บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.1K
3 นาที
10 มีนาคม 2563
“เลื่อน-ยกเลิก-ขอเงินคืน” เจอแบบนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ควรทำอย่างไร


รายได้หลักของประเทศไทยส่วนหนึ่งมาจาก “การท่องเที่ยว”  แต่อย่างที่ทราบว่าปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ในพื้นที่หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ส่งผลกระทบหลักในด้านการท่องเที่ยว และภายหลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในประเทศที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาด มีทั้งนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน ในขณะที่บางส่วนต้องการขอยกเลิกการเดินทางและขอเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนจากบริษัททัวร์ทันที เกิดเป็นปัญหาขนาดใหญ่ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าต้องใช้เวลาในการแก้ไขยาวนานพอสมควรทีเดียว
 
วิกฤติแค่ไหน! ธุรกิจการท่องเที่ยว ช่วง โควิด-19 ระบาดหนัก
 
ภาพจาก bit.ly/2VYevZO

ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยก้าวสู่ภาวะวิกฤตเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง เนื่องจากตลาดท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักที่ส่งออกนักท่องเที่ยวเข้าไทย จำนวน 10-11 ล้านคนต่อปี หยุดเดินทางทั้งหม ขณะที่ตลาดหลักอื่น ๆ ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน ได้ชะลอและหยุดเดินทางอย่างชัดเจนเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น, เกาหลี, สิงคโปร์, ฮ่องกง, เวียดนาม, ลาว, มาเลเซีย รวมถึงไต้หวัน, สิงคโปร์ ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 7 แสนคนต่อปี ประเทศหลัก ๆ เหล่านี้ส่งออกนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทย รวมกันจำนวนมากกว่า 20 ล้านคนต่อปี หรือคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ราว 60% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย ที่มีจำนวนประมาณ 40 ล้านคนในปีที่ผ่านมา

จากตัวเลขดังกล่าวนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก หลังจากที่ก่อนหน้านี้เผชิญมาหลายวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญเมื่อปี 2559-2560 หรือเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ตเมื่อกลางปี 2561
 
เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวของคนไทยที่จะไปยังต่างประเทศ นักท่องเที่ยวคนไทยก็ได้หยุดเดินทางเข้าจีนไป 100% รวมทั้งหยุดและชะลอการเดินทางไปยังประเทศใกล้เคียงและประเทศที่มีการเตือนให้เฝ้าระวังอย่างชัดเจนเช่น ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ไต้หวัน, เกาหลี, ฮ่องกง เป็นต้น

รวมถึงประเทศท่องเที่ยวปลายทางระยะไกลทั้งอเมริกา, ยุโรป, รัสเซีย ฯลฯ ก็อยู่ในภาวะชะลอการเดินทางและ จากการประกาศแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการเดินทางไปยังประเทศที่มีความสุ่มเสี่ยงของกระทรวงสาธารณสุขที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าจำนวนมากกังวลและไม่อยากเดินทาง ทำให้เกิดการแจ้งยกเลิกการเดินทางและขอเงินคืนจำนวนมาก ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ เอเย่นต์ทัวร์ไม่มีเงินสำรองจ่ายคืนให้กับลูกค้าเพราะสายการบิน, โรงแรม ฯลฯ บางส่วนก็ยังไม่มีนโยบายคืนเงินให้ลูกค้าเช่นกัน
 
มาตรการภาครัฐเบื้องต้น “เยียวยาผู้ประกอบการท่องเที่ยว”
 
ภาพจาก bit.ly/3aHLnKt

เมื่อเกิดวิกฤติหนักขนาดนี้ในภาคธุรกิจท่องเที่ยว เกิดคำถามว่า เจอเหตุการณ์ “เลื่อน –ยกเลิก – ขอเงินคืน” แบบนี้ผู้ประกอบการจะต้องทำอย่างไร เบื้องต้นกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และภาคเอกชนได้หารือกันจนได้ข้อสรุปออกมาเป็น 5 มาตรการหลัก เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทั้งภาคเอกชนและลูกจ้างพนักงานได้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ในช่วงนี้
  1. มาตรการเสริมสภาพคล่องสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นชั่วคราว และลดอัตราดอกเบี้ยลงจากสัญญาเดิม รวมถึงการออกสินเชื่อเสริมสภาพคล่องดอกเบี้ยต่ำ
  2. มาตรการช่วยเหลือลูกจ้างและพนักงานของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ แยกเป็น ผ่อนปรนชำระหนี้เงินต้นชั่วคราวสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เป็นระยะเวลา 1 ปี, ผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นชั่วคราวสำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเป็นระยะเวลา 1 ปี และลดดอกเบี้ยหรือแปลงหนี้เดิมทั้งหมดเป็นสินเชื่อใหม่ ระยะเวลาผ่อนชำระ 5-8 ปี
  3. มาตรการภาษีเพื่อพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ด้วยการขยายระยะเวลาชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปอีกระยะหนึ่ง และให้ผ่อนชำระภาษีได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน, ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในประเทศทั้งแพ็คเกจทัวร์ในประเทศ ค่าโรงแรมที่พัก ค่าเดินทาง และค่าบริการที่เกี่ยวข้อง
  4. มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายเพื่อจูงใจให้ธุรกิจรักษาการจ้างงาน ทั้งยืดการจ่ายค่าเช่าที่ดินของรัฐ, ลดหรือยืดหรือผ่อนชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าไฟฟ้า, ยืดการจ่ายค่าต่อทะเบียนยานพาหนะที่ใช้ในธุรกิจท่องเที่ยว
  5. จัดทำโครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท.อบรมเพิ่มพูนทักษะพร้อมเสริมรายได้แก่แรงงานที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว 
สายการบินก็มีมาตรการ “ช่วยเหลือ” ในภาวะวิกฤติ

ภาพจาก https://s.nikkei.com/39DUA6w

ระยะเร่งด่วน ทางบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะมีมาตรการผ่อนผัน กรณีมีการขอเลื่อนกำหนดการบิน สามารถเลื่อนได้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากนักท่องเที่ยวหรือบริษัททัวร์มีความจำเป็นต้องเลื่อนต่อไปอีก จะเลื่อนได้ไม่เกินวันที่ 15 ธันวาคม 2563 และจะต้องพิจารณาว่า เป็นการเลื่อนในเส้นทางเดียวกันหรือไม่ หากเปลี่ยนเส้นทางอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างเพิ่ม
 
บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ได้แบ่งกลุ่มบัตรโดยสารเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มบัตรโดยสารแบบซีรีย์ ซึ่งบริษัททัวร์ได้วางมัดจำบัตรโดยสารเครื่องบินตลอดทั้งปี (แบบระยะยาว) ในเส้นทางญี่ปุ่น ทางสายการบินนกแอร์จะยกเลิกค่าธรรมเนียมให้ แต่ยังคงเก็บค่าส่วนต่างที่เกิดขึ้น และกลุ่มบัตรโดยสารแบบกลุ่ม สามารถนำไปใช้ในภายหลังได้ (ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี) เพื่อให้บริษัททัวร์ มีระยะเวลาและ ความคล่องตัวในการจัดการธุรกิจ รวมถึงนักท่องเที่ยวจะได้มีทางเลือกในการเดินทางและได้รับเงินคืนจากบริษัททัวร์มากที่สุด 
 
ในส่วนของกรมท่าอากาศยาน จะเสนอปรับลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน แก่สายการบินในช่วงภาวะวิกฤตนี้ รวมถึงจะเสนอให้ปรับลดค่าเช่าของผู้ประกอบการรถเช่าที่ใช้พื้นที่ของสนามบิน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ
 
แนวทางของการ “ขอเงินคืน” จากบริษัทท่องเที่ยว
 
ภาพจาก bit.ly/39Fe0Yu

หลายคนอาจจะวางแผนท่องเที่ยวไว้เป็นอย่างดีแต่จู่ๆ มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ทำให้จำเป็นต้องเลื่อน ยกเลิก นำมาสู่การ “ขอเงินคืน” จากผู้ประกอบการซึ่งอ้างอิงจาก ประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับอัตราการจ่ายเงินค่าบริการค่นให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ.2553 ระบุว่า
  1. ขอยกเลิกก่อนเดินทางมากกว่า 30 วัน (30+)
    • ค่าทัวร์ที่จ่ายไปแล้ว 100% -  ค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริงของบริษัททัวร์ (ถ้ามี) = เงินที่ได้คืน
  2. ขอยกเลิกก่อนเดินทาง 15-29 วัน
    • ค่าทัวร์ที่จ่ายไปแล้ว 50% - ค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริงของบริษัททัวร์ (ถ้ามี) = เงินที่ได้คืน
  3. ขอยกเลิกก่อนเดินทาง 0-14 วัน
    • ไม่ได้เงินคืน
*** ค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริงของบริษัททัวร์ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า , ค่ามัดจำของบัตรโดยสารเครื่องบิน , ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ โดยต้องแสดงหลักฐานการจ่ายให้นักท่องเที่ยวทราบด้วย***
 
แต่หากค่าใช้จ่ายของบริษัททัวร์สูงกว่าเงินค่าบริการนำเที่ยวที่นักท่องเที่ยวได้ชำระไว้ บริษัททัวร์จะไม่สามารถเรียกเก็บเงินเพิ่มจากนักท่องเที่ยวได้
 
ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ถือว่าใหญ่ระดับโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยแต่ทั่วโลกได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน สถานการณ์ของการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ก็ยังไม่คลี่คลาย และแม้จะคลี่คลายการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็คงต้องใช้เวลา

คาดว่าในระยะเวลาครึ่งปีแรกนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศไทยน่าจะไม่เติบโตได้ตามเป้าเป็นแน่ ก็คงต้องมาดูความสามารถในการบริหารจัดการของภาครัฐว่าจะทำอย่างไร จะมีมาตรการอะไรที่ดีกว่าการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ อันนี้ต้องติดตาม
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
650
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
601
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
542
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
499
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
493
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
459
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด