บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    การบริหารเงินส่วนบุคคล
2.5K
2 นาที
10 มิถุนายน 2562
เลือกเอา! สร้างหนี้อย่างไรให้รวย อยากรวยต้องเป็นหนี้

 
คำกล่าวติดตลก (แต่บางทีก็ไม่ตลก) เช่น “คนจะรวยต้องเป็นหนี้” “นักธุรกิจเขาก็มีหนี้กันทุกคน” “เคยเห็นขอทานมีหนี้ไหมละ!” อะไรประมาณนี้ แต่สิ่งที่พูดไปนี้คือคำกล่าวแบบรวมๆ แท้ที่จริง “หนี้คนรวย” กับ “หนี้คนจน” มีผลต่อชีวิตต่างกัน นักธุรกิจบางคนมีหนี้ก็จริงแต่เขาก็มีเงินใช้มากมายและทำท่าว่าจะรวย รวย และรวยยิ่งขึ้น ในขณะที่หนี้ของคนจน ก็คือ “หนี้” ที่ต้องชดใช้ ยิ่งใช้ ก็ยิ่งไม่มีเงินเก็บ ยิ่งใช้ หนี้ ก็ยิ่งจนไม่ลืมตาอ้าปากได้สักที
 
www.ThaiFranchiseCenter.com รู้สึกถึงพลังของคำว่า “หนี้” มีผลต่อชีวิตคนไทยอย่างมาก  ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในประเทศ พบว่าคนไทยเริ่มเป็นหนี้กันตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากประชากรที่มีอายุ 30 ปี กลุ่มคนเหล่านี้ตกอยู่ในสถานภาพการเป็นลูกหนี้ถึง 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่คนกลุ่มอายุ 29 ปี 20% ของคนกลุ่มหนี้เป็นหนี้เสีย

ภาพจาก bit.ly/2WyFc8P
 
นอกจากนี้จำนวนประชากรในประเทศที่ตกอยู่ในสภาวะการเป็นลูกหนี้มีจำนวน 21 ล้านคน หรือคิดเป็น 30%ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ โดย 3 ล้านคนหรือคิดเป็น 16% ของผู้มีหนี้ เป็นคนที่มีหนี้เสียหรือหนี้ที่มีระยะเวลาค้างชำระนานกว่า 90 วัน
 
เมื่อเห็นดังนี้หลายคนบอกว่า “หนี้” น่ากลัวยิ่งกว่า ผีไม่น่าแปลกที่พ่อแม่จะสอนลูกหลานว่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าไปเป็นหนี้ใคร อันที่จริง คำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ในความเป็นจริงเช่นกันการเป็น “หนี้” ก็อาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเป็น “หนี้” อย่างมีหลักการ แทนที่จะยิ่งจน อาจจะยิ่งรวยก็ได้
 
ประเภทของหนี้


ภาพจาก bit.ly/2F1s6Gn
 
1.หนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวและก่อให้เกิดภาระทางการเงิน
 
พูดง่ายๆก็คือ หนี้ที่เกิดขึ้นเพราะเราอยากได้โน้นนี่ เช่นมีเงินเดือน 20,000 ซื้อของที่อยากได้ซะ 50,000 จนทำให้รายจ่ายมากกว่ารายรับ และนำเงินอนาคตมาใช้ ใช้บัตรเครดิตมาผ่อน ทำให้เกิดภาระทางการเงินและต้องจ่ายดอกเบี้ยจนหนี้ท่วมเข้าใจว่าความอยากมันห้ามกันได้ยาก แต่ก็เพราะห้ามได้ยากนี่แหละ คำว่า “หนี้” ประเภทนี้ถึงเกิดขึ้น
 
 2.หนี้ที่เกิดประโยชน์ในอนาคต
 
เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้ว่าหนี้ประเภทนี้เกิดจากอะไร ใช่แล้ว!  ก็เช่น ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อที่ดิน  หรือบางทีซื้อรถเพื่อใช้ประโยชน์ก็คือ หนี้ที่อาจจะต้องจ่ายแต่สิ่งที่ได้คืนมาคือหลักประกันในอนาคตที่มั่นคงขึ้น แต่การจะซื้อสินทรัพย์ใดๆ ก็ควรพิจารณาถึงความสามารถในการชำระที่เราต้องกระทำในอนาคต  
 
หากยังมองไม่เห็นภาพว่า “การสร้างหนี้” จะมีผลดีกับชีวิตได้อย่างไร ลองไปดูแนวทางการเป็นหนี้ของนักธุรกิจว่าบางทีเราเห็นคนนี้มีเงินเป็นสิบล้านแต่ทำไมถึงยังยอมเป็นหนี้กู้ธนาคารมาลงทุนไม่ยอมควักทุนตัวเอง
 
มุมมองการสร้างหนี้ ของนักธุรกิจ


ภาพจาก bit.ly/2EY33Eo
 
1.เล็งเห็นประโยชน์ที่มากกว่าในอนาคต
 
เช่น ธุรกิจของเรากำลังไปได้ดี จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มอีก 5 ล้าน เพื่อซื้อเครื่องมือเพิ่มเพื่อรองรับการผลิต หากไม่มีเครื่องมือจะทำให้เสียโอกาสเสียลูกค้า เพราะผลิตไม่ทัน ซึ่งการมีฐานลูกค้าที่ชัดเจนอยู่แล้ว เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงก็ลดลง การกู้เงิน 5 ล้านมาลงทุน  ยังสามารถทำกำไรได้เพิ่มอีก 20-30%
 
แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการกู้เต็มจำนวน ก็สามารถนำเงินทุนตัวเองออกมาช่วยบางส่วน เช่น เงินกู้ 3.5 ล้านบาท เงินตัวเอง 1.5 ล้านบาทก็ได้เช่นกัน อันนี้ต้องอยู่ที่สภาพคล่องของแต่ละธุรกิจ ก็ต้องวางสัดส่วนให้ดี เวลามีปัญหาจะได้ไม่กระทบมากจนเกินไป
 
2.การกู้ช่วยลดหย่อนภาษีได้
 
สำหรับผู้ประกอบการ สามารถนำดอกเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งการที่ธุรกิจไม่มีการกู้เลยก็ดีอีกแบบ แต่ถ้ามีการกู้และมีการส่งผ่อนชำระปกติ ก็จะเป็นการสร้างเครดิตให้กับธุรกิจทำให้เกิดสภาพคล่อง เมื่อมีการกู้เกิดขึ้น ผู้ประกอบการก็สามารถนำดอกเบี้ยไปคำนวณลดหย่อนภาษีได้ หากไม่กู้เลย ก็จะเสียโอกาสในการประหยัดลดหย่อนภาษี
 
3.การกู้เงินเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
 
หากผู้ประกอบการนำเงินเก็บ หรือเงินก้อนสุดท้ายของครอบครัวมาลงทุน หากธุรกิจมีปัญหา อาจจะถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว  การกู้เงินมาลงทุนทั้งหมด หรือกู้บางส่วนมาลงทุน จึงเป็นการกระจายความเสี่ยง เวลาธุรกิจมีปัญหา ก็ยังสามารถเจรจาต่อรองในการผ่อนชำระหนี้ได้ และยังอุ่นใจที่ยังมีเงินส่วนตัวไว้สำรอง ทำให้มีทุนใช้ในช่วงเวลาในช่วงฟื้นตัว และพอประทังให้ธุรกิจอยู่รอดในช่วงวิกฤติ
 
4.การกู้ทำให้ธนาคารเห็นสภาพคล่องและวินัยทางการเงิน


สร้างความน่าเชื่อถือได้ระดับหนึ่ง แต่การกู้เงินธนาคารก็จะดูสัดส่วนของหนี้สินประกอบในการปล่อยกู้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการอยากจะกู้เงินมาทำธุรกิจ หรือขยายกิจการ ต้องคำนึงถึงสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่ใช่กู้ 100% เพื่อมาทำธุรกิจ และไม่มีเงินทุนหมุนเวียน หรือไม่มีเงินฝากและหลักทรัพย์อย่างอื่นเลย
 
หรือในแบบชาวบ้านๆ วิธีสร้างหนี้ที่อาจทำให้รวยได้ก็อย่างการเล่นแชร์  ที่บางคนมีเงินพอติดบัญชีอยู่บ้างเอาไปลงทุนเล่นแชร์ ได้กำไรต่อรอบครั้งละ 2,000 -3,000 ขึ้นอยู่กับมือที่เล่น ซึ่งหากบริหารจัดการเงินส่วนนี้ได้ดีเป็นระบบ ดีกว่าการเอาเงินไปฝากธนาคารที่ได้ดอกเบี้ยปีละไม่กี่บาท แต่การลงทุนเล่นแชร์แบบนี้ก็สร้างความเสี่ยงให้กับตัวเองได้มากเช่นกัน หรือบางคนสร้างหนี้ด้วยการเอาไปลงทุนซื้อแฟรนไชส์ที่มีโอกาสคืนทุนไวภายใน 2-3 เดือน


เช่น ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ 20,000 บาท รวมกับค่าเช่าที่ต่อเดือน ค่าวัตถุดิบในการเปิดร้าน ค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณ 10,000 -20,000 บาท แต่คะเนว่ามีกำไรจากแฟรนไชส์ประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท รายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือนน่าจะคืนทุนและมีกำไร นั่นก็คือการสร้างหนี้ที่มีโอกาสทำให้เรารวยได้ แต่ก็ต้องพิจารณาปัจจัยรอบด้านการตัดสินใจลงทุนด้วยเช่นกัน
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2Jf8ph8
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
643
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
591
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
537
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
484
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
473
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
456
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด