่น 2 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สิ่งท้าท้ายคือความคิดว่าจะทำอย่างไรให้ขายสินค้าได้ดีกว่ารุ่นพ่อ เขาเชื่อในคติที่ว่า “มันมีดีกว่านี้ ต้องหามันให้เจอ”

เขาจึงเป็นหัวหอกเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและสร้างมาตรฐานให้กับสินค้าเสมอ โดยเฉพาะด้านบรรจุภัณฑ์จากรูปแบบซองมาสู่รูปแบบตลับ แต่พอมาถึงรุ่น 3 ก็มีการพัฒนาโดยใส่แฟชั่นลงในแบรนด์ เพิ่มความหลากหลายของรสชาติลงไป อย่างยาอมรสขิง ลิ้นจี่ เพราะรู้ว่าผู้บริโภคยุคนี้ใช้เงินไปกับสินค้าแก้เบื่อ เพื่อสุขภาพความงามกันทั้งนั้น
 

เคยได้ยินว่า วิธีการตลาดของคนรุ่นเก่าก็อาจจับมาปัดฝุ่นใช้กับตลาดยุคใหม่ได้ ผมจึงไถ่ถามวิธีการทำตลาดของคนแต่ละรุ่น ที่กลั่นกรองออกมาจากแง่คิดแต่ละยุคสมัย หวังให้เอสเอ็มอีไทยมองเห็นภาพวิธีการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ เผื่อให้ผู้อ่านสามารถจุดประกายและนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้

 

เถ้าแก่ตะขาบ 5 ตัว เล่าว่า คุณพ่อเขาจะใช้กลยุทธ์ประชาสัมพันธ์โดยการ “เล่นปาหี่” ใช้การแสดงเป็นสื่อให้ผู้คนหลั่งไหลมาชมงานเพื่อเป็นโอกาสให้ขายสินค้าได้ง่ายขึ้น แต่พอมารุ่นคุณสุเทพ (รุ่น 2) เขาใช้วิธีออกบูธ แม้จุดประสงค์หลักจะเพื่อการประชาสัมพันธ์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ยอดขายจากพ่อค้าร้านยาที่มาเหมาซื้อนั้นมีจำนวนมาก คุณสุเทพแนะอีกว่าหากผลลัพท์ไม่ได้อย่างที่หวัง อย่าเพิ่งปฏิเสธผลตอบรับที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่ให้มองย้อนกลับไปที่สาเหตุว่าทำไมผลจึงออกมาแบบนั้น และคิดว่าครั้งหน้าควรจะวางแผนงานอย่างไรต่างหาก ส่วนคนรุ่น 3 นั้นเริ่มเดินหน้าเปิดตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งเงินมหาศาลในโลกการตลาดอนาคต โดยอาศัยความเก่าแก่ที่สั่งสมมานั่นแหละสร้างความเชื่อมั่น

 

ถ้าคุณเป็น “พ่อ” ที่กำลังจะส่งไม้ต่อให้ลูก สิ่งที่ควรทำนั้นต้องสร้างให้สายเลือดของคุณสนใจในธุรกิจก่อน ลองให้เขารับผิดชอบในงาน ชี้ให้เห็นอนาคต และความเป็นไปได้ของงานที่เขากำลังจะทำ และที่สำคัญที่สุด ต้องเชื่อใจ เปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ความสามารถและใส่ทัศนคติกับงานได้เต็มที่ เพื่อให้ภูมิใจว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจที่เขาสร้างมันมากับมือ และถ้าคุณเป็น “ผู้สืบทอด” คิดจะสานต่อกิจการนั้น ต้องคิดเสมอว่ากำลังทำในสิ่งที่ตนเองชอบและถนัดจริงๆ เอาใจใส่ ตั้งความหวัง กำหนดจุดหมายให้ชัดเจน ทุ่มเทกำลังสมองและเวลากับงานทุกด้าน และอย่ากลัวที่จะทำผิด เพราะนี่คือบทเรียนที่ดีที่สุด
 

ผมมั่นใจว่า ความคิดที่แตกต่างของทายาทตะขาบ 5 ตัวแต่ละรุ่นแต่ละสมัยและเคล็ดลับต่างๆ จะทำให้เอสเอ็มอีเก๋าเกมทุกรายสามารถอยู่ร่วมกันและสร้างสรรค์ต่อไปได้ เหมือนอย่างทีเอ็มบีเชื่อว่าพลังตัวคุณสามารถเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นได้ เพราะทุกคนมีพลังที่จะสร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์และมีคุณค่าให้แก่ตัวเองและสังคมเสมอ พบกันครั้งหน้า วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม ยังมีเรื่อง SME ในมุมมองอื่นๆที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ

อ้างอิงจาก    TMB SME