บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
3.0K
3 นาที
23 มีนาคม 2563
คาดการณ์ คนกรุงเทพฯติดเชื้อ COVID-19 ทะลุ 2 หมื่นคน!


 
อย่าเพิ่งตื่นตระหนก! อย่าเพิ่งตกใจ! ย้ำว่าเป็นแค่ “คาดการณ์” ว่าคนกรุงเทพฯมีโอกาสที่จะติดเชื้อ โควิด-19 ทะลุเกินกว่า 20,000 คน ซึ่งหากอัพเดทจำนวนล่าสุดถึง ณ ตอนนี้ (23 มีนาคม 2563 ) พบผู้ป่วยใหม่ในประเทศ 122 ราย  รักษาหายแล้ว 52 ราย  รักษาตัว 668 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 721 ราย อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง 10,955 ราย ซึ่งหากดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ยังห่างจาก 20,000 อยู่เยอะ แต่อย่าลืมว่าตัวเลขในเกณฑ์เฝ้าระวังนั้นคือ 10,955 ซึ่งแน่นอนว่าในจำนวนนี้ไม่ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นผู้ป่วยทั้งหมดแต่ก็ต้องมีบ้างจะมากน้อยเท่านั้น
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาอัตราการตรวจพบผู้ติดเชื้อเริ่มมีมากขึ้น ลักษณะคล้ายกันกับที่อู่ฮั่นช่วงที่ระบาดหนักๆ ก็มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อ มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น  ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ส่วนมากหรือประมาณ 80% จะมีอาการไม่รุนแรง ขณะที่ผู้ติดเชื้ออีก 15% จะมีอาการรุนแรง จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล และอีก 5% จะมีอาการรุนแรงมาก จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 3%

และหากมามองดูตัวเลขคนติดเชื้อ โควิด-19 ในช่วง 5 วันที่ผ่านมาจะพบว่า
  • 18 มีนาคม จำนวน 35 ราย
  • 19 มีนาคม จำนวน 60 ราย
  • 20 มีนาคม จำนวน 50 ราย
  • 21 มีนาคม จำนวน 89 ราย
  • 22 มีนาคม จำนวน 188 ราย
  • 23 มีนาคม จำนวน 122 ราย

ภาพจาก THAI NEWS PIX
 
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประเทศไทยตรวจพบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศแค่ 30-40 คน และตัวเลขก็นิ่งอยู่แบบนั้นมาเป็นระยะเวลานาน คำถามคือ ทำไม? และ เกิดอะไรขึ้น? ตัวเลขในช่วงหลังถึงก้าวกระโดดได้อย่างน่าตกใจเช่นนี้
เหตุผลสำคัญคือ “สนามมวย” ที่ตอนนี้กลายเป็นแหล่งกระจายเชื้อโรคไปสู่บุคคลอื่นได้อย่างรวดเร็ว เพราะหากติดตามข่าวว่าในสนามมวยวันนั้น มียอดคนเข้าชมกว่า 7,000 หรืออาจะมากกว่าและเมื่อเกิดการติดเชื้อและผู้ที่อยู่ในสนามมวยก็ไม่รู้ตัว เมื่อออกจกสนามมวยก็ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และเริ่มนำมาสู่ปฐมบทแห่งการ “แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว” จนถึง ณ ตอนนี้
 
โอกาสติดเชื้อของคนกรุงเทพฯ มีโอกาสแตะ 20,000 ตามทฤษฏี 1:1.6


ภาพจาก bit.ly/3dpH1K0
 
สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้พูดถึงข้อมูลเรื่องการคาดการณ์ผู้ป่วยไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในประเทศไทย ด้วยสมมติฐานว่า คนติดเชื้อโควิด-19  โดย 1 คน แพร่เชื้อให้คนรอบข้างได้ 1.6 คน ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ 90%  ที่เหลือ 10% กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยคาดว่าในพื้นที่ต่างจังหวัดจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ตัวเลขผู้ป่วยถึงจะเขยิบเทียบเคียงพื้นที่กรุงเทพ
 
โดยคาดว่าการระบาดจะพีคสุดในช่วงปลายเดือน เม.ย. - ต้นเดือน พ.ค. นี้ ในส่วนของกรุงเทพฯหลังมีจากมีมาตรการต่างๆ เข้ามาป้องกันทั้งการปิดชั่วคราวสถานที่สุ่มเสี่ยงต่างๆ  แต่ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคมที่คาดว่าจะมีการเคลื่อนที่ของประชากรตามเทศกาลมากขึ้น อันจะเป็นการแพร่กระจายเชื้อได้มากขึ้น ทำให้สุ่มเสี่ยงว่าคนกรุงเทพอาจจะได้รับเชื้อเกินกว่า 20,000 คน และตัวเลขในต่างจังหวัดหลังจากช่วงเวลานี้คาดการณ์ว่าจะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
 
คาดการณ์แพร่ระบาดโควิด -19 ในไทย 3 รูปแบบที่อาจจะต้องเจอ


ภาพจาก bit.ly/3bky4A1
 
ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ระยะที่ 3 ในประเทศไทยเอาไว้ 3 รูปแบบ ดังนี้
 
1. รุนแรงที่สุด ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยทั้งหมด 16,700,000 คน ในระยะเวลา 1 ปี (ผู้ป่วย 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นอีก 2.2 คน) โดยจุดที่พบผู้ป่วยสูงสุด จะอยู่ที่ 1,500,000 คน/สัปดาห์
 
2. ชะลอการระบาดได้ ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยทั้งหมด 9,900,000 คน ในระยะเวลา 2 ปี (ผู้ป่วย 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นอีก 1.8 คน) โดยจุดที่พบผู้ป่วยสูงสุด จะอยู่ที่ 480,000 คน/สัปดาห์
 
3. ควบคุมโรคได้ดี ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยทั้งหมด 400,000 คน ในระยะเวลา 2 ปี (ผู้ป่วย 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นอีก 1.6 คน) โดยจุดที่พบผู้ป่วยสูงสุด จะอยู่ที่ 20,000 คน/สัปดาห์
 
จากสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งไทยได้ดำเนินมาตรการควบคุมโรคมาอย่างต่อเนื่อง การระบาดรุนแรง รูปแบบที่ 1 จึงไม่น่าเกิดขึ้น แต่การระบาดในรูปแบบที่ 2 และรูปแบบที่ 3 ยังมีความเป็นไปได้ทั้งคู่ ซึ่งถ้าไทยสามารถชะลอการระบาดได้ (รูปแบบที่ 2) โดยใช้มาตรการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ และได้รับความร่วมมือจากประชาชน การระบาดเป็นวงกว้างจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ จนเข้าสู่จุดที่พบผู้ป่วยสูงสุด 480,000 คน/สัปดาห์ ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. 64 รวมทั้งประเทศจะมีผู้ป่วยประมาณ 9.9 ล้านคน ในระยะเวลา 2 ปี


ภาพจาก bit.ly/2vGrogj
 
แต่หากไทยสามารถควบคุมโรคได้ดี (รูปแบบที่ 3) ใช้มาตรการเข้มข้น งดกิจกรรมรวมตัว งดการเคลื่อนย้ายของคนจำนวนมาก เช่น การเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงสงกรานต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดจากแพร่เชื้อจากคนใน กทม. ไปสู่ต่างจังหวัด รวมถึงป้องกันการระบาดในที่ทำงานและสถานศึกษา ถ้าทำได้ก็จะสามารถลดการแพร่เชื้อให้เกิดขึ้นน้อยลง โดยจุดพบผู้ป่วยสูงสุดจะอยู่ที่ 20,000 คน/สัปดาห์ รวมทั้งประเทศแล้วจะมีผู้ป่วยประมาณ 400,000 คน ในระยะเวลา 2 ปี และโรคนี้จะกลายเป็นโรคที่เกิดตามฤดูกาล คล้ายไข้หวัดใหญ่
 
WHO เผย โควิด-19 เป็น Airborne


ภาพจาก bit.ly/3beXnmQ
 
ข้อมูลที่น่าตกใจอันใหม่ที่หัวหน้าฝ่ายโรคระบาดใหม่และโรคที่รับจากสัตว์ขององค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า เชื้อโควิด 19 สามารถแพร่ระบาดผ่านละออง หรือของเหลวเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ผ่านทางการไอหรือจาม เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องอยู่ในละอองลอย เช่นในโรงพยาบาล อาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเอนุภาคของละอองลอยเหล่านี้ ซึ่งหมายความว่า ไวรัสสามารถอยู่ในอากาศได้นานขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ในอากาศได้นานกว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งจากที่เราเข้าใจว่าถ้าอยู่ห่างกันในระยะ 1 เมตรจะป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 ได้ หากเป็นจริงตามที่ว่านี้ก็เท่ากับไม่มีพื้นที่ปลอดภัยให้เราอีกดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน อันจะเป็นการป้องกันได้ดีและพยายามหลีกเลี่ยงที่ชุมนุมชน งดกิจกรรมรวมกลุ่มต่างๆ  เพื่อสกัดและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้ได้เร็วที่สุด


ภาพจาก bbc.in/2QC8yhR
 
อย่างไรก็ดีองค์การอนามัยโลกยังเผยว่า โควิด 19 แม้การแพร่ระบาดจะหนักหน่วงรวดเร็วแต่ สำหรับกรณีที่อาการป่วยปอดอักเสบขั้นรุนแรง อาจมีเพียง 1 ใน 400 เท่านั้น ซึ่งไม่ถึง 0.25% สมมติมีคนติดเชื้อ 100 คน ในจำนวนนี้ 80 คนจะไม่แสดงอาการ เหลือเพียง 20 คน ที่ป่วยเข้ารักษา โดยครึ่งหนึ่งหรือ 10 คน ถึงจะมีอาการปอดอักเสบ แต่ก็มีโอกาสน้อยที่จะอักเสบอย่างรุนแรง แต่ไม่ว่าจะรุนแรงหรือไม่รุนแรง โควิด 19 ก็ได้ชื่อว่าเป็นความหายนะของคนทั้งโลกที่ตอนนี้ยังไม่ต้องไปคิดว่าหลังจากนี้จะทำยังไง เอาแค่ตอนนี้ควบคุมสถานการณ์ให้ได้ ยับยั้งการแพร่ระบาดให้ได้ ถ้ายังทำไม่ได้มัวไปคิดเรื่องอื่นๆ ก็คงจะเสียเวลากันเปล่าๆ บางทีต้องถึงเวลาที่ภาครัฐ “ยอมเจ็บแต่จบ” ดีกว่าปล่อยให้ยืดยื้อต่อไปซึ่งไม่ดีแน่นอน
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id:
 @thaifranchise
 
  
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
510
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
431
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
414
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
412
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด