บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.9K
2 นาที
14 มกราคม 2563
นายกฯ ให้ขุดดิน=ขาดความรู้เศรษฐศาสตร์
 

ภาพจาก  www.matichon.co.th

การที่นายกฯ แนะนำให้ชาวบ้านขุดบ่อเพื่อกักเก็บน้ำไว้เองในยามแล้งนั้น แสดงว่านายกฯ และทีมงานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจไม่มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์เท่าที่ควร ถือว่าเป็นอันตรายต่อการบริหารประเทศ
 
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าเมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า “. . .การขุดดินแลกน้ำ ขุดดินแลกบ่อก็ให้ทำกันไปด้วย ส่วนดินที่ขุดเจ้าของที่ก็ขายให้คนที่ขุดไป ตนถามแล้วตามกฎหมายทำได้ ก็ขุดกันบ้าง ถ้าเอาที่ดินทั้งหมดเก็บไว้โดยที่ไม่มีแหล่งน้ำ แล้วจะปลูกอะไรได้ หลายคนก็เป็นห่วงว่าที่น้อย น้ำมาไม่ถึง อย่างไรก็ส่งไม่ถึงแล้วจะทำอย่างไรรัฐบาลจะไปทำอะไรให้ทุกอย่างคงไม่ได้ขนาดนั้น พยายามทำให้มากที่สุด ท่านก็ต้องช่วยตัวเองบ้าง เช่น ขุดบ่อ อย่างน้อยก็มีน้ำอุปโภค บริโภค. . .” <1>
 
การที่นายกฯ กล่าวเช่นนี้ถือว่าอันตรายมาก เพราะขาดความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ ไม่เฉพาะนายกฯ แต่ทีมงานก็คงไม่มีความรู้เพียงพอ จึงปล่อยให้นายกฯ กล่าวออกมาเช่นนี้  สิ่งที่นายกฯ พึงทราบก็คือ
 
1. ในการขุดบ่อดินขนาด 10 ไร่ ที่มีความลาดเอียง 60 องศา (ปกติ 45 องศาถ้าเป็นดินแข็ง แต่ดินลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาภาคกลางค่อนข้างอ่อน คงต้องมีความลาดเอียดสูง) กำหนดให้ขุดลึกลงไป 25 เมตร (ถ้าเกินกว่านั้นคงจะพบน้ำใต้ดิน) และมีขอบบ่อประมาณ 6 เมตรตามกฎหมาย ก็จะได้ดินประมาณ 93,000 ลูกบาศก์เมตร ปกติดินขายในราคา 343.33 บาทต่อลูกบาศก์เมตร <2> ก็จะได้เงิน 31.93 ล้านบาท ทั้งนี้มีกำไรประมาณ 40% หรือ 12.77 ล้านบาท หรือตกไร่ละ 1.2 ล้านบาท (ทอนมาเป็นเงินปัจจุบันจากระยะเวลาในการขุด คงเหลือน้อยกว่านี้)

ในแง่หนึ่งแม้ที่ดินภาคกลางอาจมีราคาประมาณไร่ละ 0.4 ล้านบาท การขุดดินนี้จะมีกำไร  แต่การขุดในที่ดินขนาดเล็กเพียง 10 ไร่ย่อมไม่เพียงพอ การทำบ่อดินใช้ที่ดินขนาดนับร้อยๆ ไร่เป็นสำคัญ  การให้ประชาชนไปรวมตัวทำกันเองจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก  รัฐบาลควรมีส่วนสำคัญในการประสาน
 
2. ปกติเกษตรกรอาจมีที่ดินเฉลี่ยประมาณ 20 ไร่ การขุดบ่อกักเก็บน้ำให้เพียงพอก็คงเป็นไปไม่ได้ อย่างผลผลิตข้าว 1 ไร่ ต้องใช้น้ำประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตร <3> หากปลูกข้าว 20 ไร่ ก็ต้องใช้น้ำ 20,000 ลูกบาศก์เมตร เท่ากับต้องขุดบ่อที่มีขนาดประมาณ 2 ไร่เศษ  การที่จะให้เกษตรกรแต่ละรายขุดบ่อกันเองแบบนี้จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก จะเอาดินไปขายที่ไหน อย่างไร ต้นทุนค่าดำเนินการเป็นอย่างไร การรวมตัวกันเองก็เป็นสิ่งที่ยากเช่นกัน จะจัดแบ่งแปลงที่ดินกันอย่างไร ควรใช้ระบบการจัดรูปที่ดิน (Land Readjustment) <4> มาดำเนินการ
 
3. บ่อขนาดจิ๋วของทางราชการ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท ขนาด 20 x 20 x 3 เมตร <5> ถ้าขุดบ่อขนาด 2 ไร่ ก็คงเป็นเงิน 160,000 บาท ชาวบ้านทั่วไปจะไปหาต้นทุนมาได้อย่างไร  ยิ่งถ้ารวมกันหลายครอบครัว จะพร้อมใจกันลงเงินขุดบ่อได้มากน้อยเพียงใด
 
4. ในการขุดบ่อยังมีต้นทุนบางประการ เช่น ต้นทุนในการทำทางเข้าออกในการขุดบ่อ ต้นทุนการชักน้ำเข้าบ่อ (ไม่ใช่รอแต่การเติมด้วยน้ำฝน) ซึ่งในหลายพื้นที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการนำน้ำจากคลองชลประทานหรือคลองธรรมชาติ เป็นต้น
 
รัฐบาลต้องมีองค์กรบริหารจัดการน้ำและที่ดินที่มีประสิทธิภาพในการสร้างอ่างเก็บน้ำ-เขื่อนในพื้นที่ต่างๆ แม้ในที่ลุ่มเพื่อการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและฝนแล้งอย่างยั่งยืน
 
อ้างอิงจาก  https://bit.ly/2QOruKG
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
631
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
548
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
495
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
464
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
446
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
441
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด